พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอม ย่อมผูกพันคู่สัญญา แม้จะไม่ได้ระบุสถานที่ชำระเงินชัดเจน หากมีเจตนาชำระแล้ว
ทำสัญญาประนีประนอมต่อพนักงานอำเภอให้เขาไถ่ที่ที่จำเลยยึดไว้ทำต่างดอกเบี้ยแต่ไม่ระบุให้ชำระเงินที่ไหนแม้จะยังไม่ได้ชำระเงินกันตามสัญญาก็ไม่เป็นเหตุให้สัญญานั้นเลิกไปจำเลยยังมีความผูกพันที่จะต้องให้ไถ่ที่นั้นอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบข้อเท็จจริงฐานะตัวแทนตัวการ ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่การแก้ไขเอกสารสัญญา
โจทก์ฟ้องขอไล่จำเลยออกจากห้องเช่า โดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์จำเลยและทายาทคนอื่นต่างเป็นผู้เช่าด้วยกัน เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ครั้งบิดาเป็นผู้เช่า ครั้นบิดาตายแล้ว ทายาททุกคนต่างก็แสดงเจตนาขอเช่าทุกคน แต่เพื่อความสดวกในการทำสัญญาเช่า จึงให้โจทก์ผู้เดียวเป็นผู้เซ็นสัญญาแทน ดังนี้ จำเลยย่อมนำสืบความจริงได้ เพราะเป็นการสืบความจริงระหว่างตัวแทนตัวการ มิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารสัญญาเช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบข้อเท็จจริงฐานะตัวแทน-ตัวการ ไม่เป็นการแก้ไขเอกสารสัญญาเช่า
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่า โดยอ้างว่าจำเลยอาศัย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์จำเลยและทายาทคนอื่นต่างเป็นผู้เช่าด้วยกัน เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ครั้งบิดาเป็นผู้เช่า ครั้นบิดาตายแล้ว ทายาททุกคนต่างก็แสดงเจตนาขอเช่าทุกคน แต่เพื่อความสะดวกในการทำสัญญาเช่า จึงให้โจทก์ผู้เดียวเป็นผู้เซ็นสัญญาแทน ดังนี้จำเลยย่อมนำสืบความจริงได้เพราะเป็นการสืบความจริงระหว่างตัวแทนกับตัวการ มิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารสัญญาเช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1495/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้เงินฝากไม่จำเป็นต้องมีใบรับชำระ หากมีการชำระหนี้จริงแล้ว แม้ผู้รับฝากยังมีหลักฐานหนี้อยู่
มาตรา 326 มิได้บังคับให้ลูกหนี้ต้องมีใบรับชำระหนี้มาแสดงเมื่อลูกหนี้ผู้รับฝากได้ชำระเงินที่ได้รับฝากคืนให้ฝากแล้ว แม้ผู้ฝากจะยังยึดถือหนังสือที่เป็นหลักฐานแห่งหนี้อยู่ ผู้ฝากก็ฟ้องเรียกเงินอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายฝากที่ดินและโรงเรือน: จำเลยต้องพิสูจน์ความสุจริตหากรับรองกรรมสิทธิ์ของผู้ขายฝาก
โจทก์ฟ้องว่ารับซื้อฝากที่ดินและโรงเรือนไว้จากผู้มีชื่อ 2 ห้อง โดยทำสัญญาและจดทะเบียนกันที่อำเภอ จำเลยได้ทำละเมิดบังอาจปิดประตูใส่กุญแจโรงเรือนซึ่งรับซื้อฝากไว้นั้น จึงขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า ห้องที่โจทก์รับซื้อฝากไว้นั้นเดิมเป็นมรดกของบรรพบุรุษตกทอดมาห้องที่จำเลยปิดได้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ขายฝาก และทายาทผู้นั้นได้ให้จำเลยครอบครองเก็บค่าเช่าต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ เป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานกัน ก็ต้องตัดสินให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยให้การว่า ห้องที่โจทก์รับซื้อฝากไว้นั้นเดิมเป็นมรดกของบรรพบุรุษตกทอดมาห้องที่จำเลยปิดได้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ขายฝาก และทายาทผู้นั้นได้ให้จำเลยครอบครองเก็บค่าเช่าต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ เป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานกัน ก็ต้องตัดสินให้โจทก์ชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายฝากที่ดินและโรงเรือน: หน้าที่การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์ฟ้องว่ารับซื้อฝากที่ดินและโรงเรือนไว้จากผู้มีชื่อ 2 ห้องโดยทำสัญญาและจดทะเบียนกันที่อำเภอ จำเลยได้ทำละเมิดบังอาจปิดประตูใส่กุญแจโรงเรือนซึ่งรับซื้อฝากนั้น จึงขอให้ห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า ห้องที่โจทก์รับซื้อฝากไว้นั้นเดิมเป็นมรดกของบรรพบุรุษตกทอดมา ห้องที่จำเลยปิดได้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ขายฝาก และทายาทผู้นั้นได้ให้จำเลยครอบครองเก็บค่าเช่าต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ เป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานกัน ก็ต้องตัดสินให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยให้การว่า ห้องที่โจทก์รับซื้อฝากไว้นั้นเดิมเป็นมรดกของบรรพบุรุษตกทอดมา ห้องที่จำเลยปิดได้แก่ทายาทอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ขายฝาก และทายาทผู้นั้นได้ให้จำเลยครอบครองเก็บค่าเช่าต่างดอกเบี้ยเงินกู้ ดังนี้ เป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบก่อน เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่สืบพยานกัน ก็ต้องตัดสินให้โจทก์ชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำของผู้ตายที่ยั่วยุจนจำเลยบันดาลโทสะและก่อเหตุฆ่า เป็นเหตุข่มเหงที่ไม่เป็นธรรมตามมาตรา 55
พฤติการณ์ที่ถือว่า เป็นการข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมและกระทำให้บันดาลโทษะ ตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บันดาลโทสะจากการยั่วยุ: การกระทำผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา และเหตุลดโทษตามกฎหมาย
ผู้ตายอยู่กินกับจำเลยอย่างสามีภริยาแล้วทิ้งจำเลยไป จำเลยตามให้กลับ ผู้ตายก็ด่าจำเลยด้วยคำหยาบช้า และถีบเตะ เอาศีรษะชนอกจำเลย จำเลยจึงแทงผู้ตายไปในขณะนั้น เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำของผู้ตายเป็นเหตุให้จำเลยบันดาลโทสะและก่อเหตุฆ่า ได้รับการลดโทษตามมาตรา 55
พฤติการณ์ที่ถือว่า เป็นการข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมและกระทำให้บันดาลโทสะ ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการเพื่อหลอกลวงและกระทบความมั่นคงระหว่างประเทศ
จำเลยสมคบกันทำเอกสารปลอมขึ้นเป็นสำเนาหนังสือราชการของกระทรวงกลาโหม เป็นคำสั่งลับมาก ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเทศไทย ขอให้เจรจาตอบข้อเสนอของกระทรวงกลาโหมสหภาพโซเวียตในเรื่องกิจการทหารและทางอาวุธ ซึ่งทางสหภาพโซเวียตจะให้ความช่วยเหลือและขอให้แจ้งข้อเสนอแนวทางนโยบายทางการเมืองของกระทรวงกลาโหมแห่งประเทศไทย เพื่อให้กระทรวงกลาโหมแห่งสหภาพโซเวียตทราบ โดยจำเลยได้ลงลายมือชื่อของรองผู้อำนวยการศึกษาและวิจัยกรมเสนาธิการกระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ปลอมลงในสำเนาเอกสารปลอมนั้น รับรองว่าเป็นสำเนาที่ถูกต้อง ความจริงเอกสารปลอมนั้น ไม่ใช่เอกสารของกระทรวงกลาโหม หากจำเลยคิดทำปลอมขึ้นเองทั้งนั้น แล้วทำการติดต่อกับชาวต่างประเทศเพื่อทำการขายเอกสารลับปลอมนั้นดังนี้ ย่อมเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 105 เบ็ญจ