คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 537

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,443 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมยอมเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายควบคุมค่าเช่า: สิทธิของผู้เช่าช่วง
เดิมที่ดินและตึกพิพาทเป็นของโจทก์ให้ผู้ร้องเช่าอยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่ามาก่อนแล้วต่อมาโจทก์โอนขายตึกให้จำเลยโดยไม่ขายที่ดินซึ่งมีเนื้อที่เพียงเท่าที่ตัวตึกตั้งอยู่ จำเลยรับซื้อตึกแล้วขอเช่าที่ดินเพียง 1 ปี พอซื้อแล้วจำเลยก็ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าที่ดินให้โจทก์เลย โจทก์จึงฟ้องและศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลย ดังนี้ จะเอาผลคำพิพากษานั้นมาบังคับขับไล่ผู้ร้องด้วยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย: หลักฐานเป็นหนังสือและผลผูกพัน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.538 ที่ว่าถ้าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้นั้น มิได้หมายความแต่ผู้ที่จะต้องเป็นโจทก์ฟ้องร้องอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงการต่อสู้คดีด้วย เพราะการบังคับคดีย่อมทำได้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
(อ้างฎีกาที่ 415/2501)
ผู้เช่าพร้อมที่จะทำสัญญาเช่าและลงชื่อในสัญญาในฐานะเป็นผู้เช่าแล้ว แต่ผู้ให้เช่าไม่ได้ลงชื่อในฐานะเป็นผู้ให้เช่า เอกสารดังกล่าวนี้ยังไม่ใช่หลักฐานเป็นหนังสือตามมาตรา 538
การที่จำเลยอ้างว่าได้ตกลงเช่ากันและได้ชำระเงินกินเปล่ากับค่าเช่าให้โจทก์ไปแล้วนั้น หากจะได้ชำระไปจริงและได้ตกลงกันจริง แต่เมื่อไม่มีหลักฐานแห่งการเช่าเป็นหนังสือลงลายมือชื่อโจทก์ผู้ให้เช่าซึ่งเป็นฝ่ายที่จำเลยจะให้รับผิดตามสัญญา จำเลยก็ยกสิทธิแห่งการเช่าขึ้นอ้างยันต่อโจทก์ไม่ได้.
(อ้างฎีกาที่ 1175/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1709/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าบ้าน: สิทธิของผู้เช่าและบริวารเมื่อผู้เช่าย้ายไปทำงานต่างจังหวัด การเช่ายังไม่ระงับโจทก์ไม่มีสิทธิขับไล่
ผู้เช่าเป็นตำรวจรถไฟ ได้เช่าห้องพิพาทเพื่ออยู่อาศัยในเขตเทศบาลเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาผู้เช่าถูกทางราชการสั่งย้ายให้มารับราชการจังหวัดพระนคร โดยไปพักอยู่ที่กองรักษาการณ์รถไฟ จำเลยเป็นภริยาผู้เช่า ไปเรียนวิชาการช่างที่จังหวัดพระนคร และไปอยู่หอพัก ทั้ง 2 คนไปแต่ตัวมิได้ขนสิ่งของเครื่องใช้สำหรับครอบครัว มิได้อพยพเอาบุตรและแม่ยายของผู้เช่าตามไปด้วย ที่อยู่ของผู้เช่าและจำเลยในจังหวัด พระนครยังมิได้เป็นหลักแหล่ง โดยเฉพาะที่จำเลยไปเรียนการช่างก็เป็นไปชั่วคราวแล้วจะกลับมาประกอบอาชีพทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนฟ้องคดีนี้จำเลยก็ได้กลับมาอยู่ในห้องพิพาทแล้ว แม้พลตำรวจเกษมย้ายขาดจากตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปประจำกองตำรวจรถไฟ แต่ก็ไม่ปรากฏชัดว่า ต้องไปประจำที่ จังหวัดที่พระนครเป็นเด็ดขาดหรือจะต้องควบคุมขบวนรถไฟไป ๆ มา ๆ ทางไหนบ้าง ในสำมะโนครัวมีชื่อผู้เช่าจำเลยและบุตรอยู่ในห้องพิพาท ผู้เช่ายังคงใช้สิทธิเป็นผู้เช่า โดยให้จำเลยกับบุตรและแม่ยายอยู่ในฐานะบริวาร การเช่ายังไม่ระงับ โจทก์ยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นบริวารของผู้เช่า (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 32/2503 และ ครั้งที่ 35/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1709/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าอยู่ต่อเนื่องแม้มีการย้ายที่อยู่ชั่วคราว สิทธิการเช่ายังไม่ระงับ สิทธิบริวารตามสัญญาเช่าเดิม
ผู้เช่าเป็นตำรวจรถไฟ ได้เช่าห้องพิพาทเพื่ออยู่อาศัยในเขตเทศบาลเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมา ผู้เช่าถูกทางราชการสั่งย้ายให้มารับราชการจังหวัดพระนคร โดยไปพักอยู่ที่กองรักษาการณ์รถไฟ จำเลยเป็นภริยาผู้เช่า ไปเรียนวิชาการช่างที่จังหวัดพระนครและไปอยู่หอพัก ทั้ง 2 คนไปแต่ตัวมิได้ขนสิ่งของเครื่องใช้สำหรับครอบครัว มิได้อพยพเอาบุตรและแม่ยายของผู้เช่าตามไปด้วย ที่อยู่ของผู้เช่าและจำเลยในจังหวัดพระนครยังมิได้เป็นหลักแหล่ง โดยเฉพาะที่จำเลยไปเรียนการช่างก็เป็นไปชั่วคราวแล้วจะกลับมาประกอบอาชีพทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนฟ้องคดีนี้จำเลยก็ได้กลับมาอยู่ในห้องพิพาทแล้ว แม้พลตำรวจเกษมย้ายขาดจากตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราชไปประจำกองตำรวจรถไฟ แต่ก็ไม่ปรากฏชัดว่าต้องไปประจำที่จังหวัดพระนครเป็นเด็ดขาดหรือจะต้องควบคุมขบวนรถไฟไปๆ มาๆ ทางไหนบ้าง ในสำมะโนครัวมีชื่อผู้เช่าจำเลยและบุตรอยู่ในห้องพิพาท ผู้เช่ายังคงใช้สิทธิเป็นผู้เช่า โดยให้จำเลยกับบุตรและแม่ยายอยู่ในฐานะบริวาร การเช่ายังไม่ระงับ โจทก์ยังไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยซึ่งเป็นบริวารของผู้เช่า (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 32/2503 และ ครั้งที่ 35/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าระงับเมื่อเกิดอัคคีภัยตามข้อตกลง แม้จะไม่ได้แจ้งให้บอกล่วงหน้า
สัญญาเช่าห้องพิพาทเพื่อการค้าซึ่งมีกำหนดเวลาเช่า 3 ปี มีข้อสัญญากันไว้ด้วย ว่า หากมีเหตุอัคคีภัย ทำให้สถานที่เช่าเป็นอันตรายไปส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก่อนครบ 3 ปี ถึงไม่ต้องบอกล่วงหน้าก็ให้ถือว่าสัญญาขาดอายุตั้งแต่วันเป็นอันตรายนั้น ดังนี้ เมื่อส่วนของห้องพิพาท คือ บานหน้าต่าง 8 บาน และฝาประจัน ห้องถูกไฟไหม้หมด เช่นนี้ถือได้ว่า ถึงขีดที่จะเรียกว่าส่วนหนึ่งของสถานที่เช่าได้รับอันตรายจากอัคคีภัยอันทำให้สัญญาหมดอายุตามข้อสัญญาได้แล้ว สัญญาเช่าย่อมระงับไปตั้งแต่วันเกิดอัคคีภัย แก่ห้องพิพาทดังกล่าว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าระงับจากอัคคีภัย: การพิจารณาความเสียหายต่อสถานที่เช่าและการสิ้นสุดสัญญา
ในสัญญาเช่าห้องพิพาทเพื่อการค้าซึ่งมีกำหนดเวลาเช่า 3 ปี มีข้อสัญญากันไว้ด้วยว่า หากมีเหตุอัคคีภัยทำให้สถานที่เช่าเป็นอันตรายไปส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก่อนครบ 3 ปี ถึงไม่ต้องบอกล่วงหน้าก็ให้ถือว่าสัญญาขาดอายุตั้งแต่วันเป็นอันตรายนั้น ดังนี้ เมื่อส่วนของห้องพิพาท คือ บานหน้าต่าง 8 บาน และฝาประจันห้องถูกไฟไหม้หมด เช่นนี้ถือได้ว่า ถึงขีดที่จะเรียกว่าส่วนหนึ่งของสถานที่เช่าได้รับอันตรายจากอัคคีภัยอันทำให้สัญญาหมดอายุตามข้อสัญญาได้แล้ว สัญญาเช่าย่อมระงับไปตั้งแต่วันเกิดอัคคีภัยแก่ห้องพิพาทดังกล่าว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/2503)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนสิทธิเช่าและสิทธิของผู้เช่าตามพรบ.ควบคุมค่าเช่า สัญญาเช่าเดิมไม่ผูกพันผู้เช่ารายใหม่
โจทก์ให้บุคคลที่ 3 เช่าที่ดินปลูกสร้างอาคารให้เช่าช่วง มีกำหนด 10 ปี โดยมีข้อสัญญาว่า เมื่อครบ10 ปีแล้ว อาคารตกเป็นของโจทก์ โดยบุคคลที่ 3 ผู้เช่าที่ดินจะไม่กระทำให้อาคารที่ปลูกสร้างนี้มีภาระผูกพันกับบุคคลอื่นต่อไป เมื่อครบ 10 ปี ปรากฏว่าจำเลยเช่าอาคารนี้จากบุคคลที่ 3 นั้นเพื่ออยู่อาศัยมา 7 ปีแล้ว ซึ่งได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ดังนี้โจทก์จะอาศัยสัญญาที่โจทก์ทำกับบุคคลที่ 3 ในข้อที่ว่าเมื่อครบ 10 ปี บุคคลที่ 3 จะไม่กระทำให้อาคารนี้มีภาระผูกพันกับบุคคลอื่นต่อไปมาฟ้องขับไล่จำเลยหาได้ไม่ เพราะโจทก์ผู้รับโอนอาคารพิพาทจากบุคคลที่ 3 ย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของบุคคลที่ 3 ซึ่งมีต่อจำเลยนั้นด้วย สัญญาที่โจทก์ทำไว้กับบุคคลที่ 3 นั้น ไม่ผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคนนอกสัญญากล่าวในแง่การเช่า จำเลยเช่าจากบุคคลภายนอกโดยบุคคลภายนอกได้รับสิทธิให้เช่ามาจากโจทก์ แต่เมื่อจำเลยเช่าแล้วจำเลยได้รับสิทธิเพิ่มเติมโดยบทบัญญัติของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าและการโอนสิทธิสัญญาเช่า: สัญญาเช่าเดิมไม่ผูกพันผู้เช่ารายใหม่ที่ได้รับสิทธิจาก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
โจทก์ให้บุคคลที่ 3 เช่าที่ดินปลูกสร้างอาคารให้เช่าช่วง มีกำหนด 10 ปี โดยมีข้อสัญญาว่า เมื่อครบ 10 ปีแล้ว อาคารตกเป็นของโจทก์ โดยบุคคลที่ 3 ผู้เช่าที่ดินจะไม่กระทำให้อาคารที่ปลูกสร้างนี้มีภาระผูกพันกับบุคคลอื่นต่อไป เมื่อครบ 10 ปี ปรากฏว่า จำเลยเช่าอาคารนี้จากบุคคลที่ 3 นั้นเพื่ออยู่อาศัยมา 7 ปีแล้ว ซึ่งได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ ดังนี้ โจทก์จะอาศัยสัญญาที่โจทก์ทำกับบุคคลที่ 3 ในข้อที่ว่าเมื่อครบ 10 ปี บุคคลที่ 3 จะไม่กระทำให้อาคารนี้มีภาระผูกพันกับบุคคลอื่นต่อไปมาขับไล่จำเลยหาได้ไม่ เพราะโจทก์ผู้รับโอนอาคารพิพาทจากบุคคลที่ 3 ย่อมรับไป ทั้งสิทธิและหน้าที่ของบุคคลที่ 3 ซึ่งมีต่อจำเลยนั้นด้วย สัญญาที่โจทก์ทำไว้กับบุคคลที่ 3 นั้น ไม่ผูกพันจำเลยซึ่งเป็นคนนอกสัญญากล่าวในแง่การเช่า จำเลยเช่าจากบุคคลภายนอกโดยบุคคลภายนอกได้รับสิทธิให้เช่ามาจากโจทก์ แต่เมื่อจำเลยเช่าแล้ว จำเลยได้รับสิทธิเพิ่มเติมโดยบทบัญญัติของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 916/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่จำกัดเฉพาะพื้นที่เช่า ผู้เช่าเดิมมีสิทธิเหนือพื้นที่ปลูกสร้างก่อนสัญญาเช่า
ในกรณีที่จำเลยผู้เช่าได้ปลูกโรงของจำเลยไว้ในที่พิพาทก่อนที่โจทก์ได้มาทำสัญญาเช่าที่พิพาทต่อเจ้าของที่พิพาทนั้น โจทก์จะอาศัยสิทธิสัญญาเช่านั้นมาฟ้องขับไล่จำเลยเพื่อโจทก์จะได้เข้าครอบครองที่พิพาทนั้นหาได้ไม่ โจทก์เป็นเพียงผู้มีสิทธิเช่า ยังไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทที่เช่ามานั้นเลย ไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 916/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเช่ากับสิทธิการครอบครองก่อนสัญญาเช่า: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากโรงที่ปลูกก่อนทำสัญญา
ในกรณีที่จำเลยผู้เช่าได้ปลูกโรงของจำเลยไว้ในที่พิพาทก่อนที่โจทก์ได้มาทำสัญญาเช่าที่พิพาทต่อเจ้าของที่พิพาทนั้น โจทก์จะอาศัยสิทธิสัญญาเช่านั้นมาฟ้องขับไล่จำเลย เพื่อโจทก์จะได้เข้าครอบครองที่พิพาทนั้นหาได้ไม่ โจทก์เป็นเพียงผู้มีสิทธิเช่า ยังไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทที่เช่ามานั้นเลย ไม่มีอำนาจฟ้อง
of 145