คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 251

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีหลังล้มละลาย: สิทธิเจ้าหนี้ที่ไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ และการสิ้นสุดสัญญาประกัน
จำเลยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาให้ทุเลาการบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาในระหว่างฎีกา โดยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกัน เมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้ว การทุเลาการบังคับคดีก็สิ้นสุดลง การที่จำเลยร้องขอรับโฉนดที่ดินคืน ย่ออยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาสั่ง
เมื่อจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ก็ต้องยื่นคำรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่ยื่นย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลจะสั่งปลดจากล้มละลายหรือไม่
การที่จำเลยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีนั้นไม่ก่อให้เกิดบุริมสิทธิ และถือไม่ได้ว่าโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: สิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้
จำเลยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาให้ทุเลาการบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาในระหว่างฎีกา โดยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกัน เมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้ว การทุเลาการบังคับคดีก็สิ้นสุดลง การที่จำเลยร้องขอรับโฉนดที่ดินคืน ย่อมอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาสั่ง
เมื่อจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ก็ต้องยื่นคำรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่ยื่นย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลจะสั่งปลดจากล้มละลายหรือไม่
การที่จำเลยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีนั้นไม่ก่อให้เกิดบุริมสิทธิ และถือไม่ได้ว่าโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1673/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทุเลาบังคับคดี, ล้มละลาย, และสิทธิเจ้าหนี้: การหมดสิทธิเรียกร้องหนี้เมื่อไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้
จำเลยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาให้ทุเลาการบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาในระหว่างฎีกา. โดยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกัน. เมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้ว. การทุเลาการบังคับคดีก็สิ้นสุดลง. การที่จำเลยร้องขอรับโฉนดที่ดินคืน. ย่อมอยู่ในอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาสั่ง.
เมื่อจำเลยถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แม้โจทก์จะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา. ก็ต้องยื่นคำรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด. หากไม่ยื่นย่อมหมดสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้. ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลจะสั่งปลดจากล้มละลายหรือไม่.
การที่จำเลยนำโฉนดที่ดินมาวางเป็นประกันในการขอทุเลาการบังคับคดีนั้นไม่ก่อให้เกิดบุริมสิทธิ. และถือไม่ได้ว่าโจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าหนี้มีประกันตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยึดหน่วงและบุริมสิทธิไม่ทำให้มีสิทธิถอนการยึดทรัพย์ของโจทก์ ผู้ร้องมีสิทธิขอหักใช้หนี้
เมื่อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ผู้ร้องขอให้ถอนการยึดนั้นยังคงเป็นของจำเลยอยู่โจทก์ผู้ชนะคดีย่อมนำยึดเพื่อเอาขายทอดตลาดได้เพียงแต่ผู้ร้องมีสิทธิยึดหน่วงและบุริมสิทธิ์ไม่ทำให้ผู้ร้องมีสิทธิที่จะร้องขอให้โจทก์ถอนการยึดได้ ผู้ร้องชอบที่จะร้องขอให้หักใช้หนี้ตามบุริมสิทธิ์ของตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยึดหน่วงและบุริมสิทธิเหนือทรัพย์ของจำเลย: โจทก์มีสิทธิยึดเพื่อขายทอดตลาดได้
เมื่อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ผู้ร้องขอให้ถอนการยึดนั้น ยังคงเป็นของจำเลยอยู่ โจทก์ผู้ชนะคดีย่อมนำยึดเพื่อเอาขายทอดตลาดได้ เพียงแต่ผู้ร้องมีสิทธิยึดหน่วงและบุริมสิทธิ ไม่ทำให้ผู้ร้องมีสิทธิที่จะร้องขอให้โจทก์ถอนการยึดได้ ผู้ร้องชอบแต่ที่จะร้องขอให้หักใช้หนี้ตามบุริมสิทธิของตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1378/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินโอนทันทีตามสัญญา แม้ยังไม่มีการส่งมอบ และบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินของผู้อื่นเป็นโมฆะ
ข้อสัญญาที่ให้สิ่งของและสัมภาระต่างๆ ของผู้รับจ้างซึ่งนำเข้าไปไว้ในบริเวณที่ก่อสร้าง ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้างในเมื่อผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญา เพราะผู้รับจ้างผิดสัญญานั้น เป็นข้อสัญญาที่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย และข้อสัญญาดังกล่าวใช้บังคับได้โดยไม่ต้องมีการส่งมอบทรัพย์สินนั้นอีก ถ้าหากในสัญญาระบุตัวทรัพย์สินไว้ชัดแจ้งแล้ว เพราะกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นย่อมโอนไปทันทีตามผลแห่งสัญญาโดยไม่จำเป็นต้องมีการนับหรือชั่งตวงวัดอีก
ทรัพย์สินซึ่งเจ้าหนี้มีบุริมสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 251 นั้น หมายถึงทรัพย์สินของลูกหนี้เท่านั้น มาตรา 251 นี้หาได้บัญญัติให้เจ้าหนี้มีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินของบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้ด้วยไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 270 เป็นบทบัญญัติถึงรายละเอียดแห่งการมีบุริมสิทธิตามมาตรา 251 อีกต่อหนึ่งว่า การบังคับชำระหนี้ในฐานะมีบุริมสิทธิตามมาตรา 251 จะบังคับได้เพียงใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1378/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจากสัญญาจ้างเหมาและผลของการบอกเลิกสัญญา
ข้อสัญญาที่ให้สิ่งของและสัมภาระต่าง ๆ ของผู้รับจ้างซึ่งนำเข้าไปไว้ในบริเวณที่ก่อสร้างตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้างในเมื่อผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญา เพราะผู้รับจ้างผิดสัญญานั้น เป็นข้อสัญญาที่มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย และข้อสัญญาดังกล่าวใช้บังคับได้โดยไม่ต้องมีการส่งมอบทรัพย์สินนั้นอีก ถ้าหากในสัญญาระบุตัวทรัพย์สินไว้ชัดแจ้งแล้ว เพราะกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นย่อมโอนไปทันที่ตามผลแห่งสัญญาโดยไม่จำเป็นต้องมีการนับหรือชั่งตวงวัดอีก
ทรัพย์สินซึ่งเจ้าหนี้มีบุริมสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 251 นั้น หมาย ถึงทรัพย์สินของลูกหนี้เท่านั้น มาตรา 251 นี้หาได้บัญญัติให้เจ้าหนี้ให้เจ้าหนี้มีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินของบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้ด้วยไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 220 เป็นบทบัญญัติถึงรายละเอียดแห่งการมีบุริมสิทธิตามมาตรา 251 อีกต่อหนึ่งว่า การบังคับชำระหนี้ในฐานะมีบุริมสิทธิตามมาตรา 251 จะบังคับได้เพียงใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 150/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตบุริมสิทธิภาษีอากร: 'ปีปัจจุบัน' หมายถึงปีที่ยื่นคำร้องต่อศาล ไม่ใช่ปีที่ประเมินภาษี
คำว่า "ปีปัจจุบัน" ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 256 หมายความว่า ปีที่ผู้มีบุริมสิทธิ์ได้ยื่นคำร้องต่อศษลให้เอาเงินของจำเลยมาชำระหนี้ค่าภาษีอากรแก่ผู้ร้อง
หนี้มีบุริมสิทธิ์นั้น กฎหมายให้สิทธิพิเศษแก่เจ้าหนี้ในอันที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นที่ไม่มีบุริมสิทธิ แต่หาได้หมายความว่า เมื่อผู้ร้องไม่มีบุริมสิทธิแล้ว สิทธิของผู้ร้องในอันที่จะเรียกร้องเอาค่าภาษีอากรสูญสิ้นไปไม่ ผู้ร้องก็คงเป็นเจ้าหนี้อยู่ แต่ไม่มีบุริมสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นเท่านั้น
แม้ผู้ร้องเพิ่งจะได้ประเมินเรียกเก็บภาษีในปี พ.ศ. 2501 ก็หาทำให้ภาษีปี พ.ศ. 2498 และ พ.ศ. 2499 กลายมาเป็นภาษีปี 2501 ไปได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1451/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนำทรัพย์สินไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ผู้รับจำนำมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนบุริมสิทธิ
โจทก์นำยึดสังหาริมทรัพย์เพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษา แต่เป็นทรัพย์ซึ่งจำเลยจำนำไว้กับผู้ร้อง เช่นนี้ เมื่อผู้ร้องร้องเข้ามาหากกองหมายขายทอดตลาดแล้วได้เงินเท่าใดต้องหักใช้หนี้ผู้ร้องก่อน
การจำนำ ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ(อ้างฎีกาที่ 200/2496)
of 2