พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1523/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของตัวการต่อการกระทำของตัวแทนในการก่อสร้างโรงน้ำแข็ง
เมื่อฟ้องของโจทก์ในข้อ 2 กล่าวว่า จำเลยที่ 2 เชิดจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงน้ำแข็ง จำเลยที่ 1 ซื้อเชื่อเครื่องก่อสร้างไปสร้างโรงน้ำแข็งจึงขอให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ดังนี้ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยเกี่ยวกับเรื่องตัวการตัวแทนได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
อนึ่งเมื่อฟังว่าตามทะเบียนแท้จริงจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง แม้ภายหลังจำเลยที่ 1 ที่ 2 พิพาทกัน ศาลพิพากษาว่าโรงน้ำแข็งเป็นของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างก็ตาม เมื่อการก่อสร้างโรงน้ำแข็งรายนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ 2 ดังนี้จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็งรายนี้จำต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการของจำเลยที่ 1 โดยตรงตามกฎหมาย
อนึ่งเมื่อฟังว่าตามทะเบียนแท้จริงจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง แม้ภายหลังจำเลยที่ 1 ที่ 2 พิพาทกัน ศาลพิพากษาว่าโรงน้ำแข็งเป็นของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างก็ตาม เมื่อการก่อสร้างโรงน้ำแข็งรายนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของจำเลยที่ 2 ดังนี้จำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็งรายนี้จำต้องรับผิดในฐานะเป็นตัวการของจำเลยที่ 1 โดยตรงตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1511/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับตามคำพิพากษา และผลของการทุเลาการบังคับคดีต่อการชดใช้ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่ดินของผู้อื่น
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินให้โจทก์ กับให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ เพราะทำนาใน พ.ศ.2494 ไม่ได้ เป็นเงิน 1,440 บาท กับปีต่อๆ ไปปีละ 1,440 บาท จนกว่าจำเลยจะออกจากที่ดินของโจทก์ ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ศาลสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับตามคำร้องของจำเลย เมื่อศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในปี พ.ศ.2497 จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเป็นรายปีมาจนถึงปี พ.ศ.2497 ด้วย จำเลยจะได้ทำประโยชน์ในที่พิพาทหรือไม่ไม่สำคัญ เพราะจำเลยได้รับทุเลาการบังคับคดีไว้ เรียกได้ว่าจำเลยยังมิได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาโดยยังไม่ยอมออกจากที่พิพาทตามคำพิพากษา
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้แก่โจทก์ และห้ามจำเลยกับบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์แล้ว ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยยังเข้าเกี่ยวข้องตัดฟันไม้ในที่ของโจทก์ๆ จึงขอให้ศาลห้ามจำเลย แม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามจำเลย และบริวารไม่ให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทก็ดี ก็ถือได้ว่าเป็นคำสั่งชั่วคราว เมื่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีตามที่จำเลยร้องขอแล้ว ก็เป็นการถอนคำสั่งชั่วคราวที่ศาลชั้นต้นสั่งไปแล้วด้วย
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้แก่โจทก์ และห้ามจำเลยกับบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์แล้ว ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยยังเข้าเกี่ยวข้องตัดฟันไม้ในที่ของโจทก์ๆ จึงขอให้ศาลห้ามจำเลย แม้ศาลจะมีคำสั่งห้ามจำเลย และบริวารไม่ให้เกี่ยวข้องกับที่พิพาทก็ดี ก็ถือได้ว่าเป็นคำสั่งชั่วคราว เมื่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีตามที่จำเลยร้องขอแล้ว ก็เป็นการถอนคำสั่งชั่วคราวที่ศาลชั้นต้นสั่งไปแล้วด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพและการครอบครองยาเสพติด พยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยกับฝิ่นของกลาง
ในคดีหาว่ามีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่าฝิ่นของกลางเป็นของใคร แต่โจทก์มีพยานสืบว่าฝิ่นของกลางถูกซุกซ่อนไว้ในตู้เก็บอาหารแห้งในเรือสินค้าต่างประเทศ ประกอบกับเมื่อค้นฝิ่นแล้ว ผู้ค้น ตำรวจและผู้สอบสวนสอบถามจำเลยถึง 3 ครั้ง 3 หนแต่จำเลยก็รับว่าเป็นฝิ่นของตนต่อหน้ามูลนายของจำเลยทั้งยังเขียนคำรับเป็นภาษาจีนและแสดงวิธีเอาฝิ่นไปซุกซ่อนไว้ให้ดูโดยถอดกระดานฝาตู้ชั้นในออกเอาฝิ่นซุกไว้แล้วปิดฝาอย่างเก่า สมกับเป็นผู้เอาฝิ่นไว้เองทั้งจำเลยเป็นผู้ครอบครองตู้ๆ นั้น มีกุญแจ จำเลยเป็นผู้รักษากุญแจเอง พฤติการณ์เหล่านี้ฟังประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนคดีฟังได้ว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1508/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต พยานหลักฐานจากการรับสารภาพและพฤติการณ์ที่เชื่อได้
ในคดีหาว่ามีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่าฝิ่นของกลางเป็นของใครแต่โจทก์มีพยานสืบว่าฝิ่นของกลางถูกซุกซ่อนไว้ในตู้เก็บอาหารแห้งในเรือสินค้าต่างประเทศ ประกอบกับเมื่อค้นพบฝิ่นแล้ว ผูค้น ตำรวจและผู้สอบสวนสอบถามจำเลยถึง 3 ครั้ง 3 หน แต่จำเลยก็รับว่าเป็นฝิ่นของตนต่อหน้ามูลนายของจำเลยทั้งยังเขียนคำรับเป็นภาษาจีนและแสดงวิธีเอาฝิ่นไปซุกซ่อนไว้ให้ดูโดยถอดกระดานฝาตู้ชั้นในออกเอาฝิ่นซุกไว้แล้วปิดฝาอย่างเก่าสมกับเป็นผู้เอาฝิ่นไว้เอง ทั้งจำเลยเป็นผู้ครอบครองตู้ ๆ นั้นมีกุญแจ จำเลยเป็นผู้รักษากุญแจเอง พฤติการณ์เหล่านี้ฟังประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนคดีฟังได้ว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1490/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะนิติบุคคลบริษัทต่างชาติในไทย และสิทธิในเครื่องหมายการค้า
บริษัทโจทก์ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในประเทศอังกฤษและมีสำนักงานอยู่ในประเทศอังกฤษ บริษัทโจทก์จะเป็นนิติบุคคลตาม กฎหมายไทยหรือไม่ โจทก์ก็ขึ้นศาลเพื่อเป็นโจทก์หรือเป็นจำเลยในศาลไทยได้ตามความในข้อ 20 แห่งหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงอังกฤษลงวันที่ 14 ก.ค.68 และข้อ 4-5(2) ของสนธิสัญญาการพานิชย์และการเดินเรือระหว่างไทยกับอังกฤษลงนามกันวันที่ 23 พ.ย. 80
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำละเมิดของลูกจ้าง นอกเหนือจากหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
นายจ้างใช้ให้ลูกจ้างนำมะพร้าวไปส่งแก่ผู้ซื้อ ในระหว่างส่งมะพร้าวแก่กันนั้น ผู้ซื้อโต้เถียงด่าว่าลูกจ้าง ลูกจ้างโกรธจึงชกต่อยผู้ซื้อมีบาดเจ็บ ดังนี้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์อีกเรื่องหนึ่ง มิใช่กิจการที่นายจ้างได้มอบให้ลูกจ้างไปกระทำ นายจ้างไม่ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมกับลูกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากการบุกรุกทำลายพืชผล: ศาลจำกัดเฉพาะความเสียหายที่พิสูจน์ได้จริง ไม่รวมค่าเสียโอกาสในอนาคต
ฟ้องกล่าวว่า จำเลยได้สมคบกันตัดจากในที่ของโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย จึงเรียกค่าที่จำเลยกระทำให้โจทก์เสียหายรวมเป็นเงิน 3,000 บาท และปีต่อๆ ไปอีกปีละ 3,000 บาท ไม่ได้แสดงว่าค่าเสียหายที่เรียกล่วงหน้าเป็นค่าเสียหายอะไร จึงถือไม่ได้ว่าเรียกค่าเสียหายในฐานะขาดประโยชน์ที่ควรมีควรได้ในอนาคต ศาลจึงพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้ได้แต่เพียง 3,000 บาท เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ที่ดิน กรณีจำเลยแสดงเจตนาถือสิทธิโดยตรงและการขาดฟ้องภายใน 1 ปี
โจทก์เอาที่ดินไปเป็นประกันเงินกู้ของบุตรเขย ต่อมาได้ไปขอไถ่ที่ดินคืน จำเลยผู้ให้กู้อ้างว่าเป็นที่ดินของบุตรเขยโจทก์ บุตรเขยโจทก์ได้ขายให้จำเลยแล้วเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแก่โจทก์แล้วว่าจำเลยไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนโจทก์ต่อไป ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าโจทก์ไม่ฟ้องเสียใน 1 ปี จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงเจตนาไม่ยึดที่ดินแทนเจ้าของเดิม และผลของการไม่ฟ้องคดีที่ดินภายใน 1 ปี
โจทก์เอาที่ดินไปเป็นประกันเงินกู้ของบุตรเขย ต่อมาได้ไปของไถ่ที่ดินคืน จำเลยผู้ให้กู้อ้างว่าเป็นที่ดินของบุตรเขยโจทก์ บุตรเขยโจทก์ได้ขายให้จำเลยแล้วเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแก่โจทก์แล้วว่าจำเลยไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนโจทก์ต่อไป ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าโจทก์ไม่ฟ้องเสียใน 1 ปี จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาชำระหนี้ตามสัญญา และประเด็นหลอกลวงในการลงชื่อ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับบริวารทำให้เกิดเพลิงไหม้เสียหายแก่โจทก์แล้วจำเลยทำสัญญายอมใช้ค่าเสียหายเสร็จสิ้นภายใน 2 ปี ต่อมาจำเลยปฏิเสธไม่ใช้เงินให้แก่โจทก์โดยเจตนาจะฉ้อโกง
จำเลยให้การปฏิเสธไม่ยอมใช้เงินอ้างว่าเพราะถูกโจทก์หลอกลวงให้ลงชื่อและฟ้องแย้งขอให้ทำลายเอกสารอีกด้วยเช่นนี้ถือว่าคดี ไม่มีประเด็นตามฟ้องและคำให้การของจำเลยว่าจำเลยได้ถูกหลอกลวงให้ลงชื่อในเอกสารตามที่จำเลยต่อสู้จริงหรือไม่ และตามฟ้องและคำให้การของจำเลยเห็นได้ว่าจำเลยได้ยอมสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 154 วรรคสอง แล้ว คดีจึงไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยในเรื่องกำหนดเงื่อนเวลาแต่อย่างใด
จำเลยให้การปฏิเสธไม่ยอมใช้เงินอ้างว่าเพราะถูกโจทก์หลอกลวงให้ลงชื่อและฟ้องแย้งขอให้ทำลายเอกสารอีกด้วยเช่นนี้ถือว่าคดี ไม่มีประเด็นตามฟ้องและคำให้การของจำเลยว่าจำเลยได้ถูกหลอกลวงให้ลงชื่อในเอกสารตามที่จำเลยต่อสู้จริงหรือไม่ และตามฟ้องและคำให้การของจำเลยเห็นได้ว่าจำเลยได้ยอมสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 154 วรรคสอง แล้ว คดีจึงไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยในเรื่องกำหนดเงื่อนเวลาแต่อย่างใด