พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,437 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดต่อความเสียหายทางร่างกายและอนาคตการทำงาน
กรณีละเมิดทำให้เขาเสียหายแก่ร่างกายหรืออนามัยนั้น ผู้ทำละเมิดจะต้องเสียค่าเสียหายเพื่อการเสียหายที่ผู้เสีย หายเสียความสามารถประกอบการงานทั้งในเวลาปัจจุบันและในอนาคตด้วย.
ขับรถยนต์ชนเด็กอายุ 11 ขวบโดยประมาท เป็นเหตุให้เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส นายแพทย์ต้องบตัดขาขวาออกไป ข้างหนึ่ง ดังนี้ เด็กย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง และมีสิทธิขอค่า+ ภายในอนาคต คิด คำนวนเป็นรายเดือนจนกว่าจะมีอายุบรรลุนิติภาวะได้อีกด้วย./
ขับรถยนต์ชนเด็กอายุ 11 ขวบโดยประมาท เป็นเหตุให้เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส นายแพทย์ต้องบตัดขาขวาออกไป ข้างหนึ่ง ดังนี้ เด็กย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง และมีสิทธิขอค่า+ ภายในอนาคต คิด คำนวนเป็นรายเดือนจนกว่าจะมีอายุบรรลุนิติภาวะได้อีกด้วย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือ แม้ไม่ระบุชื่อโดยตรง ก็ถือเป็นความผิด หากพิสูจน์ได้ว่าหมายถึงผู้เสียหาย และไม่มีเหตุยกเว้นตามกฎหมาย
หมิ่นประมาทเขาทางหนังสือ แม้ในหนังสือจะมิได้กล่าวเจาะจงถึงผู้เสียหายโดยตรง คือกล่าวว่าเป็นการสุดแสนจะ ทนดูพวกมหาดไทยเล่นสกปรกต่อไป ฯลฯ นั้น เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า พวกมหาดไทยนั้นจำเลยหมายถึงผู้เสีย หายดังนี้ จำเลยก็ย่อมมีผิดฐานหมิ่นประมาทผู้เสียหาย.
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใด อย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว./
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใด อย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือ แม้ไม่ระบุชื่อโดยตรง หากพยานหลักฐานแสดงถึงตัวผู้เสียหาย ก็ถือว่ามีความผิด
หมิ่นประมาทเขาทางหนังสือแม้ในหนังสือจะมิได้กล่าวเจาะจงถึงผู้เสียหายโดยตรง คือกล่าวว่าเป็นการสุดแสนจะทนดูพวกมหาดไทยเล่นสกปรกต่อไปฯลฯนั้นเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า พวกมหาดไทยนั้นจำเลยหมายถึงผู้เสียหายดังนี้จำเลยก็ย่อมมีผิดฐานหมิ่นประมาทผู้เสียหาย
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภรรยาทำสัญญาเงินกู้โดยสามีไม่ยินยอม สามีไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ส่วนตัว
ภรรยาตั้งร้านค้ารับจ้างตัดเสื้อโดยสามีรู้เห็นภรรยากู้เงินโดยไม่ได้รับอนุญาตของสามีสามีไม่ต้องรับผิดตามสัญญากู้เป็นส่วนตัวด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อผิดพลาดวันในฟ้อง ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ และการลดโทษจากเหตุบรรดาลโทสะและช่วยเหลือพี่ชาย
ฟ้องของโจทก์กล่าววันทางจันทรคติในวงเล็บผิดวัน แต่วันทางสุริยะคดีถูกต้อง ทั้งพยานโจทก์เบิกความถึงวันทาง สุริยะคติ และจันทรคติถูกต้อง ดังนี้ ไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้เสียเปรียบประการใด ไม่เป็นเหตุให้พิพากษายกฟ้อง โจทก์ เพราะเหตุนี้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของวันในฟ้องคดีอาญา: ไม่ส่งผลให้จำเลยเสียเปรียบหากวันสุริยคติถูกต้อง
ฟ้องของโจทก์กล่าววันทางจันทรคติในวงเล็บผิดวัน แต่วันทางสุริยะคติถูกต้องทั้งพยานโจทก์เบิกความถึงวันทางสุริยะคติและจันทรคติถูกต้อง ดังนี้ ไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้เสียเปรียบประการใดไม่เป็นเหตุให้พิพากษายกฟ้องโจทก์ เพราะเหตุนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายเนื่องจากไม่วางเงินค่าธรรมเนียม ศาลฎีกายกคำขอให้รับอุทธรณ์
จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่จะพึงรับไว้พิจารณา จึงให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยเสีย เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว 22 วัน จำเลยได้ยื่นคำร้องขอวางเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์ (ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาพ้นกำหนดอายุความอุทธรณ์นานถึง5เดือนเศษแล้ว) แล้วฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของจำเลยดังนี้คดีไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เหตุไม่วางค่าธรรมเนียมพร้อมอุทธรณ์ แม้แก้ปัญหาภายหลังก็สายเกินไป
จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียม ซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 229 ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายที่จะพึง รับไว้พิจารณา จึงให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยเสีย เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว 22 วัน จำเลยได้ยื่นคำร้องขอวางเงิน ค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์ (ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาพ้นกำหนดอายุความอุทธรณ์นานถึง 5 เดือนเศษแล้ว) แล้วฎีกาขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของจำเลย ดังที่คดีไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำ เลยได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย แม้ในสัญญาจะระบุหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
ความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3 นั้น ความสำคัญอยู่ที่การให้กู้ดดยเรียก หรือคิดเอาดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่นทำหนังสือสัญญาในการกู้ยืมเงินว่าให้ดอกเบี้ยตาม กฎหมาย,หรือในเอกสารกู้ยืมเงินจะมิได้กล่าวถึงเรื่องดอกเบี้ยเลย แต่ในทางปฏิบัติผู้ให้กู้ได้คิดหรือเรียกเอาดอก เบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายได้กำหนดไว้ก็เป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 708/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคิดดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมาย แม้ในสัญญาจะระบุหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
ความผิดตาม พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475มาตรา 3 นั้น ความสำคัญอยู่ที่การให้กู้โดยเรียกหรือคิดเอาดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่นทำหนังสือสัญญาในการกู้ยืมเงินว่าให้ดอกเบี้ยตามกฎหมายหรือในเอกสารกู้ยืมเงินจะมิได้กล่าวถึงเรื่องดอกเบี้ยเลยแต่ในทางปฏิบัติผู้ให้กู้ได้คิดหรือเรียกเอาดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายได้กำหนดไว้ก็เป็นความผิดตามกฎหมายแล้ว