คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 252

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 132 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3830/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาต้องยื่นต่อศาลฎีกาโดยตรง มิใช่ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกามีอำนาจสั่งรับฎีกาโดยเฉพาะ
กรณีที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาไม่ว่าเพราะเหตุใด หากผู้ฎีกาไม่พอใจและประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกาเพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกานั้นชอบหรือไม่นอกจากนี้ผู้ฎีกายังต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งมาตรา234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโดยจะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลชั้นต้นและนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 10 วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งอีกด้วย ฉะนั้นการที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับฎีกาของจำเลยต่อศาลอุทธรณ์และยื่นเมื่อล่วงพ้นกำหนด 10 วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งแล้ว จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อำนาจในการสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาหรือสั่งให้รับฎีกา เป็นอำนาจโดยเฉพาะของศาลฎีกาศาลอุทธรณ์หามีอำนาจสั่งเช่นนั้นไม่ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ขอให้มีคำสั่งรับฎีกาจึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3830/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาต้องยื่นต่อศาลฎีกาโดยตรง และศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาคำสั่งดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว
กรณีที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาไม่ว่าเพราะเหตุใด หากผู้ฎีกาไม่พอใจและประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกาเพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกานั้นชอบหรือไม่นอกจากนี้ผู้ฎีกายังต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 234ประกอบด้วยมาตรา 247 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโดยจะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลชั้นต้นและนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 10 วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งอีกด้วย ฉะนั้นการที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับฎีกาของจำเลยต่อศาลอุทธรณ์และยื่นเมื่อล่วงพ้นกำหนด 10 วันนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งแล้ว จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อำนาจในการสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาหรือสั่งให้รับฎีกา เป็นอำนาจโดยเฉพาะของศาลฎีกาศาลอุทธรณ์หามีอำนาจสั่งเช่นนั้นไม่ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ขอให้มีคำสั่งรับฎีกาจึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการอุทธรณ์คำสั่งศาล: จำเลยต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเท่านั้น หากศาลชั้นต้นไม่รับฎีกา จะอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ไม่ได้
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาของจำเลยแล้ว จำเลยจะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ไม่ได้ ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 252

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลำดับการอุทธรณ์คำสั่งศาล: ต้องยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาเท่านั้น หากศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์
เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาของจำเลยแล้ว จำเลยจะต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ไม่ได้ ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 252

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลายื่นฎีกาและการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำร้อง
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องโจทก์ซึ่งขอขยายเวลายื่นฎีกา ไม่ใช่คำสั่งไม่รับฎีกา โจทก์จะยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลฎีกา ตลอดจนยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลายื่นฎีกาและการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำร้อง
ศาลชั้นต้นยกคำร้องโจทก์ซึ่งขอขยายเวลายื่นฎีกา ไม่ใช่คำสั่งไม่รับฎีกา โจทก์จะยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลฎีกา ตลอดจนยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาต้องยื่นต่อศาลฎีกาโดยตรง การอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบ
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาต่อศาลอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะอำนาจสั่งให้รับฎีกาหรือไม่นั้น เป็นอำนาจเฉพาะของศาลฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 252
ศาลชั้นต้นสั่งตำหนิไม่รับฎีกาฉบับแรกของผู้ร้องผู้ร้องมิได้อุทธรณ์ฎีกาคำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 แต่ยอมทำฎีกาฉบับใหม่มายื่นแทน ในฎีกาชั้นนี้ผู้ร้องจะย้อนอ้างว่าฎีกาตามสิทธิในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 อีกไม่ได้เพราะคำสั่งศาลแพ่งที่ติอุทธรณ์ของผู้ร้องขาดตอนไปแล้ว
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 227,228 เป็นเรื่องคำสั่งไม่รับคำคู่ความของศาลชั้นต้นในกรณีอื่นไม่ใช่กรณีไม่รับฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 252

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีหนี้สินโดยไม่ระบุวันทำสัญญา และการพิจารณาความชัดเจนของฟ้อง
ฟ้องระบุเดือนและ พ.ศ.ที่จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์แล้วระบุว่า หนังสือกู้นั้นถูกพวกปล้นเก็บไป แม้ไม่ระบุวัน วันที่กู้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาบางข้อ เมื่อผู้ฎีกาไม่อุทธรณ์คัดค้านคำสั่ง ศาลฎีกาก็รับวินิจฉัยฉะเพาะข้อฎีกาที่ศาลเดิมสั่งรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องหนี้โดยไม่ระบุวันทำสัญญา แต่ระบุเดือน/ปี และเหตุทำสัญญาหาย ไม่ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
ฟ้องระบุเดือนและ พ.ศ.ที่จำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์แล้วระบุว่า หนังสือกู้นั้นถูกพวกปล้นเก็บไป แม้ไม่ระบุวันวันที่กู้ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาบางข้อ เมื่อผู้ฎีกาไม่อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลฎีกาก็รับวินิจฉัยเฉพาะข้อฎีกาที่ศาลเดิมสั่งรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 215/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยรับทำสัญญาซื้อขายที่ดิน แม้ต่อสู้เรื่องโมฆียะ ศาลฎีกายืนตามศาลล่างว่าจำเลยผิดสัญญา
จำเลยทำสัญญาขายที่ให้โจทก์แต่โจทก์ขอให้โอนแก่คนภายนอก ฝ่ายจำเลยไม่ยอมโอนให้โจทก์หรือคนภายนอกดังนี้ ก็ต้องถือว่าจำเลยผิดสัญญา
จำเลยไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำหนังสือสัญญาเป็นแต่ต่อสู้ว่าสัญญาเป็นโมฆียะดังนี้ ต้องถือว่ามีประเด็นฉะเพาะว่าเป็นโมฆียะหรือไม่ ส่วนข้อที่ว่าจำเลยทำสัญญาจริงหรือไม่ต้องถือว่าจำเลยรับ
คดีที่ไม่ต้องห้ามฎีกานั้นถ้าศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาฉะเพาะข้อกฎหมายศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยฎีกาที่เป็นข้อเท็จจริง
of 14