พบผลลัพธ์ทั้งหมด 31 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2044/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายฝากที่ดินหลังถูกยึด: หนี้ไม่ระงับ ผู้ค้ำประกันยังผูกพัน
การตกลงทำสัญญาขายฝากที่ดิน โดยถือเอาหนี้เงินกู้เป็นราคาที่ขายฝากเป็นการแปลงหนี้ใหม่
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ที่ขายฝากไว้ก่อนขายฝาก ผู้ขายฝากไม่มีสิทธินำไปขายฝากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 305(1) การขายฝากจึงมิได้เกิดมีขึ้น หนี้เงินกู้จึงไม่ระงับสิ้นไปผู้ค้ำประกันยังต้องผูกพันตามสัญญาค้ำประกันอยู่
การที่ลูกหนี้ถูกยึดทรัพย์แล้วเจ้าหนี้มิได้ดำเนินการเพื่อให้ได้เข้าเฉลี่ยหนี้นั้น ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เจ้าหนี้เสียสิทธิที่จะฟ้องผู้ค้ำประกัน
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ที่ขายฝากไว้ก่อนขายฝาก ผู้ขายฝากไม่มีสิทธินำไปขายฝากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 305(1) การขายฝากจึงมิได้เกิดมีขึ้น หนี้เงินกู้จึงไม่ระงับสิ้นไปผู้ค้ำประกันยังต้องผูกพันตามสัญญาค้ำประกันอยู่
การที่ลูกหนี้ถูกยึดทรัพย์แล้วเจ้าหนี้มิได้ดำเนินการเพื่อให้ได้เข้าเฉลี่ยหนี้นั้น ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เจ้าหนี้เสียสิทธิที่จะฟ้องผู้ค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2044/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายฝากที่ถูกยึดก่อนยึดทรัพย์ หนี้ไม่ระงับ ผู้ค้ำประกันยังผูกพัน
การตกลงทำสัญญาขายฝากที่ดิน โดยถือเอาหนี้เงินกู้เป็นราคาที่ขายฝากเป็นการแปลงหนี้ใหม่
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ที่ขายฝากไว้ก่อนขายฝาก ผู้ขายฝากไม่มีสิทธินำไปขายฝากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 305(1) การขายฝากจึงมิได้เกิดมีขึ้น หนี้เงินกู้จึงไม่ระงับสิ้นไปผู้ค้ำประกันยังต้องผูกพันตามสัญญาค้ำประกันอยู่
การที่ลูกหนี้ถูกยึดทรัพย์แล้วเจ้าหนี้มิได้ดำเนินการเพื่อให้ได้เข้าเฉลี่ยหนี้นั้น ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เจ้าหนี้เสียสิทธิที่จะฟ้องผู้ค้ำประกัน
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ที่ขายฝากไว้ก่อนขายฝาก ผู้ขายฝากไม่มีสิทธินำไปขายฝากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 305(1) การขายฝากจึงมิได้เกิดมีขึ้น หนี้เงินกู้จึงไม่ระงับสิ้นไปผู้ค้ำประกันยังต้องผูกพันตามสัญญาค้ำประกันอยู่
การที่ลูกหนี้ถูกยึดทรัพย์แล้วเจ้าหนี้มิได้ดำเนินการเพื่อให้ได้เข้าเฉลี่ยหนี้นั้น ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เจ้าหนี้เสียสิทธิที่จะฟ้องผู้ค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1454/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมไม่ได้แปลงหนี้ใหม่ แม้มีการรับชำระหนี้แทนลูกหนี้เดิม
ด. ในฐานะประธานบริษัทผู้ร้อง และในฐานะส่วนตัวทำสัญญาประนีประนอม กับ ป. โดย ป. ยอมใช้หนี้แก่ ธ. แทน ด.แม้จะพออนุมานได้ว่าเป็นการรับใช้หนี้แทนบริษัทผู้ร้องกับหนี้ ด. ในฐานะส่วนตัวก็ตาม สัญญานี้ก็เป็นสัญญาระหว่างผู้ร้อง ด. กับ ป. เท่านั้น ส่วนเจ้าหนี้คือ ธ. หาได้ทำสัญญากับ ป. ด้วยไม่จึงไม่ใช่แปลงหนี้ใหม่โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1454/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประนีประนอมยอมความไม่ผูกพันเจ้าหนี้เดิม สัญญาใหม่ต้องมีเจ้าหนี้ร่วมด้วย จึงเป็นการแปลงหนี้
ด. ในฐานะประธานบริษัทผู้ร้องและในฐานะส่วนตัวทำสัญญาประนีประนอมกับ ป. โดย ป. ยอมใช้หนี้แก่ ธ. แทน ด. แม้จะพออนุมานได้ว่าเป็นการรับใช้หนี้แทนบริษัทผู้ร้องกับหนี้ ด. ในฐานะส่วนตัวก็ตามสัญญานี้ก็เป็นสัญญาระหว่างผู้ร้อง ด. กับ ป. เท่านั้น สวนเจ้าหนี้คือ ธ. หาได้ทำสัญญากับ ป. ด้วยไม่ จึงไม่ใช่แปลงหนี้ใหม่โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ใหม่ต้องมีคำสนองจากเจ้าหนี้ หากไม่มี สัญญาเดิมยังคงมีผล และการเรียกเงินมัดจำเมื่อเลิกสัญญา
การแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้นั้นต้องทำเป็นสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้คนใหม่ เพียงแต่บุคคลภายนอกยื่นหนังสือรับรองชำระหนี้แทนจำเลยต่อโจทก์ แต่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยมิได้สั่งการอย่างไร เงียบหายไป สัญญาแปลงหนี้ใหม่ยังไม่เกิดขึ้น แม้ต่อมาอีกเกือบ 4 ปีโจทก์จะได้ทวงหนี้ของโจทก์ที่มีต่อจำเลยเอากับบุคคลภายนอกนั้น ก็ไม่ถือว่าโจทก์ได้ยอมรับเอาบุคคลภายนอกนั้นเข้าเป็นลูกหนี้แทนจำเลย เพราะคำเสนอของบุคคลภายนอกต่อโจทก์สิ้นความผูกพันเพราะล่วงเลยเวลาอันควรคาดหมายว่าจะได้รับคำบอกกล่าวสนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 355หนังสือทวงหนี้ของโจทก์เป็นแต่คำเสนอใหม่เท่านั้น เมื่อหนี้ใหม่ไม่เกิด หนี้เดิมของจำเลยก็ไม่ระงับไปตามมาตรา 351
เงินมัดจำที่ยังมิได้ชำระให้ เมื่อสัญญาเลิกกันแล้วจะบังคับให้ส่งให้มิได้เพราะสิ้นความผูกพันตามสัญญาเสียแล้ว เงินมัดจำที่จะรับในกรณีเลิกสัญญาโดยความผิดของฝ่ายวางมัดจำนั้น ต้องได้ให้ไว้แล้ว
เมื่อจำเลยส่งมอบการงานให้โจทก์ไม่ทันตามกำหนดในสัญญาโจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าปรับที่จำเลยสัญญาจะชดใช้ในการที่ชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดได้ เพราะค่าปรับเป็นค่าเสียหายที่กำหนดกันไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว(อ้างฎีกาที่ 1078/2496 และ 1364/2503)
เงินมัดจำที่ยังมิได้ชำระให้ เมื่อสัญญาเลิกกันแล้วจะบังคับให้ส่งให้มิได้เพราะสิ้นความผูกพันตามสัญญาเสียแล้ว เงินมัดจำที่จะรับในกรณีเลิกสัญญาโดยความผิดของฝ่ายวางมัดจำนั้น ต้องได้ให้ไว้แล้ว
เมื่อจำเลยส่งมอบการงานให้โจทก์ไม่ทันตามกำหนดในสัญญาโจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าปรับที่จำเลยสัญญาจะชดใช้ในการที่ชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดได้ เพราะค่าปรับเป็นค่าเสียหายที่กำหนดกันไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว(อ้างฎีกาที่ 1078/2496 และ 1364/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ใหม่ต้องมีคำสนอง การทวงหนี้หลังแปลงหนี้แล้วถือเป็นคำเสนอใหม่ และสิทธิเรียกร้องค่าปรับจากสัญญา
การแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้นั้นต้องทำเป็นสัญญาระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้คนใหม่ เพียงแต่บุคคลภายนอกยื่นหนังสือรับรองชำระหนี้แทนจำเลยต่อโจทก์ แต่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้จำเลยมิได้สั่งการอย่างไร เงียบหายไป สัญญาแปลงหนี้ใหม่ยังไม่เกิดขึ้น แม้ต่อมาอีกเกือบ 4 ปีโจทก์จะได้ทวงหนี้ของโจทก์ที่มีต่อจำเลยเอากับบุคคลภายนอกนั้น ก็ไม่ถือว่าโจทก์ได้ยอมรับเอาบุคคลภายนอกนั้นเข้าเป็นลูกหนี้แทนจำเลย เพราะคำเสนอของบุคคลภายนอกต่อโจทก์สิ้นความผูกพันเพราะล่วงเลยเวลาอันควรคาดหมายว่าจะได้รับคำบอกกล่าวสนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 355 หนังสือทวงหนี้ของโจทก์เป็นแต่คำเสนอใหม่เท่านั้น เมื่อหนี้ใหม่ไม่เกิด หนี้เดิมของจำเลยก็ไม่ระงับไปตามมาตรา 351
เงินมัดจำที่ยังมิได้ชำระให้ เมื่อสัญญาเลิกกันแล้ว จะบังคับให้ส่งให้มิได้ เพราะสิ้นความผูกพันตามสัญญาเสียแล้ว เงินมัดจำที่จะริบในกรณีเลิกสัญญาโดยความผิดของฝ่ายวางมัดจำนั้น ต้องได้ให้ไว้แล้ว
เมื่อจำเลยส่งมอบการงานให้โจทก์ไม่ทันตามกำหนดในสัญญา โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าปรับที่จำเลยสัญญาจะชดใช้ในการที่ชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดได้ เพราะค่าปรับเป็นค่าเสียหายที่กำหนดกันไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว(อ้างฎีกาที่ 1078/2496 และ 1364/2503)
เงินมัดจำที่ยังมิได้ชำระให้ เมื่อสัญญาเลิกกันแล้ว จะบังคับให้ส่งให้มิได้ เพราะสิ้นความผูกพันตามสัญญาเสียแล้ว เงินมัดจำที่จะริบในกรณีเลิกสัญญาโดยความผิดของฝ่ายวางมัดจำนั้น ต้องได้ให้ไว้แล้ว
เมื่อจำเลยส่งมอบการงานให้โจทก์ไม่ทันตามกำหนดในสัญญา โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าปรับที่จำเลยสัญญาจะชดใช้ในการที่ชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดได้ เพราะค่าปรับเป็นค่าเสียหายที่กำหนดกันไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว(อ้างฎีกาที่ 1078/2496 และ 1364/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จากเงินเป็นที่ดินที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้หนี้เดิมยังไม่ระงับ
จำเลยตกลงเอาที่นาเนื้อที่ 70 ไร่ ตีราคาชำระเท่าหนี้เงินของโจทก์ ต่อมาประมวลกฎหมายที่ดินออกประกาศใช้ตามมาตรา 34 ให้บุคคลมีที่ดินเพื่อทำการเกษตรกรรมได้ไม่เกิน 50 ไร่ และปรากฏว่ายังมิได้มีการโอนที่นาให้โจทก์ตามข้อตกลงนั้น หนี้อันจะพึงเกิดขึ้นเพราะแปลงหนี้ใหม่นี้มิได้เกิดขึ้น หนี้เงินเดิมจึงยังหาระงับไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ใหม่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ทำให้หนี้เดิมยังคงมีผลบังคับใช้
จำเลยตกลงเอาที่นาเนื้อที่ 70 ไร่ ตีราคาชำระเท่าหนี้เงินของโจทก์ ต่อมาประมวลกฎหมายที่ดินออกประกาศใช้ตามมาตรา 34 ให้บุคคลมีที่ดินเพื่อทำการเกษตรกรรมได้ไม่เกิน 50 ไร่ และปรากฎว่ายังมิได้มีการโอนที่นาให้โจทก์ตามข้อตกลงนั้น หนี้อันจะพึงเกิดขึ้นเพราะแปลงหนี้ใหม่นี้มิได้เกิดขึ้น หนี้เงินเดิมจึงยังหาระงับไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 33/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้และสัญญาโอนที่ดิน ผู้รับมรดกแต่ละคนรับผิดชอบหนี้ตนเอง
ผู้รับมรดกรับสภาพหนี้และทำสัญญาโอนที่นาให้เจ้าหนี้แล้วไม่ปฏิบัติตามสัญญา แม้เจ้าหนี้จะเคยฟ้องขอให้ขับไล่บังคับโอนนาศาลยกฟ้องก็ไม่เป็นการตัดสิทธิเจ้าหนี้ที่จะฟ้องขอให้ผู้รับมรดกชำระต้นเงินและดอกเบี้ย
ผู้รับมรดกคนหนึ่งทำสัญญารับสภาพหนี้และสัญญาโอนที่ดินโดยลำพัง มิใช่ทำในนามบุตรหรือผู้จัดการมรดก ผู้รับมรดกอื่นไม่ต้องรับผิดร่วมด้วย
ผู้รับมรดกคนหนึ่งทำสัญญารับสภาพหนี้และสัญญาโอนที่ดินโดยลำพัง มิใช่ทำในนามบุตรหรือผู้จัดการมรดก ผู้รับมรดกอื่นไม่ต้องรับผิดร่วมด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้เดิมไม่ระงับจากการทำสัญญากู้ที่ไม่สมบูรณ์ เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกหนี้เดิมได้
ซื้อของเชื่อเขาไปแต่ชำระราคายังไม่หมดจึงทำสัญญากู้ให้ไว้ แต่สัญญากู้ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายดังนี้หนี้เดิมยังไม่ระงับ เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินที่ค้างชำระได้