พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,443 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่มีกำหนดระยะเวลา การเลิกสัญญา และสิทธิของผู้ครอบครอง
คู่ความตกลงกันให้ศาลถือคำให้การของนายสมเพียงคนเดียวเป็นข้อเท็จจริงแห่งคดีเพื่อการวินิจฉัยคดีเท่านั้น ศาลต้องถือเอาคำเบิกความของนายสมเป็นยุติในข้อเท็จจริง
สัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ ทั้งไม่มีหนังสือเช่าต่อกัน ผู้เช่าและผู้ให้เช่าย่อมบอกเลิกสัญญาเช่าในขณะใดก็ได้ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายบังคับไว้สำหรับการบอกกล่าวล่วงหน้า และการเลิกสัญญาเช่ากันนี้ ถ้าคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้แสดงกิริยาอาการอย่างไร อันเป็นที่เห็นได้ว่าคู่สัญญาตกลงเลิกกันแล้ว สัญญาระหว่างเขาทั้งสองเป็นอันระงับไปในตัว
สัญญาเช่าที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ ทั้งไม่มีหนังสือเช่าต่อกัน ผู้เช่าและผู้ให้เช่าย่อมบอกเลิกสัญญาเช่าในขณะใดก็ได้ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายบังคับไว้สำหรับการบอกกล่าวล่วงหน้า และการเลิกสัญญาเช่ากันนี้ ถ้าคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้แสดงกิริยาอาการอย่างไร อันเป็นที่เห็นได้ว่าคู่สัญญาตกลงเลิกกันแล้ว สัญญาระหว่างเขาทั้งสองเป็นอันระงับไปในตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าพื้นที่เก็บไม้ การไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า เนื่องจากไม่ได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
จำเลยได้เช่าอาคารเฉพาะกองไม้กระดานเพื่อจำหน่าย ไม่ได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาเช่าหรือจ้างทำของ ศาลพิจารณาจากฝ่ายใดผิดสัญญาเป็นหลัก
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์ เพราะจำเลยผิดสัญญาที่โจทก์จ้างจำเลยไปพูดโฆษณาโดยใช้เครื่องวิทยุกระจายเสียงและเครื่องทำไฟฟ้าของจำเลย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าเครื่องขยายเสียงเครื่องทำไฟฟ้าของจำเลย แล้วผิดสัญญาไม่จัดการนำเครื่องไปเองดังนี้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยจะเป็นสัญญาเช่าหรือสัญญาจ้างทำของ ไม่ใช่ข้อสำคัญ ข้อสำคัญในคดีอยู่ที่ว่าฝ่ายใดเป็นผู้ผิดสัญญา
การที่จำเลยค้านว่า ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า โจทก์ว่าจ้างจำเลยให้ไปทำการโฆษณาเพื่อหาเสียงในการเลือกตั้ง แต่แล้วนำสืบเป็นเรื่องเช่าเครื่องขยายเสียงจากจำเลยไปโฆษณาด้วยตนเองเป็นการสืบไม่สมฟ้องนั้นแม้ฟ้องของโจทก์ตอนต้นจะกล่าวมีนัยดังจำเลยว่าก็ดี แต่ฟ้องตอนกล่าวถึงรายละเอียด โจทก์ได้บรรยายถึงรายละเอียดเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่าโจทก์จำเลยตกลงกันอย่างไรและจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้แต่อย่างไร ดังนี้ ข้อค้านของจำเลยย่อมฟังไม่ขึ้น
การที่จำเลยค้านว่า ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า โจทก์ว่าจ้างจำเลยให้ไปทำการโฆษณาเพื่อหาเสียงในการเลือกตั้ง แต่แล้วนำสืบเป็นเรื่องเช่าเครื่องขยายเสียงจากจำเลยไปโฆษณาด้วยตนเองเป็นการสืบไม่สมฟ้องนั้นแม้ฟ้องของโจทก์ตอนต้นจะกล่าวมีนัยดังจำเลยว่าก็ดี แต่ฟ้องตอนกล่าวถึงรายละเอียด โจทก์ได้บรรยายถึงรายละเอียดเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่าโจทก์จำเลยตกลงกันอย่างไรและจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้แต่อย่างไร ดังนี้ ข้อค้านของจำเลยย่อมฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นสำคัญของคดีอยู่ที่การผิดสัญญา ไม่ใช่ประเภทสัญญา (เช่าหรือจ้างทำของ) โดยการนำสืบไม่ขัดแย้งกับฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนเงินให้โจทก์ เพราะจำเลยผิดสัญญาที่โจทก์จ้างจำเลยไปพูดโฆษณาโดยใช้เครื่องวิทยุกระจายเสียงและเครื่องทำไฟฟ้าของจำเลย จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าเครื่องขยายเสียง เครื่องทำไฟฟ้าของจำเลย แล้วผิดสัญญาไม่จัดการนำเครื่องไปเอง ดังนี้ สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยจะเป็นสัญญาเช่าหรือสัญญาจ้างทำของ ไม่ใช่ข้อสำคัญ ข้อสำคัญในคดีอยู่ที่ว่าฝ่ายใดเป็นผู้ผิดสัญญา
การที่จำเลยค้านว่า ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า โจทก์ว่าจ้างจำเลยให้ไปทำการโฆษณาเพื่อหาเสียงในการเลือกตั้ง แต่แล้วนำสืบเป็นเรื่องเช่าเครื่องขยายเสียงจากจำเลยไปโฆษณาด้วยตนเองเป็นการสืบไม่สมฟ้องนั้น แม้ฟ้องของโจทก์ตอนต้นจะกล่าวมีนัยดังจำเลยว่าก็ดี แต่ฟ้องตอนกล่าวถึงรายละเอียด โจทก์ได้บรรยายถึงรายละเอียดเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่าโจทก์จำเลยตกลงกันอย่างไรและจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู่แต่อย่างใดดังนี้ ข้อค้านของจำเลยย่อมฟังไม่ขึ้น.
การที่จำเลยค้านว่า ฟ้องของโจทก์กล่าวว่า โจทก์ว่าจ้างจำเลยให้ไปทำการโฆษณาเพื่อหาเสียงในการเลือกตั้ง แต่แล้วนำสืบเป็นเรื่องเช่าเครื่องขยายเสียงจากจำเลยไปโฆษณาด้วยตนเองเป็นการสืบไม่สมฟ้องนั้น แม้ฟ้องของโจทก์ตอนต้นจะกล่าวมีนัยดังจำเลยว่าก็ดี แต่ฟ้องตอนกล่าวถึงรายละเอียด โจทก์ได้บรรยายถึงรายละเอียดเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่าโจทก์จำเลยตกลงกันอย่างไรและจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู่แต่อย่างใดดังนี้ ข้อค้านของจำเลยย่อมฟังไม่ขึ้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1149/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากกับการครอบครองที่ดิน แม้มีพฤติการณ์คล้ายจำนอง ก็ไม่ทำให้สัญญาเปลี่ยนสภาพ
ทำสัญญาขายฝากตามกฎหมาย แม้ผู้ขายฝากมอบที่ให้ ผู้ซื้อฝากจะมอบที่ให้ผู้ขายฝากครอบครองอยู่ ก็ไม่ทำให้เป็นสัญญาจำนอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1149/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาขายฝากไม่แปลงเป็นจำนอง แม้มีการครอบครองและเจรจาไถ่ถอน
ทำสัญญาขายฝากตามกฎหมาย แม้ผู้ขายฝากมอบที่ให้ผู้ซื้อฝากจะมอบที่ให้ผู้ขายฝากครอบครองอยู่ ก็ไม่ทำให้เป็นสัญญาจำนอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันมีขอบเขตจำกัด ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดชอบหนี้จากรถที่ไม่ได้ระบุในสัญญา
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่ารถจักรยาน 3 ล้อของโจทก์เลขที่1613 จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ทำรถที่เช่าหาย จึงขอให้จำเลยใช้เงิน แม้ศาลอุทธรณ์จะให้จำเลยที่ 1 รับผิดเพราะทำรถหมายเลข 5387 หาย แต่สัญญามีข้อความว่าค้ำประกันสำหรับรถหมายเลข 1613 และรถคันนี้มิได้หายจำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ค้ำประกันจำกัดเฉพาะรถที่ระบุในสัญญา แม้จำเลยเช่ารถหาย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดในรถที่ไม่ได้ระบุ
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่ารถจักรยาน 3 ล้อของโจทก์ เลขที่ 1613 จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ทำรถที่เช่าหาย จึงขอให้จำเลยใช้เงิน แม้ศาลอุทธรณ์จะให้จำเลยที่ 1 รับผิด เพราะทำรถหมายเลข 5387 หาย แต่สัญญามีข้อความว่า ค้ำประกันสำหรับรถหมายเลข 1613 และรถคันนี้มิได้หาย จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาเช่าระหว่างเจ้าของกรรมสิทธิ์อุปสมบทกับมารดาโดยไม่มีการแต่งตั้งตัวแทน
โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำเลยได้ทำสัญญาเช่าจากมารดาโจทก์ ขณะที่โจทก์อุปสมบทเป็นภิกษุ เมื่อไม่ได้ความว่า โจทก์ได้แต่งตั้งมารดาโจทก์เป็นตัวแทน จะเป็นโดยแสดงออกชัด หรือโดยปริยาย ดังนี้จะฟังว่ามารดาโจทก์เป็นตัวแทนของโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาเช่าที่ดินโดยมารดาผู้ไม่ได้รับมอบอำนาจ สิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์
โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำเลยได้ทำสัญญาเช่าจากมารดาโจทก์ขณะที่โจทก์อุปสมบทเป็นภิกษุ เมื่อไม่ได้ความว่า โจทก์ได้แต่งตั้งมารดาโจทก์เป็นตัวแทน จะเป็นโดยแสดงออกชัดหรือโดยปริยาย ดังนี้ จะฟังว่ามารดาโจทก์เป็นตัวแทนของโจทก์ไม่ได้