พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1388/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินระหว่างสามีภรรยาและการบังคับคดี: สินบริคณห์ผูกพันหนี้โดยชอบธรรม
ผู้ร้องเป็นภรรยาจำเลยซึ่งถูกยึดทรัพย์จะมายื่นคำร้องขอให้งดขายทอดตลาดทรัพย์จำเลยที่ถูกยึด โดยอ้างว่าตนกำลังฟ้องขอแบ่งทรัพย์จากจำเลย โดยไม่ปรากฏว่ามีการหย่าขาดจากกัน หรือไม่ปรากฏในคำร้องว่า ผู้ร้องกับสามีมีสัญญาตกลงให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการสินบริคณฑ์อย่างใด ไม่ได้ เพราะอย่างไรๆ หนี้ของจำเลยก็ผูกพันมาถึงสินบริคณฑ์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1384/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาของลูกจ้างผู้ถูกสั่งให้ส่งมอบอาวุธปืน โดยไม่รู้ถึงเจตนาการใช้ผิดกฎหมาย
จำเลยที่ 2 เป็นคนงานโรงบ่มใบยา อยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายสถานีโรงบ่ม เมื่อจำเลยที่ 1 ตะโกนให้จำเลยที่ 2 เอาปืนมาให้เร็ว จำเลยที่ 2 ก็นำปืนลูกกรดมาให้ที่บันไดหลังบ้านพักของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ใช้ปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 ยังไม่ควรมีความผิดฐานสมรู้ด้วยจำเลยที่ 1 เพราะไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยที่ 2 ได้รู้เห็นเป็นใจช่วยเหลืออุปการะในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำไปนั้นก็โดยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 และไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 จะเรียกเอาปืนไปเพื่อประโยชน์อันใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1384/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดฆ่าคน: ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่มีเจตนาช่วยเหลือ
จำเลยที่ 2 เป็นคนงานโรงบ่มใบยา อยู่ในบังคับของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายสถานีโรงบ่มเมื่อจำเลยที่ 1 ตะโกนให้จำเลยที่ 2 เอาปืนมาให้เร็วจำเลยที่ 2 ก็นำปืนลูกกรดมาให้ที่บันไดหลังบ้านพักของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ใช้ปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 ยังไม่ควรมีความผิดฐานสมรู้ด้วยจำเลยที่ 1 เพราะไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยที่ 2 ได้รู้เห็นเป็นใจช่วยเหลืออุปการะในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำไปนั้นก็โดยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 และไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 จะเรียกเอาปืนไปเพื่อประโยชน์อันใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362-1364/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่ที่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ แม้เคยมีประเด็นเรื่องบริวารในคดีก่อนหน้า เนื่องจากประเด็นและคู่ความไม่เหมือนกัน
คดีก่อน เรื่องขับไล่ ศาลมีคำสั่งว่าบุคคลที่โจทก์อ้างว่าเป็นบริวารของจำเลยนั้น ไม่ใช่บริวารของจำเลย
โจทก์มาฟ้องขับไล่บุคคลเหล่านั้นเป็นจำเลยในคดีใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะไม่ใช่ประเด็นเดียวกันและไม่ใช่คู่ความเดียวกัน
โจทก์มาฟ้องขับไล่บุคคลเหล่านั้นเป็นจำเลยในคดีใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะไม่ใช่ประเด็นเดียวกันและไม่ใช่คู่ความเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362-1364/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขับไล่ที่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ แม้เคยมีประเด็นเกี่ยวกับสถานะบริวารในคดีก่อนหน้า
คดีก่อน เรื่องขับไล่ ศาลมีคำสั่งว่าบุคคลที่โจทก์อ้างว่าเป็นบริวารของจำเลยนั้น ไม่ใช่บริวารของจำเลย
โจทก์มาฟ้องขับไล่บุคคลเหล่านั้นเป็นจำเลยในคดีใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะไม่ใช่ประเด็นเดียวกันและไม่ใช่คู่ความเดียวกัน
โจทก์มาฟ้องขับไล่บุคคลเหล่านั้นเป็นจำเลยในคดีใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะไม่ใช่ประเด็นเดียวกันและไม่ใช่คู่ความเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนขายฝากและการเกิดสิทธิในทรัพย์สินเช่า: ค่าเช่าค้างชำระจนกว่าจะวางเงินไถ่ถอน
ผู้ขายฝากได้ทำสัญญาขายฝากที่ดินบ้านเรือนไว้แก่ผู้ซื้อและได้ทำสัญญาเช่ากับผู้ซื้อไว้ด้วย ต่อมาผู้ขายขอไถ่ถอนภายในกำหนดสัญญาขายฝาก ผู้ซื้อไม่ยอมให้ไถ่ผู้ขายฝากจึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ ในที่สุดศาลบังคับให้ผู้ซื้อรับไถ่การขายฝาก หลังจากนั้นต่อมาอีกผู้ขายฝากจึงได้ชำระ(วางเงิน)ค่าไถ่ถอนการขายฝากต่อศาล เช่นนี้ผู้ขายฝากต้องรับผิดชำระค่าเช่าและค่าเสียหายตั้งแต่วันเริ่มต้นเช่าจนถึงวันที่ชำระ(วางเงิน)ค่าไถ่ถอนการขายฝาก(ไม่ใช่เพียงถึงวันที่ศาลพิพากษาให้รับไถ่ถอนการขายฝาก) เพราะระหว่างที่ยังไม่ได้วางเงินค่าไถ่ถอนการขายฝาก ยังต้องถือว่าที่ดินบ้านเรือนที่ขายฝากเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระค่าเช่าที่ดินหลังทำสัญญาขายฝาก ผู้รับซื้อฝากมีสิทธิรับค่าเช่าจนกว่าจะมีการไถ่ถอน
ผู้ขายฝากได้ทำสัญญาขายฝากที่ดินบ้านเรือนไว้แก่ผู้ซื้อ และได้ทำสัญญาเช่ากับผู้ซื้อไว้ด้วย ต่อมาผู้ขายขอไถ่ถอนภายในกำหนดสัญญาขายฝาก ผู้ซื้อไม่ยอมให้ไถ่ ผู้ขายฝากจึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ ในที่สุดศาลบังคับให้ผู้ซื้อรับไถ่การขายฝากหลังจากนั้นต่อมาอีกผู้ขายฝากจึงได้ชำระ(วางเงิน) ค่าไถ่ถอนการขายฝากต่อศาล เช่นนี้ ผู้ขายฝากต้องรับผิดชำระค่าเช่าและค่าเสียหายตั้งแต่วันเริ่มต้นเช่าจนถึงวันที่ชำระ(วางเงิน) ค่าไถ่ถอนการขายฝาก(ไม่ใช่เพียงถึงวันที่ศาลพิพากษาให้รับไถ่ถอนการขายฝาก) เพราะระหว่างที่ยังไม่ได้ว่างเงินค่าไถ่ถอนการขายฝาก ยังต้องถือว่าที่ดินบ้านเรือนที่ขายฝากเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้รับซื้อฝากอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเกิน 3 ปี ไม่ทำหนังสือ/จดทะเบียน สิทธิบังคับคดีมีจำกัด
เช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี โดยมิได้ทำหนังสือและจดทะเบียนนั้น แม้ไม่ได้ฟ้องร้องเป็นแต่เพียงจำเลยอ้างเพื่อขอบังคับเกิน 3 ปีก็ไม่ได้เหมือนกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน มิฉะนั้นบังคับคดีได้แค่ 3 ปี
เช่าอสังหาริมทรัพย์เกิน 3 ปี โดยมิได้ทำหนังสือและจดทะเบียนนั้น แม้ไม่ได้ฟ้องร้องเป็นแต่เพียงจำเลยอ้างเพื่อขอบังคับเกิน 3 ปีก็ไม่ได้เหมือนกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานสมคบกันทำผิด และการลงโทษเฉพาะผู้ลงมือ กระบวนการพิจารณาคดีอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยแต่ละคนได้บังอาจใช้มีดแทงเขาตายโดยเจนาจะฆ่า เมื่อนำสืบได้ว่าใครแทง ศาลก็ลงโทษเฉพาะผู้นั้น ส่วนที่โจทก์สืบได้เพียงว่าไปอยู่ในที่วิวาทช่วยกลุ้มรุม แต่ไม่มีมีด ไม่มีพยานเห็นแทงจึงลงโทษไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ได้ฟ้องว่าสมคบกัน เพียงแต่อ้างกฎหมายลักษณะอาญา ม.63 ฐานสมคบมาอย่างเดียวไม่พอ ลงโทษไม่ได้