พบผลลัพธ์ทั้งหมด 130 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำไม้ในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต การบรรยายฟ้อง และขอบเขตการบังคับใช้มาตรา 39 พ.ร.บ.ป่าไม้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "ฯลฯ จำเลยนี้บังอาจทำไม้โดยตัดฟัน ฯลฯ ไม้เต็ง ฯลฯ อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2505 ฯลฯ โดยมิได้รับอนุญาต ฯลฯ" ถือได้ว่าครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว หาจำต้องบรรยายโดยใช้คำว่า "ในป่า" ประกอบคำว่า "ทำไม้" หรือ"ตัดฟันไม้" ด้วยไม่
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 39 นั้น บังคับเฉพาะการนำไม้ที่ทำออกตามใบอนุญาตเคลื่อนที่ภายหลังที่ได้นำไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต หรือการนำไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาตเคลื่อนที่ภายหลังไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกตามความในมาตรา 38 เท่านั้น ส่วนการนำไม้หวงห้ามที่ทำโดยไม่ได้รับอนุญาตเคลื่อนที่ หาเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 39 ไม่ (อ้างฎีกาที่ 1018/2496 และฎีกาที่ 341/2498)
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 39 นั้น บังคับเฉพาะการนำไม้ที่ทำออกตามใบอนุญาตเคลื่อนที่ภายหลังที่ได้นำไปถึงที่อันระบุไว้ในใบอนุญาต หรือการนำไม้ที่ทำออกโดยไม่ต้องรับอนุญาตเคลื่อนที่ภายหลังไปถึงด่านป่าไม้ด่านแรกตามความในมาตรา 38 เท่านั้น ส่วนการนำไม้หวงห้ามที่ทำโดยไม่ได้รับอนุญาตเคลื่อนที่ หาเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 39 ไม่ (อ้างฎีกาที่ 1018/2496 และฎีกาที่ 341/2498)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้ขนไม้ผิดกฎหมาย: ศาลฎีกาชี้ว่าเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด
คดีที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีไม้ที่ยังมิได้แปรรูปไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงและรอยตรารัฐบาลประทับไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนั้น รถยนต์ที่จำเลยใช้บรรทุกชักลากไม้ของกลางนั้นมาจนถูกจับจึงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ให้ได้รับผลในการกระทำผิด อันเข้าข่ายต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 152/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้ขนไม้ผิดกฎหมาย: พิจารณาความเชื่อมโยงระหว่างการขนส่งกับความผิดฐานครอบครองไม้
คดีที่ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีไม้ที่ยังมิได้แปรรูปไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงและรอยตรารัฐบาลประทับไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนั้น รถยนต์ทีจำเลยใช้บรรทุกขัดลาภไม้ของกลางนั้นมาจนถูกจับจึงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ให้ได้รับผลในการกระทำผิดอันเข้าข่ายต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74 ทวิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความและความผิดต่อเนื่องในคดีไม้แปรรูปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขบทกฎหมายที่ศาลชั้นต้นใช้ผิด
ความผิดฐานมีไม้แปรรูปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไว้ในความครอบครองนั้น เป็นความผิดต่อเนื่องกันตลอดมาตั้งแต่วันมีไว้ในครอบครองจนถึงวันที่เจ้าพนักงานจับกุมจำเลย
เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยภายหลังวันที่ใช้พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 แล้ว และโจทก์ก็ได้ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 ด้วย การที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 มาตรา 73 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ซึ่งเป็นการยกบทกฎหมายมาปรับแก่คดีผิดพลาดไปนั้น ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเสียให้ถูกได้
เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยภายหลังวันที่ใช้พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 แล้ว และโจทก์ก็ได้ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 ด้วย การที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 มาตรา 73 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ซึ่งเป็นการยกบทกฎหมายมาปรับแก่คดีผิดพลาดไปนั้น ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขเสียให้ถูกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1328/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตั้งโรงค้าไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ไม้ที่นำมาจำหน่ายเป็นไม้ที่ได้มาจากการกระทำผิด ต้องริบ
ตั้งโรงค้าไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 84 ฉะนั้น ไม้หวงห้ามแปรรูปที่นำมาไว้จำหน่ายในโรงค้าไม้ที่ตั้งขึ้นเป็นผิดนั้น จะซื้อมาโดยชอบหรือไม่ก็ตาม ก็เป็นไม้ที่มีไว้เนื่องจากการกระทำผิด ต้องริบ ตามมาตรา 74
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเกวียนและกระบือที่ใช้ในการขนย้ายไม้ผิดกฎหมาย ถือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิด
การใช้เกวียนและกระบือบรรทุกไม้แปรรูปผิดกฎหมายจากป่ามาไว้ที่เรือนนั้นเป็นการใช้เกวียนและกระบือเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด เกวียนและกระบือต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 18
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993-996/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเกวียนและกระบือที่ใช้ในการลักลอบขนไม้แปรรูปผิดกฎหมาย
การที่จำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 120 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม้นั้นเจ้าพนักงานจับได้ขณะบรรทุกอยู่เกวียนซึ่งเทียมด้วยกระบือนั้น ต้องฟังว่าจำเลยได้ใช้เกวียนและกระบือเป็นพาหนะลากเข็นไม้แปรรูป ถือได้ว่าเกวียนและกระบือนั้นได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการที่จำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองแล้ว จึงเป็นองต้องริบตามกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพ.ร.บ.ป่าไม้: การครอบครองไม้ผิดกฎหมาย, ตราค่าภาคหลวงปลอม, และการริบไม้
(1) โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดเป็นส่วนตัวไม่ได้ฟ้องบริษัท แม้ไม้จะเป็นของบริษัท แต่เมื่อฟังได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นกรรมการจัดการของบริษัทเป็นผู้ครอบครอง ทางพิจารณาก็ไม่ต่างกับฟ้อง
(2) ในกรณีที่จำเลยลวงให้เจ้าพนักงานประทับตราค่าภาคหลวงลงบนไม้นั้น จำเลยจะยกข้อที่ว่าไม้มีตราค่าภาคหลวงประทับอยู่แล้วเพื่อให้พ้นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 มาตรา 16 หาได้ไม่
(3) แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า ไม้ของกลางเป็นของบริษัทมิใช่ของจำเลย แต่เมื่อจำเลยมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ ศาลจึงต้องริบไม้ของกลางตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74
(2) ในกรณีที่จำเลยลวงให้เจ้าพนักงานประทับตราค่าภาคหลวงลงบนไม้นั้น จำเลยจะยกข้อที่ว่าไม้มีตราค่าภาคหลวงประทับอยู่แล้วเพื่อให้พ้นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 มาตรา 16 หาได้ไม่
(3) แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า ไม้ของกลางเป็นของบริษัทมิใช่ของจำเลย แต่เมื่อจำเลยมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ ศาลจึงต้องริบไม้ของกลางตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 74
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพ.ร.บ.ป่าไม้: การครอบครองไม้หวงห้าม, ตราปลอม, และการริบของกลาง
(1) โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดเป็นส่วนตัว ไม่ได้ฟ้องบริษัท แม้ไม้จะเป็นของบริษัทแต่เมื่อฟังได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นกรรมการจัดการของบริษัทเป็นผู้ครอบครอง ทางพิจารณาก็ไม่ต่างกับฟ้อง
(2) ในกรณีที่จำเลยลวงให้เจ้าพนักงานประทับตราค่าภาคหลวงลงบนไม้นั้น จำเลยจะยกข้อที่ว่าไม้มีตราค่าภาคหลวงประทับอยู่แล้วเพื่อให้พ้นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 16 หาได้ไม่
(3) แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า ไม้ของกลางเป็นของบริษัทมิใช่ของจำเลยแต่เมื่อจำเลยมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ศาลจึงต้องริบไม้ของกลางตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74
(2) ในกรณีที่จำเลยลวงให้เจ้าพนักงานประทับตราค่าภาคหลวงลงบนไม้นั้น จำเลยจะยกข้อที่ว่าไม้มีตราค่าภาคหลวงประทับอยู่แล้วเพื่อให้พ้นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 16 หาได้ไม่
(3) แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า ไม้ของกลางเป็นของบริษัทมิใช่ของจำเลยแต่เมื่อจำเลยมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติป่าไม้ศาลจึงต้องริบไม้ของกลางตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 74
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักทำเป็นสิ่งปลูกสร้างไม่ต้องริบตามพ.ร.บ.ป่าไม้ หากไม่ใช่ไม้แปรรูป
ไม้สักที่ได้ทำเป็นบานประตูและหน้าต่างสำเร็จรูปแล้ว เป็นไม้ที่อยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้าง หาใช่เป็นไม้แปรรูปอันจะต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ไม่