พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีทรัพย์มรดก: ศาลฎีกาพิจารณาว่าโจทก์มิได้เป็นคู่ความในคดีก่อน จึงไม่ผูกพันตามคำพิพากษา
ภรรยาโจทก์คดีนี้ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีก่อนขอแบ่งมรดกศาลฎีกาตัดสินคดีนั้นว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นมรดกให้แบ่งระหว่างภรรยาโจทก์กับจำเลยทั้งสามในคดีนี้คนละส่วนดังนี้ โจทก์ผู้เป็นสามีกลับมาฟ้องขอให้ห้ามจำเลยทั้งสามเกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาทนั้นได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 เพราะในคดีก่อนโจทก์ไม่ได้เข้าเป็นคู่ความด้วย และในคดีก่อนก็มิใช่คดีที่ศาลได้มีคำสั่งให้ขับไล่ภรรยาโจทก์ตามมาตรา 142(1) ฉะนั้นจะใช้คำพิพากษาในคดีก่อนบังคับตลอดถึงบริวารด้วยย่อมไม่ตรงกับเรื่อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลาและการฟ้องขับไล่
การเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลาผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2500 อันเป็นระยะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่าของเดือนที่ล่วงแล้ว และยังฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 11 มีนาคม2500 ถือว่าได้บอกเลิกสัญญาครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าไม่มีกำหนดเวลา การฟ้องขับไล่ และระยะเวลาบอกเลิกสัญญา
การเช่าที่ไม่มีกำหนดเวลา ผู้ให้เช่าบอกเลิกสัญญาเช่าตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2500 อันเป็นระยะเมื่อสุดระยะเวลาอันเป็นกำหนดชำระค่าเช่าของเดือนที่ล่วงแล้ว และยังฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2500 ถือว่า ได้บอกเลิกสัญญาครบถ้วนตาม ป.พ.พ. มาตรา 566
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นการนำบทบัญญัติสนับสนุนความผิดมาใช้กับความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพนันไพ่ผ่องไม่รับอนุญาตเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นผู้เข้าเล่นพนันแม้จำเลยที่ 1 รับสารภาพตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานสมรู้หรือสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 ไม่ได้เพราะแม้ว่าประมวลกฎหมายอาญา ม.17 ให้นำบทบัญญัติในภาค1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย ก็ตาม. แต่ข้อความในตอนท้ายแห่ง ม.17 นี้เองก็มีข้อยกเว้นอยู่ว่า.'เว้นแต่กฎหมายนั้นๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น'. กรณีสำหรับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเพียงผู้จัดให้มีการเล่นพนันก็ได้มี พ.ร.บ.การพนันพ.ศ.2478 ม.4,12 บัญญัติความผิดไว้เป็นอย่างอื่นชัดแจ้งแล้ว. จึงเข้าข้อยกเว้นที่จะนำเอาบทบัญญัติเรื่องสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.86 มาใช้ หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นการใช้บทสนับสนุนความผิดอาญาในความผิด พ.ร.บ.การพนัน ผู้จัดให้เล่นพนันไม่ต้องรับโทษฐานสนับสนุน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพนันไพ่ผ่องไม่รับอนุญาตเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นผู้เข้าเล่นพนัน แม้จำเลยที่ 1 รับสารภาพตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐาน สมรู้หรือสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลก.ม. อาญา ม. 86 ไม่ได้ เพราะแม้ว่าประมวล ก.ม. อาญา ม.17 ให้นำบทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวล ก.ม. อาญา มาใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย ก็ตาม แต่ข้อความในตอนท้ายแห่ง ม. 17 นี้เองก็มีข้อยกเว้นอยู่ว่า "เว้นแต่กฎหมายนั้น ๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น" กรณีสำหรับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเพียงผู้จัดให้มีการเล่นพนันก็ได้มี พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 ม. 4, 12 บัญญัติความผิดไว้เป็นอย่างอื่นชัดแจ้งแล้ว จึงเข้าข้อยกเว้นที่จะนำเอาบทบัญญัติเรื่องสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 86 มาใช้ หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเปรียบเทียบของพนักงานสอบสวนในคดีทำร้ายร่างกาย: ประเด็นบาดแผลถึงบาดเจ็บและการยินยอม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์ถึงบาดเจ็บ แต่พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับจำเลยโดยไม่มีอำนาจทำได้ เพราะบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บ จำเลยต่อสู้ว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้ว ดังนี้ ประเด็นเรื่องการสอบสวนจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อยู่ที่บาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บหรือไม่ ถ้าบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บเป็นความผิดตามมาตรา 254 พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจเปรียบเทียบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ ๆ จึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่า ผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ ๆ จึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเปรียบเทียบความผิดทำร้ายร่างกายขึ้นอยู่กับบาดแผลถึงขั้นบาดเจ็บหรือไม่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์ถึงบาดเจ็บ แต่พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับจำเลยโดยไม่มีอำนาจทำได้เพราะบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บจำเลยต่อสู้ว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนมีอำนาจเปรียบเทียบได้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปแล้วดังนี้ ประเด็นเรื่องการสอบสวนจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อยู่ที่บาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บหรือไม่ ถ้าบาดแผลของโจทก์ถึงบาดเจ็บเป็นความผิดตามมาตรา 254 พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจเปรียบเทียบ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้วแต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่าผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบจึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า บาดแผลของโจทก์ไม่ถึงบาดเจ็บ การเปรียบเทียบชอบด้วยกฎหมายแล้ว สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไปแล้วแต่ศาลอุทธรณ์กลับไปวินิจฉัยว่าผู้เสียหายและผู้ต้องหาไม่ได้ให้ความยินยอมในการเปรียบเทียบ การเปรียบเทียบจึงใช้ไม่ได้ ดังนี้ เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งของมีค่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 620: สินค้าธรรมดาไม่ถือเป็นของมีค่า
สินค้าผ้าเป็นสิ่งของธรรมดาสามัญทั่วๆ ไปเมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นของมีค่าพิเศษอย่างไร จะถือว่าเป็นของมีค่าตามความหมายแห่ง มาตรา620 ยังไม่ได้
ของมีค่าอย่างอื่นๆ ตามที่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 620 บัญญัติไว้นั้น น่าจะหมายถึงสิ่งของมีค่าทำนองเดียวกับของตามที่ระบุไว้ในบทมาตรานี้
ของมีค่าอย่างอื่นๆ ตามที่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 620 บัญญัติไว้นั้น น่าจะหมายถึงสิ่งของมีค่าทำนองเดียวกับของตามที่ระบุไว้ในบทมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของมีค่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 620: สินค้าธรรมดาไม่ใช่ของมีค่าพิเศษ
สินค้าผ้าเป็นสิ่งของธรรมดาสามัญทั่ว ๆ ไป เมื่อไม่ปรากฏว่าเป็นของมีค่าพิเศษอย่างไร จะถือว่าเป็นของมีค่าตามความหมายแห่ง ม. 620 ยังไม่ได้
ของมีค่าอย่างอื่น ๆตามที่ ป.พ.พ. มาตรา 620 บัญญัติไว้นั้น น่าจะหมายถึงสิ่งของมีค่าทำนองเดียวกับของตามที่ระบุไว้ในบทมาตรานี้
ของมีค่าอย่างอื่น ๆตามที่ ป.พ.พ. มาตรา 620 บัญญัติไว้นั้น น่าจะหมายถึงสิ่งของมีค่าทำนองเดียวกับของตามที่ระบุไว้ในบทมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 354/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยบันดาลโทษาจากเหตุถูกข่มเหง: การต่อสู้ป้องกันตัวและสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความบันดาลโทษา
ผู้ตายได้มาร้องด่าท้าทาย พ่อตาจำเลยและจำเลยอยู่ที่ประตูรั้วบ้านด้วยถ้อยคำหยาบช้าต่าง ๆ แล้วจำเลยกระโจนลงจากเรือนไป เมื่อผู้ตายเข้ามาในบริเวณ บ้านเกิดต่อสู้ทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันผู้ตายมีมีดยาวประมาณ 1 ศอกจำเลยมีหอกยาว 140 ซ.ม. ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ ถือว่า จำเลยได้กระทำโดยบันดาลโทษา โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม
จำเลยถูกผู้ตายร้องค่าท้ายทายก่อนถึง 2 ครั้ง ในระยะใกล้ชิดติดกัน ผู้ตายยังบังอาจถือมีดเข้ามาในลานบ้านของจำเลยอีกดังนี้ เป็นเหตุให้ศาลลงโทษาสถานเบา
จำเลยถูกผู้ตายร้องค่าท้ายทายก่อนถึง 2 ครั้ง ในระยะใกล้ชิดติดกัน ผู้ตายยังบังอาจถือมีดเข้ามาในลานบ้านของจำเลยอีกดังนี้ เป็นเหตุให้ศาลลงโทษาสถานเบา