คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูภันย์วิมลสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ขนส่งเมื่อมีเจ้าหน้าที่ควบคุมสินค้า – สัญญาขนส่ง
สัญญาขนส่งมีว่า"ผู้รับจ้างยอมให้ผู้จ้างส่งเจ้าหน้าที่ควบคุมข้าวในระหว่างทำการขนส่งตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางฯลฯ " ดังนี้ผู้ขนส่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมข้าวเพียงแต่จัดพาหนะขนส่งไปให้ถึงปลายทางเท่านั้น เมื่อข้าวสูญหายไปในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ซึ่งผู้จ้างแต่งตั้ง ผู้ขนส่งก็ไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปิดหมายเรียกที่สำนักงานนิติบุคคลถือว่าจำเลยทราบแล้ว แม้ไม่มีการไต่สวนเหตุขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยเป็นนิติบุคคลมีสำนักงานอยู่แน่นอน เจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายเรียกและสำเนาฟ้องที่สำนักงานของจำเลยจนครบ 23 วัน ดังนี้ถือว่าจำเลยทราบนัด เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ และศาลเห็นว่าการขาดนัดของจำเลยในกรณีนี้ไม่มีเหตุอันสมควรแล้ว ศาลก็ไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสอง โดยมิต้องรอไต่สวนตาม มาตรา 198 วรรคสาม ก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญชาติและการเป็นคนต่างด้าว: การพิจารณาจากเชื้อชาติ, ประกาศกระทรวง, และการอพยพเข้าประเทศไทย
ประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 5 กันยายน 2483 และ 20 ธันวาคม 2483 ( ออกตามความในมาตรา 30 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2480 และมาตรา 5 พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2481 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2483
ประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 5 กันยายน 2483 และ 20 ธันวาคม 2483 นั้น หาได้รับรองให้คนต่างด้าวผู้อพยพเข้ามาตามประกาศได้มีสัญชาติเป็นไทยไม่ เมื่อคนต่างด้าวผู้อพยพเข้ามานั้นถูกส่งตัวออกไปนอกราชอาณาจักรแล้วกลับหลบเข้ามาอีกก็ย่อมมีความผิดตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2493 ม.21,58,

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะสัญชาติของผู้อพยพ: การบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองกับผู้มีเชื้อชาติอื่น แม้มีประกาศผ่อนผัน
ประกาศกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 5 กันยายน 2483 และ 20 ธันวาคม2483 นั้น หาได้รับรองให้คนต่างด้าวผู้อพยพเข้ามาตามประกาศได้มีสัญชาติเป็นไทยไม่ เมื่อคนต่างด้าวผู้อพยพเข้ามานั้นถูกส่งตัวออกไปนอกราชอาณาจักรแล้วกลับหลบเข้ามาอีกก็ย่อมมีความผิดตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 21,58

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานทางอ้อมเพียงพอพิสูจน์ความผิดอาญา แม้ไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์
ศาลจะอาศัยพยานบุคคลและวัตถุพยานแวดล้อมกรณีลงโทษจำเลยก็ได้ เมื่อศาลได้ชั่งน้ำหนักพยานแล้วแน่ใจว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด แม้คดีจะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยลงมือกระทำผิดก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษอาญาจากพยานแวดล้อม แม้ไม่มีประจักษ์พยานยืนยัน
ศาลจะอาศัยพยานบุคคลและวัตถุพยานแวดล้อมกรณีลงโทษจำเลยก็ได้ เมื่อศาลได้ชั่งน้ำหนักพยานแล้วแน่ใจว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด แม้คดีจะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยลงมือกระทำผิดก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของทรัพย์สินเมื่อผู้เช่าจำนำทรัพย์ - ผู้รับจำนำไม่มีสิทธิยึดทรัพย์
ให้เช่าทรัพย์สินไปแล้วผู้เช่าเอาทรัพย์นั้นไปจำนำไว้กับผู้อื่นเจ้าของผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนได้ ผู้รับจำนำไม่มีสิทธิจะยึดของที่จำนำไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของทรัพย์สินเมื่อผู้เช่าจำนำทรัพย์ – สัญญาจำนำไม่ผูกมัดเจ้าของ
ให้เช่าทรัพย์สินไปแล้วผู้เช่าเอาทรัพย์นั้นไปจำนำไว้กับผู้อื่น เจ้าของผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนได้ ผู้รับจำนำไม่มีสิทธิจะยึดของที่จำนำไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทะเบียนสมรสไม่ใช่หนังสือสำคัญตามกฎหมายอาญา การทำลายจึงไม่เป็นความผิด
ทะเบียนการสมรสไม่ใช่หนังสือสำคัญตามความหมายของมาตรา 6(20) ดังนั้นการซ่อนเร้นหรือทำลายทะเบียนสมรส จึงไม่เป็นความผิดฐานซ่อนเร้น หรือทำลายหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 228

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทะเบียนสมรสไม่ใช่ 'หนังสือสำคัญ' ตาม ม.6(20) อาญา การทำลายจึงไม่ผิดฐานซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน
ทะเบียนการสมรสไม่ใช่หนังสือสำคัญตามความหมายของมาตรา 6(20) ดังนั้นการซ่อนเร้นหรือทำลายทะเบียนสมรสจึงไม่เป็นความผิดฐานซ่อนเร้น หรือทำลายหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.228
of 344