พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636-1639/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับการเช่าที่ดิน เมื่อครบกำหนดสัญญาแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยจากที่ของโจทก์ ชั้นพิจารณาคู่ความตกลงกันว่าโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าต่อไป 2 ปี แม้ในสัญญาประนีประนอมจะมิได้ระบุว่าเมื่อครบ 2 ปีแล้วจำเลยจะต้องยอมออกไปก็ตาม ก็ต้องตีความตามสัญญานั้นว่าเมื่อครบ 2 ปีแล้วจำเลยก็ต้องออกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีมรดก 1 ปี และผลของการไม่ถือครองแทน
ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี
โจทก์ฟ้องเรียกมรดกโดยฐานเป็นทายาท บรรยายฟ้องว่าที่ไม่ฟ้องภายในกำหนดอายุความมรดก 1 ปี เพราะจำเลยมาสู่ขอบุตรสาวโจทก์ โจทก์ยินยอมและตกลงกันว่าเมื่อแต่งงานกันแล้วก็จะได้ใส่ชื่อจำเลยและบุตรสาวโจทก์ โจทก์ถือว่าจำเลยครอบครองมรดกแทนโจทก์และเป็นสัญญากองทุนในการสมรสชอบที่จะบังคับได้ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่เป็นการครอบครองแทนและโจทก์มิได้ฟ้องให้ปฏิบัติตามสัญญา หากฟ้องขอแบ่งมรดก คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754
โจทก์ฟ้องเรียกมรดกโดยฐานเป็นทายาท บรรยายฟ้องว่าที่ไม่ฟ้องภายในกำหนดอายุความมรดก 1 ปี เพราะจำเลยมาสู่ขอบุตรสาวโจทก์ โจทก์ยินยอมและตกลงกันว่าเมื่อแต่งงานกันแล้วก็จะได้ใส่ชื่อจำเลยและบุตรสาวโจทก์ โจทก์ถือว่าจำเลยครอบครองมรดกแทนโจทก์และเป็นสัญญากองทุนในการสมรสชอบที่จะบังคับได้ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่เป็นการครอบครองแทนและโจทก์มิได้ฟ้องให้ปฏิบัติตามสัญญา หากฟ้องขอแบ่งมรดก คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก 1 ปี: การฟ้องล่าช้าทำให้ขาดอายุความ แม้จะมีข้ออ้างเรื่องการครอบครองแทน
ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี
โจทก์ฟ้องเรียกมรดกโดยฐานเป็นทายาท บรรยายฟ้องว่าที่ไม่ฟ้องภายในกำหนดอายุความมรดก 1ปี เพราะจำเลยมาสู่ขอบุตรสาวโจทก์ ๆ ยินยอมและตกลงกันว่าเมื่อแต่งงานกันแล้วก็จะได้ใส่ชื่อจำเลยและบุตรสาวโจทก์ โจทก์ถือว่าจำเลยครอบครองมรดกแทนโจทก์และเป็นสัญญากองทุนในการสมรสชอบที่จะบังคับได้ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่เป็นการครอบครองแทนและโจทก์มิได้ฟ้องให้ปฏิบัติตามสัญญา หากฟ้องขอแบ่งมรดก คดีโจทก์จึงขาดอายุความตาม ป.พ.พ.ม.1754
โจทก์ฟ้องเรียกมรดกโดยฐานเป็นทายาท บรรยายฟ้องว่าที่ไม่ฟ้องภายในกำหนดอายุความมรดก 1ปี เพราะจำเลยมาสู่ขอบุตรสาวโจทก์ ๆ ยินยอมและตกลงกันว่าเมื่อแต่งงานกันแล้วก็จะได้ใส่ชื่อจำเลยและบุตรสาวโจทก์ โจทก์ถือว่าจำเลยครอบครองมรดกแทนโจทก์และเป็นสัญญากองทุนในการสมรสชอบที่จะบังคับได้ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่เป็นการครอบครองแทนและโจทก์มิได้ฟ้องให้ปฏิบัติตามสัญญา หากฟ้องขอแบ่งมรดก คดีโจทก์จึงขาดอายุความตาม ป.พ.พ.ม.1754
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีมรดก 1 ปี และการครอบครองแทน/สัญญากองทุนสมรสที่ไม่ทำให้ขาดอายุความ
ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี
โจทก์ฟ้องเรียกมรดกโดยฐานเป็นทายาท บรรยายฟ้องว่าที่ไม่ฟ้องภายในกำหนดอายุความมรดก 1 ปี เพราะจำเลยมาสู่ขอบุตรสาวโจทก์ โจทก์ยินยอมและตกลงกันว่าเมื่อแต่งงานกันแล้วก็จะได้ใส่ชื่อจำเลยและบุตรสาวโจทก์ โจทก์ถือว่าจำเลยครอบครองมรดกแทนโจทก์และเป็นสัญญากองทุนในการสมรสชอบที่จะบังคับได้ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่เป็นการครอบครองแทนและโจทก์มิได้ฟ้องให้ปฏิบัติตามสัญญา หากฟ้องขอแบ่งมรดก คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754
โจทก์ฟ้องเรียกมรดกโดยฐานเป็นทายาท บรรยายฟ้องว่าที่ไม่ฟ้องภายในกำหนดอายุความมรดก 1 ปี เพราะจำเลยมาสู่ขอบุตรสาวโจทก์ โจทก์ยินยอมและตกลงกันว่าเมื่อแต่งงานกันแล้วก็จะได้ใส่ชื่อจำเลยและบุตรสาวโจทก์ โจทก์ถือว่าจำเลยครอบครองมรดกแทนโจทก์และเป็นสัญญากองทุนในการสมรสชอบที่จะบังคับได้ พฤติการณ์เช่นนี้ไม่เป็นการครอบครองแทนและโจทก์มิได้ฟ้องให้ปฏิบัติตามสัญญา หากฟ้องขอแบ่งมรดก คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุวันเวลาการกระทำความผิดในฟ้องอาญา เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ จำเป็นต้องชัดเจน
ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาที่จำเลยคิดทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไป คงกล่าวแต่วันเวลาที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์เท่านั้น ทั้งไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ที่ได้รับมอบหมายไปวันใด ดังนี้ฟ้องของโจทก์ย่อมไม่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 117/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ไม่สมบูรณ์ หากไม่ระบุวันเวลาการกระทำผิด
ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาที่จำเลยคิดทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไป คงกล่าวแต่วันเวลาที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์เท่านั้น ทั้งไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ที่ได้รับมอบหมายไปวันใด ดังนี้ฟ้องของโจทก์ย่อมไม่สมบูรณ์ตาม กฎหมาย (อ้างฎีกาที่ 117/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1572/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ไม่สมบูรณ์ หากไม่ระบุวันเวลาที่กระทำผิด
ในคดีเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวระบุวันเวลาที่จำเลยคิดทุจริตยักยอกเอาทรัพย์ไปคงกล่าวแต่วันเวลาที่จำเลยได้รับมอบหมายทรัพย์เท่านั้น ทั้งไม่อาจเข้าใจได้ว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ที่ได้รับมอบหมายไปวันใด ดังนี้ฟ้องของโจทก์+ไม่สมบูรณ์ตาม ก.ม.
(อ้างฎีกาที่ 117/2492)
(อ้างฎีกาที่ 117/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้แปรรูปเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด การพิสูจน์ข้อยกเว้นโทษเป็นหน้าที่ของจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษทางอาญาแก่จำเลยฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเกินกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 48 ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าได้รับยกเว้นโทษตาม มาตรา 50 จำเลยจะต้องนำสืบว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นนั้น มิฉะนั้นก็ไม่อาจพ้นผิดไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีไม้แปรรูปเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด การพิสูจน์ข้อยกเว้นโทษเป็นหน้าที่ของจำเลย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษทางอาญาแก่จำเลยฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเกินกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ม. 48 ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าได้รับยกเว้นโทษตาม ม. 50 จำเลยจะต้องนำสืบว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นนั้น มิฉะนั้นก็ไม่อาจพ้นผิดไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีไม้แปรรูปเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด จำเลยต้องพิสูจน์ข้อยกเว้นเพื่อพ้นผิด
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษทางอาญาแก่จำเลยฐานมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองเกินกว่าปริมาณที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 48 ถ้าจำเลยต่อสู้ว่าได้รับยกเว้นโทษตาม มาตรา 50 จำเลยจะต้องนำสืบว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นนั้น มิฉะนั้นก็ไม่อาจพ้นผิดไปได้