พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตายจากความเมา ไม่เจตนาฆ่า ลดโทษจากข้อหาฆ่าเป็นทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
จำเลยไม่มีสาเหตุกับผู้ตายจำเลยใช้มีดเล็ก ๆ ยาวขนาด 5 นิ้วหัวแม่มือแทงผู้ตาย 1 ทีในขณะมาจำเลยไม่เจตนาจะให้ถึงตายหากไปถูกที่สำคัญ ประกอบกับการรักษาพยาบาลไม่ดีพอ ผู้ตายจึงได้ตาย ความผิดจำเลยต้องด้วย ก.ม.อาญา ม.2521
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนา, สาเหตุ, และการรักษา
จำเลยไม่มีสาเหตุกับผู้ตาย จำเลยใช้มีดเล็กๆ ยาวขนาด 5 นิ้วหัวแม่มือแทงผู้ตาย 1 ทีในขณะเมา จำเลยไม่เจตนาจะให้ถึงตายหากไปถูกที่สำคัญ ประกอบกับการรักษาพยาบาลไม่ดีพอ ผู้ตายจึงได้ตาย ความผิดจำเลยต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์สินร่วม การยื้อแย่งทรัพย์โดยไม่ชอบ และความรับผิดของผู้กระทำละเมิดร่วม
โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของข้าวร่วมกัน จำเลยได้แยกไปอยู่ที่อื่น แต่ข้าวยังอยู่ในความครอบครองของโจทก์ จำเลยได้พาพวกมาขนข้าวไปโดยพลการ โดยโจทก์ไม่ยินยอมดังนี้จำเลยต้องรับผิดและต้องคืนข้าวส่วนที่เกินให้โจทก์ไป
ผู้รับจ้างรู้ว่า ผู้จ้างไม่มีสิทธิในทรัพย์แต่ยังยอมรับจ้างไปขนทรัพย์นั้นมา ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมรับผู้จ้างด้วย
ผู้รับจ้างรู้ว่า ผู้จ้างไม่มีสิทธิในทรัพย์แต่ยังยอมรับจ้างไปขนทรัพย์นั้นมา ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมรับผู้จ้างด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1077/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์สินร่วม การยึดทรัพย์โดยไม่ชอบ และความรับผิดของผู้รู้เห็นเป็นใจ
โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของข้าวร่วมกันจำเลยได้แยกไปอยู่ที่อื่น แต่ข้าวยังอยู่ในความครอบครองของโจทก์ จำเลยได้พาพวกมาขนข้าวไปโดยพลการ โดยโจทก์ไม่ยินยอมดังนี้จำเลยต้องรับผิดและต้องคืนข้าวส่วนที่เกินให้โจทก์ไป
ผู้รับจ้างรู้ว่า ผู้จ้างไม่มีสิทธิในทรัพย์แต่ยังยอมรับจ้างไปขนทรัพย์นั้นมา ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมรับผู้จ้างด้วย
ผู้รับจ้างรู้ว่า ผู้จ้างไม่มีสิทธิในทรัพย์แต่ยังยอมรับจ้างไปขนทรัพย์นั้นมา ต้องรับผิดฐานละเมิดร่วมรับผู้จ้างด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมไม่ชัดเจนถึงผู้รับผลประโยชน์ ศาลไม่รับรองการเรียกร้องทรัพย์
พินัยกรรมมีข้อความว่า ให้เก็บผลประโยชน์ที่ได้จากห้องแถวที่ระบุไว้ส่งไปประเทศจีน ไม่ระบุว่าให้ส่งไปให้ใครตำบลใดไม่มีทางจะแปลว่า ผู้ทำพินัยกรรมประสงค์ยกห้องแถวให้บุตรติดมากับสามีที่อยู่ประเทศจีน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีซ้ำ: การยอมความเฉพาะคู่กรณีไม่ขัดขวางสิทธิของผู้อื่น
จำเลยเคยเป็นโจทก์ฟ้องทายาทของผู้ตายคนอื่นเกี่ยวกับที่ดินของผู้ตายทายาทผู้นั้นได้ยอมความกับจำเลยโดยทายาทคนอื่นๆ ของผู้ตายไม่ทราบเรื่องดังนี้ ทายาทคนอื่น ๆ ย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยเกี่ยวกับที่ดินแปลงเดียวกันได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1013/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีซ้ำ: การยอมความเฉพาะคู่กรณี ไม่กระทบสิทธิผู้อื่นในการฟ้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินเดียวกัน
จำเลยเคยเป็นโจทก์ฟ้องทายาทของผู้ตายคนอื่นเกี่ยวกับที่ดินของผู้ตาย ทายาทผู้นั้นได้ยอมความกับจำเลยโดยทายาทคนอื่นๆของผู้ตายไม่ทราบเรื่อง ดังนี้ ทายาทคนอื่นๆย่อมมีสิทธิฟ้องจำเลยเกี่ยวกับที่ดินแปลงเดียวกันได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ไม่สมบูรณ์และการสิ้นสุดสิทธิครอบครองเนื่องจากไม่ได้ทำสัญญาเช่าและไม่ชำระค่าเช่า
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลว่าจำเลยยอมยกห้องแถว 2 ชั้นของจำเลย ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 2649 ของโจทก์ ให้แก่โจทก์ และโจทก์ยอมจะให้จำเลยเช่าต่อไปโดยกำหนดเวลาเช่า สุดแต่จะตกลงกันเอง เมื่อปรากฏว่าโจทก์จำเลยตกลงกันไม่ได้ ในเรื่องกำหนดเวลาเช่าจนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 3 ปีนับแต่ทำยอมกัน ทั้งจำเลยไม่เคยชำระค่าเช่าดังนี้ ถือว่าไม่มีสัญญาเช่าต่อกัน จำเลยไม่มีสิทธิจะอยู่ในบ้านนั้นต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความและการสิ้นสุดสัญญาเช่า เมื่อตกลงเงื่อนไขเวลาเช่าไม่ได้ ทำให้ไม่มีสิทธิอยู่ต่อ
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลว่าจำเลยยอมยกห้องแถว 2 ชั้นของจำเลย ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 2649 ของโจทก์ ให้แก่โจทก์ และโจทก์ยอมจะให้จำเลยเช่าต่อไปโดยกำหนดเวลาเช่า สุดแต่จะตกลงกันเอง เมื่อปรากฎว่าโจทก์จำเลยตกลงกันไม่ได้ ในเรื่องกำหนดเวลาเช่าจนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 3 ปี นับแต่ทำยอมกัน ทั้งจำเลยไม่มีสัญญาเช่าต่อกัน จำเลยไม่มีสิทธิจะอยู่ในบ้านนั้นต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944-945/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าอาวาสฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ธรณีสงฆ์ และสิทธิวัดในการถือครองที่ดิน
เจ้าอาวาสมีอำนาจมอบฉันทะให้ไวยาวัจกร ฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ธรณีสงฆ์ของวัดได้ ตาม พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2484 มาตรา 43
วัดเป็นนิติบุคคลตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา72 มีสิทธิและหน้าที่เหมือนบุคคลธรรมดาตาม มาตรา 70 และ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2484 มาตรา 40 วัดก็ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้และวัดอาจได้ที่ดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1382(อ้างฎีกา 1253/2481)
วัดฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ธรณีสงฆ์ข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่านายอำเภอและชาวบ้านได้เอาที่รกร้างว่างเปล่านั้นถวายวัดเพื่อทำเป็นป่าช้า แล้วนายอำเภอกับพวกได้เอาป่าช้าเดิมของวัดปลูกที่ว่าการอำเภอ โรงเรียน ตลาดดั่งนี้ คดีไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงว่า นายอำเภอเอาที่ป่าช้าของวัดไปสร้างที่ว่าการอำเภอนั้นจะเป็นการชอบหรือไม่และการที่นายอำเภอเอาที่พิพาทไปถวายวัดนั้นเป็นการแลกเปลี่ยนที่ชอบหรือไม่
วัดเป็นนิติบุคคลตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา72 มีสิทธิและหน้าที่เหมือนบุคคลธรรมดาตาม มาตรา 70 และ พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ 2484 มาตรา 40 วัดก็ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้และวัดอาจได้ที่ดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1382(อ้างฎีกา 1253/2481)
วัดฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ธรณีสงฆ์ข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่พิพาทเป็นที่รกร้างว่างเปล่านายอำเภอและชาวบ้านได้เอาที่รกร้างว่างเปล่านั้นถวายวัดเพื่อทำเป็นป่าช้า แล้วนายอำเภอกับพวกได้เอาป่าช้าเดิมของวัดปลูกที่ว่าการอำเภอ โรงเรียน ตลาดดั่งนี้ คดีไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยถึงว่า นายอำเภอเอาที่ป่าช้าของวัดไปสร้างที่ว่าการอำเภอนั้นจะเป็นการชอบหรือไม่และการที่นายอำเภอเอาที่พิพาทไปถวายวัดนั้นเป็นการแลกเปลี่ยนที่ชอบหรือไม่