พบผลลัพธ์ทั้งหมด 234 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1950/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงไม่ตรงกับฟ้อง ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องไม่ได้
แม้ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจะมีอำนาจว่ากล่าวสั่งสอนลูกบ้านของตนได้ตาม พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457มาตรา 27 ก็ตาม เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายขณะจับกุมตามหน้าที่ แต่ได้ความว่าจำเลยฆ่าเพราะเหตุผู้ตายไปว่ากล่าวสั่งสอนตามหน้าที่ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความไม่ตรงกับที่โจทก์ฟ้อง ลงโทษจำเลยตามมาตรา 250(2)ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดนอกคำฟ้องในคดีข่มขืนกระทำชำเรา ศาลต้องยึดตามคำฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้อำนาจด้วยกำลังกายข่มขืนกระทำชำเราโจทก์จนสำเร็จความใคร่ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 243ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้กอดโจทก์ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กอดโจทก์อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความต่อเนื่องแห่งการกระทำความผิดฉ้อโกง แม้ส่งมอบทรัพย์ในวันรุ่งขึ้น ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
ในคดีฉ้อโกง โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน ทางพิจารณาปรากฏว่า ได้มีการส่งมอบยางกันในวันที่ 9 มีนาคม 2489 เวลากลางวัน แต่ตามคำพยานปรากฏว่าการกระทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2489 เวลากลางคืน แม้การมอบทรัพย์จะทำในวันรุ่งขึ้นก็ดี ก็เป็นการกระทำเกี่ยวเนื่องติดต่อกันในระยะเวลาอันใกล้ชิด ยังไม่พอถือว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาคดีที่ยังไม่มีความผิดเกิดขึ้น ศาลต้องยกฟ้องตามหลักกฎหมาย
ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันซึ่งเป็นเวลาภายหลังวันที่โจทก์ยื่นฟ้อง เท่ากับเป็นการฟ้องล่วงหน้า อันยังไม่มีความผิดเกิดขึ้นศาลจำต้องยกฟ้องโจทก์ ทั้งกรณีไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะให้ยกฟ้องโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161
การขอแก้ฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา163 นั้น โจทก์จะต้องขอแก้ หรือเพิ่มเติมฟ้องได้ก็แต่ก่อนมีคำพิพากษา
การขอแก้ฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา163 นั้น โจทก์จะต้องขอแก้ หรือเพิ่มเติมฟ้องได้ก็แต่ก่อนมีคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: ความคลาดเคลื่อนในการบรรยายฟ้องไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ หากยังคงความผิดฐานรับของโจร
ในความผิดฐานรับของโจร โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับไม้ขอนสักของบริษัทบอมเบเบอร์ม่าที่ถูกคนร้ายลักไป โดยรู้ว่าเป็นของได้มาโดยการกระทำผิด กฎหมาย แต่คำพยานโจทก์ว่าไม้นี้ได้หลุดลอยไปจากบริษัทแล้วมีผู้เก็บเบียดบังเอาไว้ แล้วจำเลยได้รับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้ายดังนี้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาคลาดเคลื่อนจากฟ้องในรายละเอียด ยังถือไม่ได้ว่าแตกต่างกับฟ้องอันจะเป็นเหตุให้ยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดช่วงเวลากระทำผิดในคดีอาญา การพิจารณาช่วงเวลากลางคืนตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในระหว่างเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกวันที่ 3 สิงหาคม 2490 ถึงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นวันที่ 4 สิงหาคม 2490 อันเป็นเวลากลางคืนตามกฎหมาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2490 เวลา 2.00 น. ซึ่งเป็นเวลาก่อนย่ำรุ่งของวันที่ 3สิงหาคม 2490 ถือได้ว่าเป็นเวลาคนละคืนกับที่โจทก์ฟ้อง ชอบที่จะยกฟ้องโจทก์เสียได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาเกินกรอบฟ้อง คดีอาญาเรื่องยักยอกทรัพย์
ในคดียักยอก โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน2489 และต่อๆ มาจนถึงวันที่ 25 สิงหาคม2489 แต่โจทก์นำสืบว่าจำเลยทำผิดก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2489 ดังนี้ ข้อเท็จจริงที่โจทก์สืบได้ย่อมต่างกับฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จ – รายงานความจริงโดยสุจริต ไม่เข้าข่ายความผิด
ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรายงานไปว่า "นางสาวสมคิดไปเที่ยวกับผู้ชายในที่เปล่าเปลี่ยวสองต่อสอง" อันเป็นความเท็จและทำให้นางสาวสมคิดเสียหาย แต่ความจริงจำเลยรายงานว่า"ฯลฯ(นางสาวสมคิด) ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และการไปมาซึ่งนับว่าเปล่าเปลี่ยวก็ไปกันกับหญิงกับชายซึ่งไม่มีญาติผู้ใหญ่ไปเป็นเพื่อน ฯลฯ" ซึ่งไม่ตรงกับคำฟ้อง ทั้งข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยรายงานไปโดยสุจริต จึงไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จหรือเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากตัวการเป็นสมรู้: ศาลลงโทษได้หากมีเหตุผลรองรับ
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานตัวการ แต่ศาลเห็นว่า จำเลยมีผิดฐานสมรู้เท่านั้น ศาลก็ลงโทษฐานสมรู้ ซึ่งมีโทษเบากว่าตัวการได้ หาเป็นการนอกฟ้องหรือเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากเจตนาเป็นประมาท ส่งผลต่อการพิจารณาคดี
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนา ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยฆ่าคนตายโดยประมาท โจทก์จะฎีกาในข้อที่ว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยเจตนาอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 219 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาแต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่าจำเลยฆ่าคนโดยประมาทซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้
โจทก์กล่าวในฟ้องและมุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนโดยเจตนาแต่ข้อเท็จจริงกลับได้ความว่าจำเลยฆ่าคนโดยประมาทซึ่งลักษณะความผิดและโทษต่างกันห่างไกลมาก เรียกได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง และไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษต้องตามนัยของมาตรา 192 วรรค 2 และ 3 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ลงโทษจำเลยไม่ได้