พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายตามตัวอย่างและการฟ้องร้องต่อศาล สัญญาไม่ได้บังคับให้ต้องส่งเรื่องให้อนุญาตตุลาการเสมอไป
เมื่อข้อความในสัญญาเป็นแต่กล่าวไว้ว่าถ้าจะเรียกร้องเอาค่าเสียหายทดแทนอย่างใด ๆ จะต้องกระทำภายใน 3 วันนับจากวันที่สินค้ามาถึง และในการเรียกร้องค่าเสียหายทดแทนนั้นถ้าจำต้องมอบเรื่องให้อนุญาตโดยตุลาการเป็นผู้ชี้ขาด คู่กรณีทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามคำตัดสินชี้ขาดอนุญาตตุลาการ และคำชี้ขาดนั้นจะผูกพันธ์คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ดังนี้ ไม่ปรากฎว่ามีข้อความใดบังคับว่าคู่กรณีจำต้องมอบข้อพิพาทให้อนุญาตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดทุกกรณีไป เพราะข้อสัญญานั้นกล่าวแต่ว่าถ้ามอบเรื่องให้อนุญาตตุลาการเป็นผู้ชี้ขาดแล้วคู่กรณีจะปฏิบัติตามคำชี้ขาดนั้น ๆ เท่านั้น สัญญาดังกล่าวจึงไม่ตัดสิทธิคู่กรณีที่จะนำคดีมาฟ้องศาล
สัญญาซื้อขายเครื่องขีดไฟรูปเทีนน โจทก์นำสืบพยานบุคคลได้+ เครื่องขีดไฟรูปเทียนนั้น+ตัวอย่าง ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 92
สัญญาซื้อขายเครื่องขีดไฟรูปเทีนน โจทก์นำสืบพยานบุคคลได้+ เครื่องขีดไฟรูปเทียนนั้น+ตัวอย่าง ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม. 92
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องคดีคนต่างด้าวขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัว ความผิดแยกรายปี
การขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวปีใดถือว่าเป็นผิดสำหรับปีที่ขาดต่ออายุปีนั้น
จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว สำหรับ พ.ศ. 2495 จนถึงวันฟ้อง (1 ก.พ. 97) เป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี ถือว่าขาดอายุความฟ้องร้องตาม ก.ม. อาญา ม. 78(4) ซึ่งกำหนดให้ฟ้องภายใน 1 ปี แล้ว จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
แต่การที่จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญสำหรับ พ.ศ. 2496 นั้นนับแต่วันจำเลยจะต้องต่ออายุใบสำคัญสำหรับ พ.ศ. 2496 จนถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 1 ปี ไม่ขาดอายุความจึงลงโทษได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2498)
จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว สำหรับ พ.ศ. 2495 จนถึงวันฟ้อง (1 ก.พ. 97) เป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี ถือว่าขาดอายุความฟ้องร้องตาม ก.ม. อาญา ม. 78(4) ซึ่งกำหนดให้ฟ้องภายใน 1 ปี แล้ว จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
แต่การที่จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญสำหรับ พ.ศ. 2496 นั้นนับแต่วันจำเลยจะต้องต่ออายุใบสำคัญสำหรับ พ.ศ. 2496 จนถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 1 ปี ไม่ขาดอายุความจึงลงโทษได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 13/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องคดีคนต่างด้าว: ความผิดแยกตามปีที่ขาดต่ออายุใบสำคัญ
การขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวปีใดถือว่าเป็นผิดสำหรับปีที่ขาดต่ออายุปีนั้น
จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวสำหรับ พ.ศ.2495จนถึงวันฟ้อง(1ก.พ.97) เป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี ถือว่าขาดอายุความฟ้องร้องตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 78(4) ซึ่งกำหนดให้ฟ้องภายใน 1 ปีแล้ว จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
แต่การที่จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญสำหรับ พ.ศ.2496 นั้นนับแต่วันจำเลยจะต้องต่ออายุใบสำคัญสำหรับพ.ศ.2496 จนถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 1 ปี ไม่ขาดอายุความจึงลงโทษได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2498)
จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวสำหรับ พ.ศ.2495จนถึงวันฟ้อง(1ก.พ.97) เป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี ถือว่าขาดอายุความฟ้องร้องตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 78(4) ซึ่งกำหนดให้ฟ้องภายใน 1 ปีแล้ว จึงลงโทษจำเลยไม่ได้
แต่การที่จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญสำหรับ พ.ศ.2496 นั้นนับแต่วันจำเลยจะต้องต่ออายุใบสำคัญสำหรับพ.ศ.2496 จนถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 1 ปี ไม่ขาดอายุความจึงลงโทษได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 13/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่เช่าและการลดทอนประโยชน์จากการเช่า หากเจตนาไม่ได้ทำให้ผู้เช่าเดือดร้อน ไม่ถือเป็นความผิด
ผู้ให้เช่าเคหะตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ จำเป็นต้องรื้อส้วมของผู้เช่าเพื่อให้เจ้าหน้าที่สอบเขตที่ดิน รื้อแล้วผู้เช่าทั้งหลายต่างได้อาศัยใช้ส้วมของจำเลยแห่งอื่น ดังนี้การกระทำของจำเลยมิได้เจตนาให้ผู้เช่าเดือดร้อนอันจะกระทำให้ผู้เช่าได้รับประโยชน์ลดน้อยกว่าที่ได้ตกลงกันไว้ จำเลยยังไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในเคหะเช่า และผลกระทบต่อประโยชน์ของผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้ให้เช่าเคหะตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ จำเป็นต้องรื้อส้วมของผู้เช่าเพื่อให้เจ้าหน้าที่สอบเขตที่ดินรื้อแล้วผู้เช่าทั้งหลายต่างได้อาศัยใช้ส้วมของจำเลยแห่งอื่นดังนี้การกระทำของจำเลยมิได้เจตนาให้ผู้เช่าเดือดร้อนอันจะกระทำให้ผู้เช่าได้รับประโยชน์ลดน้อยกว่าที่ได้ตกลงกันไว้จำเลยยังไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินสินบริคณฑ์โมฆียะเมื่อทำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคู่สมรส การบอกล้างสิทธิและผลกระทบต่อค่าเสียหาย
ที่พิพาทเป็นมรดกได้มาระหว่างจำเลยกับสามีเป็นสามีภรรยากันจึงเป็นสินบริคณฑ์เมื่อจำเลยเอาที่พิพาทไปขายให้โจทก์โดยสามีไม่รู้เห็น สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงเป็นโมฆียะ เมื่อสามีบอกล้างตกเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก คู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิมไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแก่จำเลย
แม้ว่าโจทก์ได้บอกขายที่พิพาทแก่บุคคลภายนอก แต่สัญญานั้นมีข้อความว่าเมื่อมีเหตุที่โจทก์จะขายให้ไม่ได้ไม่ว่าด้วยประการใด โจทก์ไม่ต้องรับผิดใช่ค่าปรับหรือค่าเสียหาย ดังนี้โจทก์จึงไม่มีค่าเสียหายพิเศษอย่างใดที่จะเรียกร้องเอาแก่จำเลยแต่เงิน (มัดจำ) ที่จำเลยรับว่าได้รับจากโจทก์ไปเท่าใดนั้นต้องคืนให้โจทก์
แม้ว่าโจทก์ได้บอกขายที่พิพาทแก่บุคคลภายนอก แต่สัญญานั้นมีข้อความว่าเมื่อมีเหตุที่โจทก์จะขายให้ไม่ได้ไม่ว่าด้วยประการใด โจทก์ไม่ต้องรับผิดใช่ค่าปรับหรือค่าเสียหาย ดังนี้โจทก์จึงไม่มีค่าเสียหายพิเศษอย่างใดที่จะเรียกร้องเอาแก่จำเลยแต่เงิน (มัดจำ) ที่จำเลยรับว่าได้รับจากโจทก์ไปเท่าใดนั้นต้องคืนให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายสินบริคณฑ์โมฆียะเมื่อสามีไม่ยินยอมและบอกล้างได้ สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายไม่มี
ที่พิพาทเป็นมรดกได้มาระหว่างจำเลยกับสามีเป็นสามีภรรยากันจึงเป็นสินบริคณฑ์เมื่อจำเลยเอาที่พิพาทไปขายให้โจทก์โดยสามีไม่รู้เห็น สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงเป็นโมฆียะเมื่อสามีบอกล้างแล้วตกเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรกคู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิมไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายแก่จำเลย
แม้ว่าโจทก์ได้บอกขายที่พิพาทแก่บุคคลภายนอกแต่สัญญานั้นมีข้อความว่าเมื่อมีเหตุที่โจทก์จะขายให้ไม่ได้ไม่ว่าด้วยประการใดโจทก์ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าปรับหรือค่าเสียหาย ดังนี้โจทก์จึงไม่มีค่าเสียหายพิเศษอย่างใดที่จะเรียกร้องเอาแก่จำเลย แต่เงิน (มัดจำ)ที่จำเลยรับว่าได้รับจากโจทก์ไปเท่าใดนั้นต้องคืนให้โจทก์
แม้ว่าโจทก์ได้บอกขายที่พิพาทแก่บุคคลภายนอกแต่สัญญานั้นมีข้อความว่าเมื่อมีเหตุที่โจทก์จะขายให้ไม่ได้ไม่ว่าด้วยประการใดโจทก์ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าปรับหรือค่าเสียหาย ดังนี้โจทก์จึงไม่มีค่าเสียหายพิเศษอย่างใดที่จะเรียกร้องเอาแก่จำเลย แต่เงิน (มัดจำ)ที่จำเลยรับว่าได้รับจากโจทก์ไปเท่าใดนั้นต้องคืนให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตป่าคุ้มครองตามพระราชกฤษฎีกา ต้องพิจารณาจากท้องที่ระบุในกฤษฎีกา ไม่ใช่แผนที่ท้ายกฤษฎีกา
ต้องถือเอาท้องที่ตามที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาเป็นสำคัญในการที่จะกำหนดให้ที่ใดเป็นป่าคุ้มครอง จะถือเขตตามที่ปรากฎในแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เขตป่าคุ้มครองต้องพิจารณาจากท้องที่ระบุในพระราชกฤษฎีกา ไม่ใช้แผนที่ประกอบ
พ.ร.ฎ.กำหนดป่าเลนปากพนังฝั่งตะวันตกในท้องที่ตำบลคลองกระบือและตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ.2492 มาตรา 3
ต้องถือเอาท้องที่ตามที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาเป็นสำคัญในการที่จะกำหนดให้ที่ใดเป็นป่าคุ้มครอง จะถือเขตตามที่ปรากฏในแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับหาได้ไม่
ต้องถือเอาท้องที่ตามที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาเป็นสำคัญในการที่จะกำหนดให้ที่ใดเป็นป่าคุ้มครอง จะถือเขตตามที่ปรากฏในแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้: การวางหลักทรัพย์ไม่ใช่เงื่อนไขบังคับก่อน และการผิดสัญญาจากการสั่งหยุดทำไม้
สัญญามีว่า ในกรณีที่จะให้มีผู้ค้ำประกันผู้ขายจะต้องวางหลักทรัพย์ของผู้ขาย ให้ผู้ซื้อยึดถือไว้ ฯลฯ นั้นข้อนี้ไม่ใช่เงื่อนไขถ้าผู้ขายมิได้วางประกันเมื่อไม่ปรากฏว่า เป็นกรณีที่จะต้องวางและผู้ซื้อก็คงให้ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญา โดยมิได้วางประกันผู้ซื้อจะยกข้อนี้ขึ้นอ้างเพื่อไม่รับผิดตามสัญญาไม่ได้
สัญญามีว่า ผู้ขายต้องนำไม้มาวางไว้ริมน้ำ 1,000 ท่อนให้ผู้ซื้อตรวจรับผู้ขายนำไม้มาวางได้ 600 ท่อน ผู้ซื้อก็สั่งงด ไม่ซื้อผู้ซื้อผิดสัญญา โดยผู้ขายไม่ต้องนำไม้มาวางถึง 1,000 ท่อน
ผู้ซื้อผิดสัญญา ต้องใช้ค่าเสียหายให้ผู้ขายตามที่สัญญากำหนดไว้ให้ใช้ครึ่งหนึ่งของราคาไม้เท่าที่ผู้ขายได้นำมากองไว้ตามสัญญาแล้วแต่เงินทุนที่ผู้ซื้อลงไปเพื่อทำไม้ทั้งหมด และราคาไม้ในป่าถ้าไม่แน่นอนว่ามีอยู่เท่าใด ศาลไม่คิดค่าเสียหายให้
สัญญามีว่า ผู้ขายต้องนำไม้มาวางไว้ริมน้ำ 1,000 ท่อนให้ผู้ซื้อตรวจรับผู้ขายนำไม้มาวางได้ 600 ท่อน ผู้ซื้อก็สั่งงด ไม่ซื้อผู้ซื้อผิดสัญญา โดยผู้ขายไม่ต้องนำไม้มาวางถึง 1,000 ท่อน
ผู้ซื้อผิดสัญญา ต้องใช้ค่าเสียหายให้ผู้ขายตามที่สัญญากำหนดไว้ให้ใช้ครึ่งหนึ่งของราคาไม้เท่าที่ผู้ขายได้นำมากองไว้ตามสัญญาแล้วแต่เงินทุนที่ผู้ซื้อลงไปเพื่อทำไม้ทั้งหมด และราคาไม้ในป่าถ้าไม่แน่นอนว่ามีอยู่เท่าใด ศาลไม่คิดค่าเสียหายให้