คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 128 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2380/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ให้เช่าซื้อเมื่อโอนที่ดินไม่ได้ และผลกระทบจากการจัดการทรัพย์สินช้าช้าต่อภาระดอกเบี้ย
ผู้ให้เช่าซื้อต้องรับผิดถ้าโอนที่ดินที่ให้เช่าซื้อให้แก่ผู้เช่าซื้อไม่ได้ โดยรับผิดใช้ค่าเสียหายเท่านั้น การจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้เนิ่นช้าทำให้เพิ่มภาระดอกเบี้ยจำนอง มติที่ประชุมเจ้าหนี้ให้ขายที่ดินจึงไม่ขัดต่อประโยชน์อันร่วมกันของเจ้าหนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1902/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้โดยไม่สุจริตของผู้ล้มละลาย การเพิกถอนการชำระหนี้
ผู้ล้มละลายมีเจ้าหนี้ 35 ราย ผู้ชำระบัญชีชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามเช็ค 11 ราย ในอัตราร้อยละ 21.2 ของหนี้ อีก 24 ราย มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ไม่เป็นการชำระหนี้โดยสุจริต ต้องเพิกถอน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1067/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลาย: เจ้าหนี้ต้องแสดงหลักฐานต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ขอพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลายแล้วไม่นำพยานหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ คดีรับฟังไม่ได้ว่าเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์เป็นเจ้าหนี้อยู่จริงตามที่ขอรับชำระเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ชอบที่จะยกคำขอนั้น
ค่าฤชาธรรมเนียมที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสียไปในการดำเนินกระบวนพิจารณาต่อศาล ศาลให้หักเอาจากเงินที่รวบรวมได้ในคดีล้มละลาย ถ้าไม่มีพอก็ให้เอาจากเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา155

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลแพ่งในคดีล้มละลาย: การคัดค้านคำสั่งอายัดเงินถูกต้องต้องทำต่อศาลเจ้าของสำนวน
กองบังคับคดีแพ่งส่งเงินที่โจทก์อายัดในคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายที่จำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวตามคำสั่งศาลแพ่งดังนี้ โจทก์ชอบที่จะร้องคัดค้านต่อศาลแพ่งผู้ออกคำสั่งนั้น มิใช่ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลในคดีที่โจทก์ขอให้อายัดเงินนั้นไม่มีกฎหมายให้ศาลอื่นสั่งเพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งปฏิบัติตามคำสั่งศาลแพ่งเจ้าของสำนวนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ตามคำพิพากษาและการนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาหักล้าง การฟ้องล้มละลายต้องมีหนี้ถึงเกณฑ์
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 30,550 บาท แก่โจทก์เป็นค่าธรรมเนียมและค่าทนายความ 3,020 บาท จำเลยวางค่าธรรมเนียมและค่าทนายความต่อศาลแล้ว แม้โจทก์ยังไม่ได้รับไปจากศาลก็ถือว่าหนี้ค้างชำระไม่ถึง 30,000 บาท ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2260/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคำฟ้องล้มละลาย: ศาลพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ควบคู่ข้อสันนิษฐานตามกฎหมาย
แม้จำเลยจะได้รับหนังสือทวงถามจากโจทก์ให้ชำระหนี้แล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้งห่างกันไม่น้อยกว่า 30วันจำเลยไม่ชำระหนี้แต่จำเลยอาจจะชำระหนี้ได้ทั้งหมดศาลพิพากษายกฟ้องได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 มาตรา14 ไม่ขัดต่อข้อสันนิษฐานตามมาตรา 8
จำเลยเป็นข้าราชการตำแหน่งหัวหน้าแผนกได้รับเงินเดือนเดือนละ 2,700บาทแม้เงินเดือนของจำเลยโจทก์ไม่อาจยึดมาชำระหนี้ของโจทก์ได้ก็เป็นคนละเรื่องกับความสามารถในการชำระหนี้ของจำเลย ฐานะราชการความประพฤติไม่เป็นหนี้บุคคลอื่นนอกจากโจทก์จำเลยย่อมอยู่ในฐานะที่สามารถจะขวนขวายชำระหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1243/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ที่อยู่ภายใต้การประนอมหนี้ในคดีล้มละลาย สิทธิเรียกร้องต้องยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์และยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 จำเลยที่ 1 ฝ่ายเดียวฎีกา เมื่อความปรากฏแก่ศาลฎีกาว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 ที่ 2 เด็ดขาดจนได้ประนอมหนี้และศาลได้มีคำสั่งให้ปิดคดีเพราะชำระหนี้ตามประนอมหนี้แล้ว ดังนี้หนี้รายที่โจทก์ฟ้องคดีนี้อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องยื่นขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483มาตรา 27,91 แม้โจทก์ไม่ยื่นขอรับชำระหนี้ โจทก์ก็ถูกผูกมัดโดยการประนอมหนี้ด้วยตามมาตรา 56 โจทก์จึงจะฟ้องให้จำเลยรับผิดชำระหนี้เป็นคดีนี้อีกไม่ได้ ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 974/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลาย: การบอกกล่าวหนี้ก่อนฟ้องไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นเพียงเหตุสันนิษฐาน
เจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้ให้เป็นบุคคลล้มละลายได้ เมื่อบรรยายฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2511กล่าวคือ ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวเป็นหนี้ไม่น้อยกว่า 30,000 บาท และหนี้นั้นอาจกำหนดจำนวนได้แน่นอน แม้จะอยู่ระหว่างบังคับคดีในหนี้รายเดียวกันในคดีแพ่งสามัญ
การบอกกล่าวให้ชำระหนี้ก่อนไม่น้อยกว่าสองครั้ง มีระยะห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน ตามมาตรา 8(9) นั้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวข้อหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่บทบังคับว่าโจทก์ต้องบอกกล่าวเช่นนั้นก่อนฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลาย และความรับผิดของเจ้าหนี้ที่ช่วยเหลือ
เดิมศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ลูกหนี้ (จำเลย) ล้มละลาย ลูกหนี้อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา ในระหว่างฎีกา ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ไว้ชั่วคราวตามคำขอของเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หลังจากนั้นผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้มีประกันและได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้แล้ว ได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอทำการแทนเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ ขอนำยึดทรัพย์ของลูกหนี้ทั้งหมดและรับรองจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการยึดทรัพย์ครั้งนี้ตลอดจนค่าธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ด้วย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงจัดการยึดทรัพย์ตามคำขอของผู้ร้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษากลับคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ไว้ชั่วคราวและให้ถอนการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวของลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงจัดการถอนการยึดคืนทรัพย์ให้แก่ลูกหนี้ และแจ้งให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมถอนการยึดไปชำระต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ดังนี้ อำนาจในการรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ย่อมเป็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวตามมาตรา 22 ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามธรรมดาผู้หนึ่งไม่มีหน้าที่และความรับผิดใด ๆเป็นส่วนตัวโดยตรงตามกฎหมายล้มละลายในเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต้องถือว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ใช้ดุลพินิจทำการยึดทรัพย์เองโดยเชื่อตามคำเสนอแนะของผู้ร้อง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จึงไม่มีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้ร้องนำเงินค่าธรรมเนียมมและค่าใช้จ่ายในการถอนการยึดมาชำระได้ ส่วนปัญหาที่ว่าผู้ร้องจะต้องรับผิดตามสัญญาหรือไม่นั้น หากจะฟังว่ามีผลบังคับได้ก็เป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องดำเนินการขอให้ศาลบังคับผู้ร้องตามสัญญาเสียก่อน ศาลจะบังคับผู้ร้องไปทันทีในคดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 681/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการชำระหนี้ตามสัญญาส่งมอบทรัพย์สินก่อนล้มละลาย เพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้โดยเสมอภาค
การที่บริษัทจำเลยซึ่งมีเจ้าหนี้อยู่ทั้งหมดประมาณ 40 ราย และมีฐานะการเงินพอที่จะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ได้เฉพาะ 8-9 ราย ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับเจ้าหนี้ 8-9 ราย ภายในระยะเวลา 3 เดือนก่อนถูกฟ้องล้มละลายนั้น การกระทำดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการกระทำที่มุ่งหมายให้เจ้าหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้เปรียบเจ้าหนี้รายอื่น เป็นการฝ่าฝืนเจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 ที่ประสงค์จะให้เจ้าหนี้ทั้งหลายได้รับชำระหนี้โดยเสมอภาคทั่วหน้ากัน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทจำเลยผู้ล้มละลายจึงขอให้เพิกถอนการชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวได้ตาม มาตรา 115
of 13