พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเริ่มนับแต่วันผิดนัด ไม่ใช่วันที่รู้ตัวการ สิทธิเรียกร้องเกิดเมื่อมีการผิดนัดชำระหนี้
โจทก์เป็นพ่อค้าเครื่องยนต์เพื่ออุตสาหกรรม ตัวแทนของจำเลยได้ตกลงจะชำระหนี้ค่าซื้อเครื่องยนต์เช่นว่านั้นให้โจทก์ภายในวันที่ 24 ก.ค.2493 เมื่อถึงกำหนดไม่มีการชำระหนี้ เช่นนี้ ต้องถือว่าจำเลยซึ่งเป็นตัวการผิดนัดด้วย โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องแก่จำเลยได้ตั้งแต่วันผิดนัด คือ วันที่ 24 ก.ค.2493 อายุความจึงเริ่มนับตั้งแต่นั้นมา โจทก์มายื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2499 เกิน 5 ปีแล้ว คดีโจทก์ขาดอายุความ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) และ มาตรา 165 วรรคสอง เกี่ยวกับการนับอายุความ ให้เริ่มนับแต่วันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึงวันรู้ (คือ วันที่โจทก์รู้ว่าจำเลยเป็นตัวการ) จะนำมาสงเคราะห์เทียบเคียงกันไม่ได้กับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448เรื่องละเมิด ซึ่งมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้ที่จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
สิทธิเรียกร้องของโจทก์เกิดขึ้นโดยตัวแทนของจำเลยไปซื้อเครื่องยนต์จากโจทก์และตัวแทนของจำเลยตกลงจะชำระหนี้ให้ต่อมาไม่มีการชำระหนี้เมื่อเกิดผิดนัดขึ้นเมื่อใด ก็เกิดสิทธิเรียกร้องที่โจทก์ อาจบังคับแก่จำเลยได้ตั้งแต่นั้นมามิใช่ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์จะเพิ่งมาตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาคดีระหว่างโจทก์กับตัวแทนของจำเลยในเรื่องหนี้สินรายเดียวกันนี้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) และ มาตรา 165 วรรคสอง เกี่ยวกับการนับอายุความ ให้เริ่มนับแต่วันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึงวันรู้ (คือ วันที่โจทก์รู้ว่าจำเลยเป็นตัวการ) จะนำมาสงเคราะห์เทียบเคียงกันไม่ได้กับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448เรื่องละเมิด ซึ่งมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้ที่จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
สิทธิเรียกร้องของโจทก์เกิดขึ้นโดยตัวแทนของจำเลยไปซื้อเครื่องยนต์จากโจทก์และตัวแทนของจำเลยตกลงจะชำระหนี้ให้ต่อมาไม่มีการชำระหนี้เมื่อเกิดผิดนัดขึ้นเมื่อใด ก็เกิดสิทธิเรียกร้องที่โจทก์ อาจบังคับแก่จำเลยได้ตั้งแต่นั้นมามิใช่ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์จะเพิ่งมาตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาคดีระหว่างโจทก์กับตัวแทนของจำเลยในเรื่องหนี้สินรายเดียวกันนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผูกพันตามสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศกับธนาคารแห่งประเทศไทย แม้ไม่ฟ้องอาญา ก็ดำเนินคดีแพ่งได้
โจทก์ฟ้องจำเลยโดยอาศัย พระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินฯโดยกล่าวว่าจำเลยได้เข้าทำสัญญาผูกพันตนต่อเจ้าพนักงานแลกเปลี่ยนเงิน โดยรับรองขายเงินตราต่างประเทศให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากจำเลยได้ขอและรับอนุญาตให้ส่งสินค้าที่ต้องมีใบอนุญาตออกนอกราชอาณาจักร เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อผูกพันนั้น แม้โจทก์จะมิได้ดำเนินคดีอาญาตามที่ พระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินฯบัญญัติโทษไว้ ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะดำเนินคดีทางแพ่งแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อผูกพันตาม พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แม้ไม่ฟ้องอาญา ก็ดำเนินคดีแพ่งได้
โจทก์ฟ้องจำเลยโดยอาศัย พ.ร.บ. ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ฯ โดยกล่าวว่า จำเลยได้เข้าไปทำสัญญาผูกพันตนต่อเจ้าพนักงานแลกเปลี่ยนเงิน โดยรับรองขายเงินตราต่างประเทศให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากจำเลยได้ขอและรับอนุญาตให้ส่งสินค้าที่ต้องมีใบอนุญาตออกนอกราชอาณาจักร เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อผูกพันนั้นแม้โจทก์จะมิได้ดำเนินคดีอาญาตามที่ พ.ร.บ. ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน ฯ บัญญัติโทษไว้ ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะดำเนินคดีทางแพ่งแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681-682/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนที่ดินที่บุตรเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โดยบุตรไม่ได้เป็นคู่ความ ศาลจำกัดผลกระทบของคำพิพากษา
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินซึ่งมีชื่อบุตรจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่บุตรจำเลยมิได้เป็นคู่ความในคดี กรณีจึงไม่เข้าข้อยกเว้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 ศาลจะพิพากษาหรือสั่งใดๆ ให้ผูกพันบุตรของจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681-682/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการโอนที่ดินที่บุตรเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ศาลไม่สามารถพิพากษาให้ผูกพันบุคคลภายนอกได้
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินซึ่งมีชื่อบุตรจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่บุตรจำเลยมิได้เป็นคู่ความในคดี กรณีจึงไม่เข้าข้อยกเว้น ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 145 ศาลจะพิพากษาหรือสั่งใด ๆ ให้ผูกพันบุตรของจำเลย ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตผู้ได้รับอนุญาตขายสุราตามกฎหมาย รวมถึงตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจ
คำว่าผู้ได้รับอนุญาตขายสุรา ตามความในกฎหมายสุรา ในพระราชกฤษฎีกาควบคุมโภคภัณฑ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2495 มาตรา 4(1) หมายความรวมถึงผู้ที่ขายสุราได้โดยมีใบอนุญาตคุ้มครอง ณ สถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตนั้นด้วย มิใช่จำกัดเฉพาะแต่ผู้ที่มีนามเป็นผู้ถือใบอนุญาตเท่านั้น
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2502)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตผู้ได้รับอนุญาตขายสุราตามกฎหมาย: ตัวแทนมีอำนาจจำหน่ายได้ภายใต้ใบอนุญาต
คำว่าผู้ได้รับอนุญาตขายสุราตามความในกฎหมายสุรา ในพระราชกฤษฎีกาควบคุมโภคภัณฑ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2495 มาตรา 4(1) หมายความรวมถึงผู้ที่ขายสุราได้โดยมีใบอนุญาตคุ้มครอง ณ สถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตนั้นด้วย มิใช่จำกัดเฉพาะแต่ผู้ที่มีนามเป็นผู้ถือใบอนุญาตเท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 10/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดิน: ศาลไม่วินิจฉัยประเด็นสิทธิครอบครองหากจำเลยไม่ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้
เมื่อจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ถึงเรื่องการได้สิทธิจากการครอบครองหรือได้ปลูกสร้างอาคารรุกล้ำที่ดินของโจทก์โดยสุจริตแต่อย่างใด. คดีจึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงเรื่องจำเลยได้สิทธิจากการครอบครองหรือไม่ หรือจำเลยได้รุกล้ำที่ดินของโจทก์โดยสุจริตหรือไม่
การที่จำเลยนำสืบนอกประเด็นไปจากคำให้การแม้โจทก์จะมิได้คัดค้านและศาลชั้นต้นก็มิได้ทักท้วงโดยศาลชั้นต้นยอมให้สืบมาก็ตามก็หาทำให้มีประเด็นเกิดขึ้นใหม่นอกเหนือไปจากคำให้การของจำเลยที่ต่อสู้ไว้ไม่
การที่จำเลยนำสืบนอกประเด็นไปจากคำให้การแม้โจทก์จะมิได้คัดค้านและศาลชั้นต้นก็มิได้ทักท้วงโดยศาลชั้นต้นยอมให้สืบมาก็ตามก็หาทำให้มีประเด็นเกิดขึ้นใหม่นอกเหนือไปจากคำให้การของจำเลยที่ต่อสู้ไว้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 662/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรุกล้ำที่ดิน - ศาลไม่วินิจฉัยสิทธิครอบครองหากจำเลยไม่ได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้
เมื่อจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ถึงเรื่องการได้สิทธิจากการครอบครองหรือได้ปลูกสร้างอาคารรุกล้ำที่ดินของโจทก์โดยสุจริตแต่อย่างใด คดีจึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงเรื่องจำเลยได้สิทธิจากการครอบครองหรือไม่ หรือจำเลยได้รุกล้ำที่ดินของโจทก์โดยสุจริตหรือไม่
การที่จำเลยนำสืบนอกประเด็นไปจากคำให้การ แม้โจทก์จะมิได้คัดค้านและศาลชั้นต้นก็มิได้ทักท้วงโดยศาลชั้นต้นยอมให้สืบมาก็ตาม ก็หาทำให้มีประเด็นเกิดขึ้นใหม่นอกเหนือไปจากคำให้การของจำเลยที่ต่อสู้ไว้ไม่
การที่จำเลยนำสืบนอกประเด็นไปจากคำให้การ แม้โจทก์จะมิได้คัดค้านและศาลชั้นต้นก็มิได้ทักท้วงโดยศาลชั้นต้นยอมให้สืบมาก็ตาม ก็หาทำให้มีประเด็นเกิดขึ้นใหม่นอกเหนือไปจากคำให้การของจำเลยที่ต่อสู้ไว้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 661/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดในหนี้ซื้อขายเมื่ออ้างตัวเป็นตัวการ: จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชอบหนี้ซื้อขายเอง
เมื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 2 ไปอ้างต่อโจทก์ว่าเป็นตัวการของจำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดชอบในการที่จำเลยที่ 2 ซื้อเครื่องก่อสร้างจากโจทก์แล้ว จำเลยที่2 ก็ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว