พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์จากการสละเจตนาเป็นเจ้าของ และหนังสือยกให้เป็นพยานหลักฐานได้
โจทก์ประสงค์จะขายฝากที่ดินของตนบางส่วน แต่เพื่อความสะดวกในทางทะเบียนผู้รับขายฝากกับโจทก์จึงตกลงกันว่าให้โจทก์ทำขายฝากไว้กับผู้รับขายฝากทั้งหมดส่วนที่โจทก์ไม่ได้ขายฝากไว้นั้น ผู้รับขายฝากได้ทำเป็นหนังสือยกให้แก่โจทก์และให้โจทก์ครอบครองในส่วนนั้นตลอดมา ดังนี้หนังสือยกให้ที่ผู้รับขายฝากทำให้แก่โจทก์นั้นโจทก์ย่อมอ้างเป็นพยานหักล้างหลักฐานการขายฝากในส่วนที่โจทก์ไม่ตั้งใจขายฝากไว้ได้ เพราะเป็นการสืบถึงนิติกรรมที่อำพรางไว้ ไม่ใช่สืบแก้ไขเอกสารสัญญาขายฝากนอกจากนี้ยังฟังเป็นเอกสารอันหนึ่งได้ว่าผู้รับขายฝากได้สละเจตนาเป็นเจ้าของในที่ดินส่วนนั้น และเมื่อโจทก์ครอบครองมาเป็นเวลาเกิน 20 ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382อยู่ดี
ปัญหาข้อใดแม้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จะได้กล่าวไว้ แต่คู่ความมิได้ฎีกาขึ้นมา ปัญหาข้อนั้นก็เป็นอันยุติเพราะไม่มีอะไรที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยถึง
ปัญหาข้อใดแม้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จะได้กล่าวไว้ แต่คู่ความมิได้ฎีกาขึ้นมา ปัญหาข้อนั้นก็เป็นอันยุติเพราะไม่มีอะไรที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยถึง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์จากการสละเจตนาเป็นเจ้าของ และการพิสูจน์นิติกรรมที่ซ่อนเร้น
โจทก์ประสงค์จะขายฝากที่ดินของตนบางส่วน แต่เพื่อความสะดวกในทางทะเบียนผู้รับขายฝากกับโจทก์จึงตกลงกันว่าให้โจทก์ทำขายฝากไว้กับผู้รับขายฝากทั้งหมดส่วนที่โจทก์ไม่ได้ขายฝากไว้นั้น ผู้รับขายฝากได้ทำเป็นหนังสือยกให้แก่โจทก์และให้โจทก์ครอบครองในส่วนนั้นตลอดมา ดังนี้หนังสือยกให้ที่ผู้รับขายฝากทำให้แก่โจทก์นั้นโจทก์ย่อมอ้างเป็นพยานหักล้างหลักฐานการขายฝากในส่วนที่โจทก์ไม่ตั้งใจขายฝากไว้ได้ เพราะเป็นการสืบถึงนิติกรรมที่อำพรางไว้ ไม่ใช่สืบแก้ไขเอกสารสัญญาขายฝากนอกจากนี้ยังฟังเป็นเอกสารอันหนึ่งได้ว่าผู้รับขายฝากได้สละเจตนาเป็นเจ้าของในที่ดินส่วนนั้น และเมื่อโจทก์ครอบครองมาเป็นเวลาเกิน 20 ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382อยู่ดี
ปัญหาข้อใดแม้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จะได้กล่าวไว้ แต่คู่ความมิได้ฎีกาขึ้นมา ปัญหาข้อนั้นก็เป็นอันยุติเพราะไม่มีอะไรที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยถึง
ปัญหาข้อใดแม้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จะได้กล่าวไว้ แต่คู่ความมิได้ฎีกาขึ้นมา ปัญหาข้อนั้นก็เป็นอันยุติเพราะไม่มีอะไรที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยถึง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิโดยการครอบครองปรปักษ์ และการสละเจตนาเป็นเจ้าของที่ดิน
โจทก์ประสงค์จะขายฝากที่ดินของตนบางส่วน แต่เพิ่อความสดวกในทางทะเบียนผู้รับขายฝากกับโจทก์จึงตกลงกันว่าให้โจทก์ทำขายฝากกับผู้รับฝากทั้งหมด ส่วนที่โจทก์ไม่ได้ขายฝากไว้นั้น ผู้รับขายฝากได้ทำเป็นหนังสือยกให้แก่โจทก์และให้โจทก์ครอบครองในส่วนนั้นตลอดมา ดังนี้หนังสือยกให้ที่ผู้รับขายฝากทำให้แก่โจทก์นั้นโจทก์ย่อมอ้างเป็นพยานหักล้างหลักฐานการขายฝากในส่วนที่โจทก์ไม่ตั้งใจขายฝากไว้ได้ เพราะเป็นการสืบถึงนิติกรรมที่อำพรางไว้ ไม่ใช่สืบแก้ไขเอกสารสัญญาขายฝากนอกจากนี้ยังฟังเป็นเอกสารอันหนึ่งได้ว่าผู้รับขายฝากได้สละเจตนาเป็นเจ้าของในที่ดินส่วนนั้น และเมื่อโจทก์ครอบครองมาเป็นเวลาเกิน 20 ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิตาม ป.พ.พ.ม. 1382 อยู่ดี
ปัญหาข้อใดแม้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จะได้กล่าวไว้ แต่คู่ความมิได้ฎีกาขึ้นมา ปัญหาข้อนั้นก็เป็นอันยุติเพราะไม่มีอะไรที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยถึง
ปัญหาข้อใดแม้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จะได้กล่าวไว้ แต่คู่ความมิได้ฎีกาขึ้นมา ปัญหาข้อนั้นก็เป็นอันยุติเพราะไม่มีอะไรที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยถึง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่พิพาทระหว่างคดีสัญญาซื้อขาย
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขาย คดีถึงที่สุดศาลบังคับให้จำเลยขายที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ แล้วต่อมาโจทก์จะมาฟ้องว่าในระหว่างคดีก่อนนั้นจำเลยเข้าทำผลประโยชน์ในที่รายพิพาท ขอเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่พิพาทหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขาย คดีถึงที่สุดศาลบังคับให้จำเลยขายที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ แล้วต่อมาโจทก์จะมาฟ้องว่าในระหว่างคดีก่อนนั้นจำเลยเข้าทำผลประโยชน์ในที่รายพิพาท ขอเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ค่าเสียหายจากการทำประโยชน์ในที่พิพาทหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องผิดสัญญาซื้อขาย คดีถึงที่สุดศาลบังคับให้จำเลยขายที่รายพิพาทให้แก่โจทก์ แล้วต่อมาโจทก์จะมาฟ้องว่าในระหว่างคดีก่อนนั้นจำเลยเข้าทำผลประโยชน์ในที่รายพิพาท ขอเรียกค่าเสียหายอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกเฉยต่อการอนุญาตฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจ เป็นการละเมิดและก่อให้เกิดความเสียหาย
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยมีหน้าที่จะต้องอนุญาตให้โจทก์ได้ทำการฆ่าสุกรแต่กลับมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ที่จะไม่ให้ได้ทำการฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจจะทำได้ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ก่อให้เกิดเสียหายแก่โจทก์ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องรับฟ้องไว้พิจารณาข้อเท็จจริงกันต่อไป
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดต่อหน้าที่อนุญาตและการกลั่นแกล้งเจ้าหน้าที่
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยมีหน้าที่จะต้องอนุญาตให้โจทก์ได้ทำการฆ่าสุกรแต่กลับมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ที่จะไม่ให้ได้ทำการฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจจะทำได้ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ก่อให้เกิดเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องรับฟ้องไว้พิจารณาข้อเท็จจริงกันต่อไป
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดหน้าที่ปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ฟ้องกล่าวว่าจำเลยมีหน้าที่จะต้องอนุญาตให้โจทก์ได้ทำการฆ่าสุกรแต่กลับมีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ที่จะไม่ให้ได้ทำการฆ่าสุกรโดยไม่มีอำนาจจะทำได้ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ก่อให้เกิดเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องรับฟ้องไว้พิจารณาข้อเท็จจริงกันต่อไป
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำฟ้องและคู่ความอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งขึ้นมาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 นั้นต้องเรียกค่าขึ้นศาล 20 บาท ตามตาราง 1 ข้อ 2 ข.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1086/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
น้ำหนักพยานหลักฐาน: ศาลให้ความสำคัญพยานบุคคลมากกว่าความเห็นผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ลายมือ
ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญการพิสูจน์ลายมืออาจมีน้ำหนัก+พอจะหักล้างคำประจักษ์พยานหลายปากซึ่งเบิกความสอดคล้องต้องกันได้ไม่