คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูภันย์วิมลสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 75/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกหุ้นส่วนกรณีผิดสัญญา: ผู้เป็นหุ้นส่วนฟ้องเลิกได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
การฟ้องขอเลิกหุ้นส่วนในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งซึ่งมิใช่ผู้ฟ้องร้อง ได้จงใจล่วงละเมิดบทบังคับอันเป็นสาระสำคัญซึ่งสัญญาหุ้นส่วนกำหนดไว้แก่ตน เป็นกรณีที่ต้องด้วยบทมาตรา 1057(1) แห่งประมวลแพ่งฯ ย่อมฟ้องร้องได้ทันที ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือคอยระยะเวลาสิ้นรอบปีในทางบัญชีเงินตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1056 แห่งประมวลแพ่งฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีบุกรุกที่สาธารณะ และภาระการพิสูจน์เมื่อจำเลยปฏิเสธ
กรมการอำเภอมีหน้าที่ทะนุบำรุงและตรวจตรารักษาทรัพย์สินที่ดินอันเป็นสาธารณะประโยชน์ของแผ่นดินย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่เข้ามายึดถือเอาที่ดินนั้นได้
เรื่องเช่นนี้ เมื่อจำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่ที่มีเจ้าของไม่ใช่ที่หวงห้ามหน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกอยู่แก่ฝ่ายโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีบุกรุกที่ดินสาธารณะ และหน้าที่การนำสืบพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ
กรมการอำเภอมีหน้าที่ทะนุบำรุงและตรวจตรารักษาทรัพย์สินที่ดินอันเป็นสาธารณะประโยชน์ของแผ่นดิน ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่เข้ามายึดถึอเอาที่ดินนั้นได้
เรื่องเช่นนี้ เมื่อจำเลยปฏิเสธและต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่ที่มีเจ้าของ ไม่ใช่ที่หวงห้าม หน้าที่นำสืบก่อนย่อมตกอยู่แก่ฝ่ายโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเกิดเหตุในฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ไต่สวน ถือเป็นการแตกต่างในสาระสำคัญ ทำให้ต้องยกฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 22 ก.ค. 2499 แต่ตามทางไต่สวนได้ความว่าจำเลยกระทำผิด ในวันที่ 22 ก.ย. 2499 เป็นการผิดเดือนไปเมื่อการแตกต่างดังกล่าว ถือว่า เป็นการแตกต่าง ในข้อสาระสำคัญ ซึ่งเท่ากับว่าจำเลยไม่ได้กระทำ ผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง ต้องยกฟ้อง ไม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้หรือไม่ต่อไป
ฉะนั้นแม้คดีนี้จะเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ดี เมื่อชั้นพิจารณายังต้องยกฟ้องเช่นนี้ คดีนี้ก็ต้องยกฟ้องเช่นเดียวกัน .
( ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2007/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างบทมาตราความผิดในฟ้องอาญา หากโจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตรา ศาลไม่สามารถลงโทษตามบทมาตราที่ไม่ได้อ้างได้ แม้มีพยานหลักฐาน
ถึงแม้ในคำบรรยายฟ้องอาญา โจทก์จะได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิดแล้วก็ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6)ก็ยังมีความประสงค์ให้โจทก์อ้างบทมาตราแห่งความผิดไว้ในท้ายฟ้องด้วย
เมื่อโจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตราแห่งความผิดไว้ในฟ้องเพราะความพลั้งเผลอ จะวินิจฉัยว่าโจทก์อ้างฐานความผิดหรือบทมาตราผิดตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ หาได้ไม่ และดังนั้น แม้ข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์จะสืบสมศาลก็ลงโทษจำเลยตามบทมาตราที่โจทก์ไม่ได้อ้างไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยมีหน้าที่นำสืบเมื่อต่อสู้ว่าถูกหลอกลวงให้ลงลายมือชื่อในสัญญา
ตามฟ้องและคำให้การฟังได้ว่าจำเลยได้ลงลายมือชื่อในสัญญากู้เงินให้แก่โจทก์ไว้จริง เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์เจตนาลวง จำเลยให้ลงลายมือชื่อในสัญญากู้เงินซึ่งจำเลยไม่ได้กู้เช่นนี้ จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนตามคำกล่าวแก้ .

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยอ้างถูกหลอกให้ลงนามในสัญญากู้เงิน มีหน้าที่นำสืบก่อน
ตามฟ้องและคำให้การ ฟังได้ว่าจำเลยได้ลงลายมือชื่อในสัญญากู้เงินให้แก่โจทก์ไว้จริง เมื่อจำเลยต่อสู้ว่าโจทก์เจตนาลวงจำเลยให้ลงลายมือชื่อในสัญญากู้เงินซึ่งจำเลยไม่ได้กู้ เช่นนี้ จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนตามคำกล่าวแก้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1964/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้เทศบาลสร้างตลาดโดยไม่มีเงื่อนไขผูกพันการคืนที่ดินภายหลัง
โจทก์ยกที่ดินพิพาทให้เทศบาลเพื่อเทศบาลจะได้จัดสร้างตลาด เมื่อไม่มีเงื่อนไขว่าเทศบาลจะต้องทำเป็นตลาดนานเท่าใด และหากเมื่อใดเทศบาลไม่ใช้เป็นตลาดแล้ว จะต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์ เช่นนี้แล้ว ต่อมาเทศบาลก็ได้สร้างตลาดตรงที่พิพาทสิ้นเงินไปถึง 40,000 บาท นับว่าเทศบาลได้ปฏิบัติไปตามเงื่อนไขที่โจทก์ประสงค์แล้ว แม้ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนตัวนายกเทศมนตรีใหม่ จึงมีการเปลี่ยนแปลงตลาดนี้เป็นโรงมหรสพไป โจทก์ก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างเพื่อขอคืนที่ดินนี้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1964/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกที่ดินให้เทศบาลเพื่อสร้างตลาด โดยไม่มีเงื่อนไขการคืนที่ดิน ทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องคืนได้
โจทก์ยกที่ดินพิพาทให้เทศบาลเพื่อเทศบาลจะได้จัดสร้างตลาด เมื่อไม่มีเงื่อนไขว่าเทศบาลจะต้องทำเป็นตลาดนานเท่าใด และหากเมื่อใดเทศบาลไม่ใช้เป็นตลาดแล้ว จะต้องคืนที่พิพาทให้โจทก์ เช่นนี้แล้ว ต่อมาเทศบาลก็ได้สร้างตลาดตรงที่พิพาทสิ้นเงินไปถึง 40,000 บาท นับว่าเทศบาลได้ปฏิบัติไปตามเงื่อนไขที่โจทก์ประสงค์แล้ว แม้ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนตัวนายกเทศมนตรีใหม่ จึงมีการเปลี่ยนแปลงตลาดนี้เป็นโรงมหรสพไป โจทก์ก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างเพื่อขอคืนที่ดินนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1963/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขค่าเสียหายในคดีละเมิดเล็กน้อย: ข้อจำกัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ในคดีเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหายทุนทรัพย์ไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยทำการละเมิดจริงแต่ศาลชั้นต้นให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเพียง 1,000 บาทส่วนศาลอุทธรณ์ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 3,646 บาท ตามคำฟ้องเช่นนี้ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ (ฎีกาที่ 181/2492 ประชุมใหญ่) (ฎีกาที่ 1499/2498 และที่ 362/2500)
of 344