คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูภันย์วิมลสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์หากไม่ระบุสถานที่เกิดเหตุ แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องหลังสืบพยานไม่ได้
ฟ้องไม่ระบุสถานที่เกิดเหตุ เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
การสั่งให้โจทก์แก้ใขหรือเพิ่มเติมฟ้องจะกระทำได้เมื่อก่อนรับฟ้องหรือไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อสืบพะยานเสร็จสิ้นแล้วจะแก้ไขหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะไถ่โฉนดคืน: จำเลยมีหน้าที่ตามสัญญา แม้โจทก์ไม่มีอำนาจไล่เบี้ย
จำเลยยืมโฉนดที่ดินของโจทก์ไปวางประกันเงินกู้จากธนาคารโดยให้โจทก์ลงชื่อในใบมอบฉันทะให้ไว้สัญญาจะไถ่คืนให้ใน 1 เดือนโจทก์มีอำนาจฟ้องให้จำเลยจัดการไถ่โฉนดคืนให้โจทก์ตามสัญญาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้ทางน้ำในที่สาธารณะ แม้จำเลยครอบครองภายหลัง โจทก์มีสิทธิใช้ทางน้ำเดิมได้
โจทก์ขุดทางน้ำจากคลองผ่านชานคลองเก่าอันเป็นที่สาธารณะมาสู่ที่โจทก์และใช้ประโยชน์ตลอดมาแล้วต่อมาภายหลังจำเลยได้เข้ายึดถือที่สาธารณะนั้น จำเลยย่อมไม่มีสิทธิไปปิดกั้นทางน้ำนั้นได้เมื่อจำเลยไปขุดดินปิดเข้าก็ย่อมเป็นการละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด: การเริ่มต้นนับอายุความเมื่อมีการกระทำละเมิด และการรับสภาพหนี้
ฟ้องเรียกค่าเสียหายละเมิด แต่ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดในทางอาญาต่อโจทก์ คดีจึงนับอายุความตาม ป.พ.พ.มาตรา 448 วรรค 2 ไม่ได้
การที่จำเลยรับด้วยวาจาว่าจะพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายให้ ไม่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172
จำเลยร้องทุกข์ว่าโจทก์กระทำผิดทางอาญา ต่อมาโจทก์ถูกฟ้องจนศาลพิพากษายกฟ้องถูกละเมิดตั้งแต่วันที่จำเลยร้องทุกข์ ไม่ใช่เมื่อศาลยกฟ้อง
เมื่อจำเลยยกข้อต่อสู้ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว เป็นหน้าที่ศาลจะต้องปรับมาตราเอง จำเลยไม่ต้องยกบทกฎหมายมาโดยแจ้งชัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด, การรับสภาพหนี้, วันเกิดสิทธิเรียกร้อง, ศาลปรับบทเอง
ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดแต่ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้กระทำผิดในทางอาญาต่อโจทก์คดีจึงนับอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคสอง ไม่ได้
การที่จำเลยรับด้วยวาจาว่าจะพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายให้ไม่เป็นการรับสภาพหนี้ตามมาตรา 172
จำเลยร้องทุกข์ว่าโจทก์กระทำผิดทางอาญาต่อมาโจทก์ถูกฟ้องจนศาลพิพากษายกฟ้องแล้วนั้นสิทธิของโจทก์ย่อมถูกละเมิดตั้งแต่วันที่จำเลยร้องทุกข์ ไม่ใช่เมื่อศาลยกฟ้อง
เมื่อจำเลยยกข้อต่อสู้ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วเป็นหน้าที่ศาลจะต้องปรับบทมาตราเอง จำเลยไม่ต้องยกบทกฎหมายมาโดยแจ้งชัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดสืบพยานเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ และการวินิจฉัยคดีโดยไม่ต้องย้อนสำนวน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อที่คู่ความประสงค์จะนำสืบไม่เป็นประโยชน์ต่อคดีศาลย่อมมีอำนาจที่จะงดสืบพยานนั้นเสียได้และเมื่อเห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่พอเพียงจะเชื่อฟังเป็นยุติได้แล้วก็พิพากษาคดีนั้นได้ ไม่จำต้องสืบพยานต่อไปตามที่คู่ความขออีก
ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไปศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่โดยยังไม่ได้วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้วก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการงดสืบพยานและวินิจฉัยคดีเมื่อมีหลักฐานเพียงพอ กรณีเช่าทรัพย์สิน
เมื่อศาลเห็นว่าข้อที่คู่ความประสงค์จะนำสืบไม่เป็นประโยชน์ต่อคดี ศาลย่อมมีอำนาจที่จะงดสืบพยานนั้นเสียได้ และเมื่อเห็นว่าพยานหลักฐานเท่าที่มีอยู่พอเพียงจะเชื่อฟังเป็นยุติได้แล้ว ก็พิพากษาคดีนั้นได้ ไม่จำต้องสืบพยานต่อไปตามที่คู่ความขออีก
ศาลชั้นต้นสองถามคู่ความแล้วงดสืบพยานแล้วพิพากษาคดีไป ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีเสียใหม่ โดยยังไม่ไม่วินิจฉัยข้อพิพาทในคดีนั้นเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าคดีมีหลักฐานพอที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัยได้แล้ว ก็ไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนเมื่อผิดนัดชำระหนี้
เมื่อห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้ โจทก์ก็ฟ้องเรียกจากจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้ ในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วน
เมื่อโจทก์ทั้งหมดได้รับค่าจ้างจากจำเลยด้วยกันและทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 689/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนเมื่อผิดนัดชำระหนี้ และการฟ้องร่วมของลูกจ้าง
เมื่อห้างหุ้นส่วนซึ่งจดทะเบียนผิดนัดชำระหนี้ โจทก์ก็ฟ้องเรียกจากจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนนั้นได้ ในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วน
เมื่อโจทก์ทั้งหมดได้รับค่าจ้างจากจำเลยด้วยกันและทำงานร่วมกันจึงเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 664/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่จดทะเบียนสมรสหลังแต่งงาน: สิทธิเรียกร้องสินสอดคืนเป็นโมฆะ หากทั้งสองฝ่ายละเลย
ชายหญิงสมรสกันแล้วทั้งสองฝ่ายละเลยไม่ไปจดทะเบียน อันไม่นับว่าเป็นความผิดของหญิงฝ่ายเดียวดังนี้ ชายจะฟ้องเรียกสินสอดและของหมั้นคืนไม่ได้ ( อ้างฎีกาที่ 659/2483 และ 269/2488 )
of 344