คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
มนูภันย์วิมลสาร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1008/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้ด้วยการชำระหนี้ด้วยเรือน การระงับหนี้เดิม
จำเลยตกลงกับโจทก์ เอาเรือนของจำเลยตีใช้หนี้เงินกู้ให้โจทก์เป็นราคา 9,500 บาทโดยให้โจทก์รื้อเอาเรือนไปใน 5 วัน นั้น หาจำต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ป.พ.พ.มาตรา 456 ไม่ข้อตกลงดังกล่าว เป็นการแปลงหนี้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 349 โดยคู่กรณีได้ตกลงเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้ คือเอาเรือนของ จำเลยชำระหนี้แทนที่จะต้องนำเงินมาชำระตามสํญญากู้ ฉะนั้นหนี้เงินกู้ระหว่างโจทก์จำเลยจึงเป็นอันระงับไป./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากจำคุกเป็นรอการลงอาญา และการไม่ขัดขวางสิทธิในการฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอการลงอาญา ศาลอุทธรณ์แก้ให้รอการลงอาญา เป็นการแก้มากไม่ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามมาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากจำคุกเป็นรอการลงอาญา และการพิจารณาคำฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอการลงอาญา ศาลอุทธรณ์แก้ให้รอการลงอาญา เป็นการแก้ มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามมาตรา 218.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษอาญาในชั้นอุทธรณ์และการฎีกาในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดสมคบทำร้ายร่างกาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 256 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี 6 เดือน ลดฐานเป็นเด็ก 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 8 เดือน.
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามมาตรา 254 จำคุก 15 วัน ปรับ 120 บาท เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 20 วัน ปรับ 160 บาท โทษจำให้ยกเสีย ส่วนจำเลยที่ 2 ผิดตามมาตรา 256 จำคุก 2 ปี ลดฐานเป็นเด็กกึ่งหนึ่งคงจำ คุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ ดังนี้ คดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์แก้ทั้งบทและทั้งกำหนดโทษ ถือว่า เป็นการ แก้ไขมาก โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้และคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 แม้ศาลอุทธรณ์เพียงแต่แก้ไขกำหนดโทษ เท่านั้น แต่ก็ให้รอการลงอาญาแก่จำเลยไว้ จึงเป็นการแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกัน./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากทำร้ายร่างกายและการพิจารณาแก้ไขโทษของศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 256 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 2 จำคุก 2 ปี 6 เดือน ลดฐานเป็นเด็ก 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 8 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 ผิดตามมาตรา 254จำคุก 15 วัน ปรับ 120 บาท เพิ่มโทษ 1 ใน 3 เป็นจำคุก 20 วัน ปรับ 160 บาทโทษจำให้ยกเสีย ส่วนจำเลยที่ 2 ผิดตามมาตรา 256 จำคุก 2 ปี ลดฐานเป็นเด็กกึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี และให้รอการลงอาญาไว้ดังนี้ คดีเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์แก้ทั้งบทและทั้งกำหนดโทษ ถือว่าเป็นการแก้ไขมาก โจทก์ย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ และคดีเฉพาะจำเลยที่ 2 แม้ศาลอุทธรณ์เพียงแต่แก้ไขกำหนดโทษเท่านั้น แต่ก็ให้รอการลงอาญาแก่จำเลยไว้ จึงเป็นการแก้ไขมาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้เช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สถานะ 'ผู้ค้า' เพื่อกำหนดอายุความคดีนายหน้า ตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา 165(7)
ตามปกติโจทก์ทำงานประจำที่บริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง เวลาว่างงานเคยเป็นนายหน้า ติดต่อเปิดเครดิตให้บริษัทอื่น ๆ บ้าง เคยเป็นนายหน้าในการขายแร่ให้จำเลยบ้าง ไม่ได้ความว่าเป็นอาชีพปกติหรือไม่ คงฟังได้เพียงว่าเคยปฏิบัติ ในเวลาว่างงาน ดังนี้ ยังไม่พอที่จะวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่าง ๆ ตาม ความหมายแห่ง ป.ม.แพ่งฯมาตรา 165 (7).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1000/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์สถานะ 'ผู้ค้า' เพื่อประโยชน์ในการฟ้องคดีภายในอายุความ
ตามปกติโจทก์ทำงานประจำที่บริษัทจำกัดแห่งหนึ่ง เวลาว่างงานเคยเป็นนายหน้าติดต่อเปิดเครดิตให้บริษัทอื่นๆบ้าง เคยเป็นนายหน้าในการขายแร่ให้จำเลยบ้าง ไม่ได้ความว่าเป็นอาชีพปกติหรือไม่ คงฟังได้เพียงว่าเคยปฏิบัติในเวลาว่างงาน ดังนี้ ยังไม่พอที่จะวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นผู้ค้าในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่างๆ ตามความหมายแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(7)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายที่ดินยังไม่โอนกรรมสิทธิ์ เจ้าหนี้จำเลยมีสิทธิยึดได้ แม้มีการส่งมอบการครอบครองและรับชำระเงินบางส่วน
ทำสัญญาจะขายที่ดินมือเปล่ากัน แม้จะได้รับชำระราคาบางส่วน และส่งมอบที่ดินให้ผู้จะซื้อครอบครองแล้วก็ตาม ถ้าตามพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า ผู้จะขายมีเจตนาเพียงมอบที่ให้ผู้จะซื้อครอบครองแทนเท่านั้นและสิทธิแห่งการ เป็นเจ้าของที่ ก็ยังหาเปลี่ยนจากผู้จะขายไปเป็นของผู้จะซื้อไม่ฉะนั้นในระหว่างนั้น เจ้าหนี้ของผู้จะขายตามคำพิ พากษา ย่อมมีสิทธิยึคที่ดินนั้น เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะขายที่ดินยังไม่สมบูรณ์ เจ้าหนี้จำเลยมีสิทธิยึดได้ แม้ผู้จะซื้อครอบครองแล้ว
ทำสัญญาจะขายที่ดินมือเปล่ากัน แม้จะได้รับชำระราคาบางส่วน และส่งมอบที่ดินให้ผู้จะซื้อครอบครองแล้วก็ตาม ถ้าตามพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า ผู้จะขายมีเจตนาเพียงมอบที่ให้ผู้จะซื้อครอบครองแทนเท่านั้นแล้วสิทธิแห่งการเป็นเจ้าของที่ก็ยังหาเปลี่ยนจากผู้จะขายไปเป็นของผู้จะซื้อไม่ ฉะนั้นในระหว่างนั้น เจ้าหนี้ของผู้จะขายตามคำพิพากษา ย่อมมีสิทธิยึดที่ดินนั้น เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 976-977/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมอำพราง: การโอนทรัพย์สินโดยมีเจตนาซ่อนเร้น ศาลพิจารณาจากเจตนาที่แท้จริงของผู้โอน
จดทะเบียนโอนโฉนดขายให้เพราะเสียค่าธรรมเนียมถูกกว่ายกให้โดยความจริงเป็นการยกให้ดังนี้ ต้องบังคับตามนิติกรรมอำพราง การยกให้ไม่เป็นโมฆะ ผู้โอนจะเรียกที่ดินคืนมิได้
of 344