คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 537

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,443 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2067/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าระงับสิ้นเมื่อผู้เช่าถึงแก่กรรม ศาลจำหน่ายคดี
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าที่ดินคืนโจทก์ศาลล่างพิพากษาตามฟ้อง แต่ปรากฏว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยได้ถึงแก่กรรมบุตรจำเลยได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลย เมื่อจำเลยซึ่งในระหว่างพิจารณายังมีชื่อเป็นผู้เช่าที่ดินได้ถึงแก่กรรมไปแล้วเช่นนี้ สัญญาเช่าอันเป็นสิทธิเฉพาะตัวย่อมระงับสิ้นไป การที่จะบังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์ย่อมไม่อาจทำได้จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยต่อไป ศาลฎีกาย่อมสั่งจำหน่ายคดีเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2067/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าระงับสิ้นเมื่อผู้เช่าถึงแก่กรรม ศาลจำหน่ายคดี
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าที่ดินคืนโจทก์ ศาลล่างพิพากษาตามฟ้อง แต่ปรากฏว่าในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยได้ถึงแก่กรรมบุตรจำเลยได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นคู่ความแทนจำเลย เมื่อจำเลยซึ่งในระหว่างพิจารณายังมีชื่อเป็นผู้เช่าที่ดินได้ถึงแก่กรรมไปแล้วเช่นนี้ สัญญาเช่าอันเป็นสิทธิเฉพาะตัวย่อมระงับสิ้นไป การที่จะบังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์ย่อมไม่อาจทำได้จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยต่อไป ศาลฎีกาย่อมสั่งจำหน่ายคดีเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าต่อ: คำมั่นของผู้ให้เช่าและการสนองรับของผู้เช่า ก่อให้เกิดสัญญาเช่าใหม่
สัญญาเช่ามีข้อความว่า ผู้ให้เช่าให้คำมั่นแก่ผู้เช่าว่าเมื่อครบกำหนดระยะเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าต่อไปอีก 3 ปี ตามเงื่อนไขประเพณีที่ได้กระทำกันในวันทำสัญญานี้ ทั้งนี้ ผู้เช่าต้องแสดงเจตนาเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันสัญญาเช่านี้ครบกำหนด ดังนี้ เป็นเรื่องที่ผู้ให้เช่าให้คำมั่นไว้ เมื่อผู้เช่ามีหนังสือแสดงความจำนงขอทำสัญญาเช่าต่อภายในกำหนดเวลาเท่ากับผู้เช่าสนองรับคำมั่นของผู้ให้เช่าแล้วและถือว่ามีสัญญาเช่าเกิดขึ้นใหม่ทันทีตามเงื่อนไขและประเพณีที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าฉบับเดิม โดยไม่ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าต่อ: คำมั่นของผู้ให้เช่าและการสนองรับของผู้เช่าทำให้เกิดสัญญาใหม่
สัญญาเช่ามีข้อความว่า ผู้ให้เช่าให้คำมั่นแก่ผู้เช่าว่า เมื่อครบกำหนดระยะเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าต่อไปอีก 3 ปี ตามเงื่อนไขประเพณีที่ได้กระทำกันในวันทำสัญญานี้ ทั้งนี้ ผู้เช่าต้องแสดงเจตนาเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ผู้ให้เช่าทราบภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันสัญญาเช่านี้ครบกำหนด ดังนี้ เป็นเรื่องที่ผู้ให้เช่าให้คำมั่นไว้ เมื่อผู้เช่ามีหนังสือแสดงความจำนงขอทำสัญญาเช่าต่อภายในกำหนดเวลา เท่ากับผู้เช่าสนองรับคำมั่นของผู้ให้เช่าแล้ว และถือว่ามีสัญญาเช่าเกิดขึ้นใหม่ทันทีตามเงื่อนไขและประเพณีที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าฉบับเดิม โดยไม่ต้องทำสัญญาเช่ากันใหม่อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาเช่า: โอนสิทธิการจัดการแล้วแต่ยังได้รับมอบอำนาจฟ้องได้
จำเลยทำสัญญาเช่าโพรงตึกจากโจทก์ แม้ต่อมาปรากฏว่าอำนาจการดูแลจัดการที่ดินและโพรงตึกพิพาทได้โอนไปอยู่สำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ แต่สำนักงานดังกล่าวได้มีหนังสือมอบหมายให้โจทก์มีหน้าที่จัดการหรือฟ้องร้องให้จำเลยออกไปจากโพรงตึกจนกว่าจะเสร็จคดี จึงจะรับมอบที่ดินและโพรงตึกคืนมาโจทก์ในฐานะผู้มีอำนาจให้จำเลยเช่ามาแต่เดิม และในขณะฟ้องยังไม่ได้ส่งโพรงตึกคืนแก่สำนักงานดังกล่าว ทั้งยังได้รับมอบอำนาจให้มีอำนาจจัดการฟ้องร้องจำเลยได้ จึงมีอำนาจฟ้อง (ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1905/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเช่าเมื่อมีการโอนสิทธิ - การมอบหมายอำนาจจัดการและฟ้องร้อง
จำเลยทำสัญญาเช่าโพรงตึกจากโจทก์ แม้ต่อมาปรากฏว่าอำนาจการดูแลจัดการที่ดินและโพรงตึกพิพาทได้โอนไปอยู่สำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์. แต่สำนักงานดังกล่าวได้มีหนังสือมอบหมายให้โจทก์มีหน้าที่จัดการหรือฟ้องร้องให้จำเลยออกไปจากโพรงตึกจนกว่าจะเสร็จคดี จึงจะรับมอบที่ดินและโพรงตึกคืนมา โจทก์ในฐานะผู้มีอำนาจให้จำเลยเช่ามาแต่เดิม และในขณะฟ้องยังไม่ได้ส่งโพรงตึกคืนแก่สำนักงานดังกล่าว ทั้งยังได้รับมอบอำนาจให้มีอำนาจจัดการฟ้องร้องจำเลยได้ จึงมีอำนาจฟ้อง (ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิร้องสอดของบุคคลภายนอกเมื่อสิทธิถูกโต้แย้งจากการโอนสิทธิเช่า
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1)บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่คู่ความเดิม เพียงแต่สิทธิถูกโต้แย้ง ก็มีสิทธิร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่สามได้
ผู้ร้องร้องเข้ามามีใจความสำคัญว่า โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะรับโอนสิทธิการเช่าจากจำเลยได้ เพราะจำเลยได้ทำนิติกรรมโอนขายให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องได้รับโอนพร้อมทั้งชำระเงินให้แก่จำเลยเรียบร้อยแล้ว การฟ้องคดีของโจทก์เป็นการโต้แย้งคัดค้านข้อกล่าวหาของผู้ร้องเกี่ยวกับการรับโอนสิทธิการเช่าตึกรายเดียวกันว่า เมื่อจำเลยได้ตกลงยอมโอนสิทธิการเช่าตึกพิพาทให้แก่ผู้ร้องไปแล้วนั้น โจทก์ยังจะคงมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์ได้หรือไม่ ดังนี้ ผู้ร้องย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลขอเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดเพื่อยังให้ได้รับความรับรองคุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1277/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิร้องสอดของบุคคลภายนอกเมื่อสิทธิถูกโต้แย้งจากการโอนสิทธิการเช่า
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1)บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่คู่ความเดิม เพียงแต่สิทธิถูกโต้แย้งก็มีสิทธิร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความฝ่ายที่สามได้
ผู้ร้องร้องเข้ามามีใจความสำคัญว่า โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะรับโอนสิทธิการเช่าจากจำเลยได้ เพราะจำเลยได้ทำนิติกรรมโอนขายให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องได้รับโอนพร้อมทั้งชำระเงินให้แก่จำเลยเรียบร้อยแล้ว การฟ้องคดีของโจทก์เป็นการโต้แย้งคัดค้านข้อกล่าวหาของผู้ร้องเกี่ยวกับการรับโอนสิทธิการเช่าตึกรายเดียวกันว่า เมื่อจำเลยได้ตกลงยอมโอนสิทธิการเช่าตึกพิพาทให้แก่ผู้ร้องไปแล้วนั้นโจทก์ยังจะคงมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์ได้หรือไม่ ดังนี้ ผู้ร้องย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลขอเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดเพื่อยังให้ได้รับความรับรองคุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าระงับเมื่อผู้เช่าเสียชีวิต แม้รับค่าเช่าต่อ ก็ถือเป็นการอยู่อาศัยโดยอาศัยสิทธิเจ้าของ
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่า เมื่อสามีจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าอาคารของโจทก์ตาย สัญญาเช่าอาคารพิพาทก็เป็นอันระงับไป แม้หลังจากนั้นโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าอาคารพิพาทและรับเงินค่าเช่าอาคารพิพาทจากจำเลยทุกเดือนแต่มิได้ทำหนังสือสัญญาเช่าต่อกัน และโจทก์มิได้ออกใบเสร็จรับเงินค่าเช่าอาคารพิพาทให้จำเลย จึงไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อโจทก์ฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ จำเลยจะยกการเช่าขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ไม่ได้และถือว่าจำเลยอยู่ในอาคารพิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่ในอาคารพิพาทของโจทก์ ต่อไปโจทก์ฟ้องขอให้ศาลขับไล่จำเลยออกจากอาคารพิพาทได้ทันที เพราะไม่มีกฎหมายในเรื่องนี้ให้บอกกล่าวจำเลยก่อนฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าระงับเมื่อผู้เช่าเสียชีวิต แม้รับค่าเช่าต่อก็ถือเป็นการเช่าโดยไม่มีสัญญาเป็นหลักฐาน ผู้ให้เช่ามีสิทธิขับไล่ได้ทันที
สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้เช่า เมื่อสามีจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าอาคารของโจทก์ตาย สัญญาเช่าอาคารพิพาทก็เป็นอันระงับไป แม้หลังจากนั้นโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าอาคารพิพาทและรับเงินค่าเช่าอาคารพิพาทจากจำเลยทุกเดือนแต่มิได้ทำหนังสือสัญญาเช่าต่อกัน และโจทก์มิได้ออกใบเสร็จรับเงินค่าเช่าอาคารพิพาทให้จำเลย จึงไม่มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อ โจทก์ฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญ จำเลยจะยกการเช่าขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ไม่ได้และถือว่าจำเลยอยู่ในอาคารพิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์เมื่อโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่ในอาคารพิพาทของโจทก์ต่อไป โจทก์ฟ้องขอให้ศาลขับไล่จำเลยออกจากอาคารพิพาทได้ทันที เพราะไม่มีกฎหมายในเรื่องนี้ให้บอกกล่าวจำเลยก่อนฟ้อง
of 145