คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 537

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,443 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทำนาแบ่งผลผลิต: ไม่ใช่เช่าหรือเข้าหุ้นส่วน
โจทก์จำเลยตกลงกันให้จำเลยเป็นแรงทำนาส่วนโจทก์มีนาพันธ์ข้าวปลูกและออกเงินค่าจ้างแรงกระบือเหยียบที่กล้า เมื่อทำนาได้ข้าวเท่าใดแบ่งให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง จำเลยได้ครึ่งหนึ่ง กรณีเช่นนี้ เป็นสัญญาธรรมดา มิใช่เป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งมิใช่เป็นเรื่องเข้าหุ้นส่วนกันเมื่อจำเลยไม่ทำให้เสร็จตามที่ตกลงโจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยย่อมต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 427/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาทำนาแบ่งผลผลิต: ลักษณะสัญญาและผลกระทบต่อความรับผิด
โจทก์ จำเลยตกลงกันให้จำเลยเป็นแรงทำนา ส่วนโจทก์มีนา พันธ์ข้าวปลูกและออกเงินค่าจ้างแรงกระบือเหยียบที่กล้า เมื่อทำราได้ข้าวเท่าใดแบ่งให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง จำเลยได้ครึ่งหนึ่ง กรณีเช่นนี้ เป็นสัญญาธรรมดา มิใช่เป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ทั้งมิใช่เป็นเรื่องเข้าหุ้นส่วนกัน เมื่อจำเลยไม่ทำให้เสร็จตามที่ตกลง โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยย่อมต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าที่ดินเมื่อมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำ และผลกระทบเมื่อกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างเปลี่ยนมือ
ผู้เช่าทำสัญญาเช่าที่ดินจาก นายหยินเจ้าของที่ แต่ปรากฏว่ามีผู้ละเมิด เข้าไปปลูกห้องแถวในที่เช่าแปลงนั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดิน อยู่ก่อนแล้ว ดังนี้ ผู้เช่ายังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขอให้ขับไล่ผู้ปลูกห้องแถวและผู้อยู่ ให้ออกไปจากที่เช่า เพราะเป็นเรื่องผู้เช่าจะว่ากล่าว เอาแก่ผู้ให้เช่าซึ่งเป็นคู่สัญญา ให้ส่งมอบการครอบครองที่เช่าให้แก่ตนทั้งหมด
มีผู้เช่าไปปลูกห้องแถวในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของทีดิน แต่ภายหลังได้โอนหลุดเป็นกรรมสิทธิแก่ผู้รับจำนองไปแล้ว เจ้าของที่ดินจะมาฟ้องผู้ปลูกสร้าง ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ปลูกสร้างรื้อห้องแถวนั้นออกไปจากที่ดินของตนไม่ได้ เพราะผู้ปลูกสร้างห้องแถวนั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะถูกฟ้องขับไล่เสียแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าและเจ้าของที่ดินกรณีมีผู้บุกรุก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
ผู้เช่าทำสัญญาเช่าที่ดินจากเจ้าของที่แต่ปรากฏว่ามีผู้ละเมิดเข้าไปปลูกห้องแถวในที่เช่าแปลงนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินอยู่ก่อนแล้ว ดังนี้ผู้เช่ายังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขอให้ขับไล่ผู้ปลูกห้องแถวและผู้อยู่ให้ออกไปจากที่เช่าเพราะเป็นเรื่องผู้เช่าจะว่ากล่าวเอาแก่ผู้ให้เช่าซึ่งเป็นคู่สัญญา ให้ส่งมอบการครอบครองที่เช่าให้แก่ตนทั้งหมด
มีผู้เข้าไปปลูกห้องแถวในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดิน แต่ภายหลังได้โอนหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับจำนองไปแล้วเจ้าของที่ดินจะมาฟ้องผู้ปลูกสร้างขอให้ศาลบังคับให้ผู้ปลูกสร้างรื้อห้องแถวนั้นออกไปจากที่ดินของตนไม่ได้ เพราะผู้ปลูกสร้างห้องแถวนั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะถูกฟ้องขับไล่เสียแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิฟ้องคดีเช่านา: เจ้าของนามีสิทธิฟ้องบังคับได้ทันทีเมื่อผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการอำเภอ
คณะกรรมการอำเภอมีคำสั่งให้ผู้เช่านาคืนนาที่เช่าให้แก่เจ้าของนาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 แต่ผุ้เช่านาขัดขืนไม่ยอมคืนและยังคงเข้าทำนานั้นอยู่ต่อไปอีก เช่นนี้ เจ้าของนาชอบที่จะเสนอคดีพิพาทนั้นต่อศาลได้ทันที ไม่จำต้องรอให้พ้นกำหนด 20 วันตาม พ.ร.บ.ควยคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 มาตรา 14 เพราะกรณีเป็นคนละเรื่องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของนาฟ้องคืนนาได้ทันที แม้ยังไม่ครบ 60 วัน เหตุเป็นคนละเรื่องกับคำสั่ง คณะกรรมการอำเภอ
คณะกรรมการอำเภอมีคำสั่งให้ผู้เช่านาคืนนาที่เช่าให้แก่เจ้าของนาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 แต่ผู้เช่านาขัดขืนไม่ยอมคืนและยังคงเข้าทำนานั้นอยู่ต่อไปอีกเช่นนี้ เจ้าของนาชอบที่จะเสนอคดีพิพาทนั้นต่อศาลได้ทันที ไม่จำต้องรอให้พ้นกำหนด 60 วันตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ.2493 มาตรา 14 เพราะกรณีเป็นคนละเรื่องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องผิดสัญญาเช่าช่วง: ประเด็นข้อฟ้องเพียงพอแล้ว แม้ไม่มีรายละเอียดครบถ้วน
โจทก์กล่าวฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญาเช่าโดยเอาบ้านของโจทก์แบ่งให้บุคคลอื่นเช่าช่วงหลายครอบครัว ดังนี้ แม้จะไม่ระบุชื่อผู้เช่าช่วงเช่าแต่เมื่อใด เป็นระยะเวลาเท่าไรเป็นเงินเท่าใด เหล่านี้ก็เป็นการเพียงพอให้จำเลยรู้ประเด็นข้อฟ้องได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องผิดสัญญาเช่าช่วง: การระบุรายละเอียดผู้เช่าช่วงไม่จำเป็นต่อการฟ้อง
โจทก์กล่าวฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญาเช่าโดยเอาบ้านของโจทก์แบ่งให้บุคคลอื่นเช่าช่วงฟลายครอบครัว ดังนี้ แม้จะไม่ระบุชื่อผู้เช่าช่วงแต่เมื่อใด เป็นระยะเวลาเท่าไร เป็นเงินเท่าใด เหล่านี้ก็เป็นการเพียงพอให้จำเลยรู้ประเด็นข้อฟ้องได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือยบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิร่วมกันในสัญญาเช่าหลังหย่า: สัญญาทำก่อนหย่า สิทธิยังคงเป็นของทั้งสองฝ่ายหากไม่มีข้อตกลงแยก
ภรรยาเกิดระหองระแหงกับสามี จึงแยกไปทำสัญญาเช่าตึกในนามของภรรยา และอยู่ในตึกรายนี้ แต่ต่อมาได้คืนดีกัน และสามีได้มาอยู่รวมในตึกรายนี้ด้วย ภายหลังจึงได้ตกลงทำหนังสือหย่าขาดจากกัน แต่สามีก็ยังคงอยู่ในตึกรายนี้ด้วยตลอดมา ดังนี้ แม้สัญญาจะทำในนามของภรรยา แต่ขณะนั้นยังมิได้หย่าขาดจากกัน และการทำสัญญาเช่าก็ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยา ฉะนั้นสิทธิตามสัญญาเช่านี้จึงเป็นสิทธิรวมกันระหว่างสามีภรรยาเมื่อตกลงทำสัญญาหย่ากัน มิได้ตกลงในเรื่องสิทธิการเช่ารายนี้ประการใดแล้ว และทั้งสองฝ่ายยังครอบครองอยู่ด้วยตลอดมา จึงยังเป็นสิทธิร่วมกันอยู่ ภรรยาจะมาฟ้องขับไล่สามีให้ออกไปจากตึกเช่ายังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเช่าเป็นสิทธิร่วมกัน แม้ทำสัญญาในนามฝ่ายเดียว ก่อนหย่าขาด เมื่อยังอยู่ร่วมกันและไม่ได้ตกลงเรื่องสิทธิเช่า
ภรรยาเกิดระหองระแหงกับสามี จึงแยกไปทำสัสญญาเช่าตึกในนามของภรรยา และอยู่ในตึกรายนี้ แต่ต่อมาได้คืนดีกัน และสามีได้มาอยู่รวมในตึกรายนี้ด้วย ภายหลังจึงได้ตกลงทำหนังสือหย่าขาดจากกัน แต่สามีก็ยังคงอยู่ในตึกรายนี้ด้วยตลอดมา ดังนี้ แม้สัญญาจะทำในนามของภรรยา แต่ขณะนั้นยังมิได้หย่าขาดจากัน และการทำสัญญาเช่าก็ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยา ฉะนั้นสิทธิตามสัญาเช่านี้ จึงเป็นสิทธิร่วมกันระหว่างสามีภรรยา เมื่อตกลงทำสัญญาหย่ากัน มิได้ตกลงในเรื่องสิทธิการเช่ารายนี้ประการแล้ว และทั้งสองฝ่ายยังครอบครองอยู่ด้วยตลอดมา จึงยังเป็นสิทธิร่วมกันอยู่ ภรรยาจะมาฟ้องขับไล่สามีให้ออกไปจากตึกเช่า ยังไม่ได้
of 145