คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูภันย์วิมลสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นระบุพยานนอกกรอบเวลาที่ศาลกำหนด และเหตุผลความล่าช้าที่ไม่สมควร
จำเลยไม่ได้ยื่นระบุพยานไว้ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกแล้วมีเหตุต้องเลื่อนไปอีกเดือนครึ่งจำเลยจึงพึ่งยื่นขอระบุพยานในระหว่างสืบพยานโจทก์ครั้งหลัง โดยอ้างเหตุว่าสืบไปนั้นยังไม่เป็นเหตุอันสมควรให้ศาลรับฟังพยานโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา87,88

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 819/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นระบุพยานล่าช้า: ศาลไม่รับฟังเหตุผล 'ลืม' แม้มีการเลื่อนนัด
จำเลยไม่ได้ยื่นระบุพยานไว้ ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกแล้วมีเหตุต้องเลื่อนไปอีกเดือนครึ่งจำเลยจึงพึ่งยื่นขอระบุพยานในระหว่างสืบพยานโจทก์ครั้งหลัง โดยอ้างเหตุว่าลืมไปนั้น ยังไม่เป็นเหตุอันสมควรให้ศาลรับฟังพยานโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.แพ่ง ม.87,88,

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้เช่าต่อความเสียหายของเรือนอันเกิดจากการกระทำของบุคคลอื่นระหว่างเช่า และค่าเช่าค้างชำระ
จำเลยเช่าเรือนของโจทก์ไปเรือนเกิดบุบสลายเสียหายขึ้นเพราะการกระทำของบุคคลอื่นใดในระหว่างที่จำเลยยังเช่าโจทก์อยู่อันเป็นความผิดของจำเลยจำเลยต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ผู้ให้เช่าตามมาตรา 562 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เมื่อสัญญาเช่าระงับลงแล้ว ผู้เช่าส่งมอบเรือนคืนไม่ได้เพราะพฤติการณ์ที่ผู้เช่าต้องรับผิดชอบผู้เช่าต้องใช้ค่าทดแทนในการนี้ตามจำนวนค่าเช่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้เช่าต่อความเสียหายของเรือนที่เกิดจากการกระทำของบุคคลอื่นระหว่างเช่า
จำเลยเช่าเรือนของโจทก์ไป เรือนเกิดบุบสลายเสียหายขึ้นเพราะการกระทำของบุคคลอื่นใดในระหว่างที่จำเลยยังเช่าโจทก์อยู่ อันเป็นความผิดของจำเลยๆ ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ผู้ให้เช่าตามมาตรา 562 ป.พ.พ.ม
เมื่อสญญา+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทิศที่ดินและสิทธิครอบครอง: แม้สุเหร่าไม่เป็นนิติบุคคล ผู้ดูแลรักษาไม่ถือเป็นการครอบครองปรปักษ์
ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดว่าจำเลยครอบครองที่สุเหร่าโดยฐานผู้ดูแลรักษาไม่ใช่ปรปักษ์ต่อผู้อุทิศให้ จึงพิพากษาให้ขับไล่จำเลย แม้ศาลจะมิได้พิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของ ก็ไม่มีทางที่จำเลยจะไม่ยอมปฏิบัติตามคำบังคับในคำพิพากษาคดีที่เสร็จไปแล้วนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิร่วมในที่ดิน: สันนิษฐานว่ามีส่วนได้เสีย และภาระการพิสูจน์ของจำเลย
โจทก์ฟ้องว่า มีกรรมสิทธิในที่ดินร่วมกับจำเลย จำเลยสู้คดีว่าจำเลยเป็นผู้ออกเงินซื้อที่รายนี้แล้วลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิด้วยเพื่อลวงมิให้ญาติอื่นมาแย่งมรดก ดังนี้ในเบื้องต้นต้องสันนิษฐานว่าโจทก์มีกรรมสิทธิอยู่ด้วยส่วนหนึ่งเป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งแยกที่ดินบ้านเรือนมีคำขอให้ใช้ราคามาด้วยเป็นจำนวนค่อนข้างสูงจำเลยก็ขอให้ใช้ราคาแทนแบ่ง เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลอาจพิพากษาให้แบ่งโดยวิธีให้จำเลยใช้เงินราคาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิร่วมในที่ดิน: สันนิษฐานว่ามีส่วนได้เสีย, จำเลยมีหน้าที่พิสูจน์หักล้าง
โจทก์ฟ้องว่า มีกรรมสิทธิในที่ดินร่วมกับจำเลย จำเลยสู้คดีว่าจำเลยเป็นผู้ออกเงินซื้อที่รายนี้แล้วลงชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิด้วยเพื่อลวงมิให้ญาติอื่นมาแย่งมรดก ดังนี้ในเบื้องต้นต้องสันนิษฐานว่าโจทก์มีกรรมสิทธิอยู่ด้วยส่วนหนึ่งเป็นหน้าที่ของจำเลยต้องนำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งแยกที่ดินบ้านเรือนมีคำขอให้ใช้ราคามาด้วยเป็นจำนวนค่อนข้างสูง จำเลยก็ขอให้ใช้ราคาแทนแบ่งเมื่อศาลเห็นสมควร ศาลอาจพิพากษาให้แบ่งโดยวิธีให้จำเลยใช้เงินราคาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจดุลยพินิจศาลในการพิจารณาพยานและตรวจสอบสถานที่: ข้อจำกัดในการฎีกาข้อเท็จจริงในคดีที่มีทุนทรัพย์น้อย
การที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้คู่ความอ้างพยานเพิ่มเติมตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 88 + ก็ดี การที่ศาลไม่ไปดูที่พิพาทก็ดี เป็นเรื่องดุลยพินิจของศาล การโต้แย้งดุลยพินิจของศาลเป็นการโต้แย้งดุลยพินิจของศาลเป็นการโต้แย้งในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลในการรับฟังพยานและการตรวจดูสถานที่ การโต้แย้งถือเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริง
การที่ศาลสั่งไม่อนุญาตให้คู่ความอ้างพยานเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม ก็ดีการที่ศาลไม่ไปดูที่พิพาทก็ดีเป็นเรื่องดุลพินิจของศาลการโต้แย้งดุลพินิจของศาลเป็นการโต้แย้งในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์หากไม่ระบุสถานที่เกิดเหตุ แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องหลังสืบพยานไม่ได้
ฟ้องไม่ระบุสถานที่เกิดเหตุ เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
การสั่งให้โจทก์แก้ใขหรือเพิ่มเติมฟ้องจะกระทำได้เมื่อก่อนรับฟ้องหรือไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อสืบพะยานเสร็จสิ้นแล้วจะแก้ไขหาได้ไม่
of 344