คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูภันย์วิมลสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในรถยนต์: การคุ้มครองเจ้าของตามกฎหมาย แม้มีการครอบครองโดยบุคคลภายนอก
ได้ความว่ารถยนต์พิพาทคดีนี้ศาลได้พิพากษาถึงที่สุดแล้วว่าเป็นของโจทก์จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ฉะนั้นโจทก์จึงยกขึ้นยันบุคคลภายนอกรวมทั้งผู้ร้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(2)เว้นแต่ผู้ร้องจะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่าหากผู้ร้องจะอ้างว่าตนได้ครอบครองรถยนต์อยู่จึงควรได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1303 ผู้ร้องก็จะต้องพิสูจน์ว่าตนได้การครอบครองนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตจึงจะมีสิทธิในรถยนต์พิพาทดีกว่าโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเงินผลประโยชน์ในฐานะผู้ช่วยสมุห์บัญชีที่เข้าข่ายความรับผิดทางอาญา
ผู้ช่วยสมุหบัญชีแม้จะไม่มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับเงินผลประโยชน์ที่มีผู้มาส่งก็ดีแต่เมื่อรับเงินในระหว่างที่รักษาการในตำแหน่งสมุหบัญชี หรือระหว่างปฏิบัติการรับเงินแทนสมุหบัญชีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่ารับเงินไว้โดยหน้าที่
การที่ผู้ช่วยสมุหบัญชีลงชื่อรับเงินในฐานะสมุหบัญชีแล้วเสนอนายตำรวจลงชื่อในฐานะแทนผู้กำกับการเช่นนี้ย่อมเป็นการรับเงินในทางราชการนั่นเอง หาใช่ส่วนตัวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับเงินผลประโยชน์ในฐานะผู้ช่วยสมุหบัญชีถือเป็นการรับเงินในทางราชการ แม้ไม่มีหน้าที่โดยตรง
ผู้ช่วยสมุหบัญชีแม้จะไม่มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับเงินผลประโยชน์ที่มีผู้ส่งมาก็ดี แต่เมื่อรับเงินในระหว่างที่รักษาการในตกแหน่งสมุหบัญชี หรือระหว่างปฏิบัติการรับเงินแทนสมุหบัญชี เช่นนี้ย่อมถือได้ว่ารับเงินไว้โดยหน้าที่
การที่ผู้ช่วยสมุหบัญชีลงชื่อรับเงินในฐานะสมุหบัญชีแล้วเสนอนายตำรวจลงชื่อในฐานะแทนผู้กำกับการเช่นนี้ย่อมเป็นการรับเงินในทางราชการนั่นเอง หาใช่ส่วนตัวไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบเพื่อพิสูจน์ว่าหนี้ส่วนหนึ่งไม่สมบูรณ์บังคับได้ มิใช่การแก้ไขสัญญา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 15,000 บาท และว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามวันกำหนดบัดนี้ถึงวันกำหนดจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริง แต่กู้และรับเพียง 10000 บาท ที่เขียนในสัญญาเป็น 15000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราใน ก.ม.บวกไว้อีก 5,000 บาท สัญญากู้จึงเป็นโมฆะ ฟ้องร้องบังคับจำเลยไม่ด้
ตามฟ้องและคำให้การของจำเลยดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราใน ก.ม.บวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วยเพราะมิใช่เป็นการสืบแก้สัญญา แต่เป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ศาลจึงไม่ควรด่วนงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษา แต่จะต้องให้สืบพยานกันต่อไปตาม ป.วิ.แพ่ง ม.94 วรรค 2.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบข้อพิพาทเรื่องดอกเบี้ยเกินอัตราในสัญญากู้ ไม่เป็นการแก้ไขสัญญา แต่เป็นการแสดงว่าหนี้ไม่สมบูรณ์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 15,000 บาทและว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามวันกำหนดบัดนี้ถึงวันกำหนดจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริงแต่กู้และรับเพียง 10,000 บาทที่เขียนในสัญญาเป็น 15,000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้อีก 5,000 บาท สัญญากู้จึงเป็นโมฆะฟ้องร้องบังคับจำเลยไม่ได้
ตามฟ้องและคำให้การของจำเลยดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วยเพราะมิใช่เป็นการสืบแก้สัญญาแต่เป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ศาลจึงไม่ควรด่วนงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาแต่จะต้องให้สืบพยานกันต่อไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดิน: การชำระหนี้บางส่วนและการพิสูจน์ข้อตกลง
บรรยายฟ้องว่าตกลงและเปลี่ยนที่ดินกันและว่าให้แต่ละฝ่ายถือเอาที่ดินแลกเปลี่ยนกันได้และจะได้ไปจดทะเบียนกันภายหลังดังนี้ย่อมเป็นเรื่องจะแลกเปลี่ยนที่ดินกัน หาใช่เป็นการแลกเปลี่ยนกันเด็ดขาดแล้วไม่
สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดินจะทำเป็นหนังสือก็ได้ หรือวางประจำก็ได้หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วก็ได้
การที่เข้าไปปลูกบ้านอยู่ในที่ดินอันเขามอบให้เพื่อแลกเปลี่ยนแล้วย่อมถือได้ว่าได้มีการชำระหนี้บางส่วนแก่กันแล้ว ซึ่งศาลชั้นต้นจำต้องสืบพยานโจทก์จำเลยตามประเด็นแล้วพิพากษาต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 721/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดิน: การชำระหนี้บางส่วนด้วยการเข้าปลูกสร้าง และการพิสูจน์ข้อตกลง
บรรยายฟ้องว่าตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินกันและว่าให้แต่ละฝ่ายถือเอาที่ดินแลกเปลี่ยนกันได้และจะได้ไปจดทะเบียนกันภายหลังดังนี้ย่อมเป็นเรื่องจะแลกเปลี่ยนที่ดินกันหาใช่เป็นการแลกเปลี่ยนกันเด็ดขาดแล้วไม่
สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดินจะทำเป็นหนังสือก็ได้ หรือวางประจำก็ได้ หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้วก็ได้
การที่เข้าไปปลูกบ้านอยู่ในที่ดินอันเขามอบให้เพื่อแลกเปลี่ยนแล้วย่อมถือได้ว่าได้มีการชำระหนี้บางส่วนแก่กันแล้วซึ่งศาลชั้นต้นจำต้องสืบพยานโจทก์จำเลยตามประเด็นแล้วพิพากษาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต
การที่จำเลยถูกผู้เสียหายไล่ออกจากงาน รุ่งขึ้นกลับมาหาผู้เสียหายและซื้อเหล็กแหลมรูปสามเหลี่ยมยาวคืบเศษพกติดมาด้วยและได้ใช้แทงผู้เสียหายขณะที่ไม่รู้ตัวถูกสีข้างซ้ายโดยแรงทะลุเข้าช่วงท้องไปถูกม้ามถึงต้องตัดม้ามออกเช่นนี้ ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาจะฆ่าให้ตาย ที่ไม่ตายก็เพราะได้รับการรักษาทันท่วงที จำเลยจึงต้องผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ม.249,60.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต
การที่จำเลยถูกผู้เสียหายไล่ออกจากงานรุ่งขึ้นกลับมาหาผู้เสียหายและซื้อเหล็กแหลมรูปสามเหลี่ยมยาวคืบเศษพกติดมาด้วยและได้ใช้แทงผู้เสียหายขณะที่ไม่รู้ตัวถูกสีข้างซ้ายโดยแรงทะลุเข้าช่วงท้องไปถูกม้ามถึงต้องตัดม้ามออกเช่นนี้ ส่อให้เห็นว่ามีเจตนาจะฆ่าให้ตายที่ไม่ตายก็เพราะได้รับการรักษาทันท่วงที จำเลยจึงต้องผิดฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม มาตรา 249,60

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 673/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าของผู้ภริยาโดยอาศัยสิทธิสามี แม้สามีไปศึกษาต่างประเทศชั่วคราว เจ้าของบ้านไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่
สามีเช่าบ้านอยู่อาศัย แล้วเดินทางไปศึกษาวิชาที่ต่างประเทศเป็นการชั่วคราวภริยาคงอยู่อาศัยต่อมาในบ้านเช่านั้น เป็นการอยู่โดยอาศัยสิทธิของสามี ผู้ให้เช่าจะฟ้องขับไล่ภริยาไม่ได้
of 344