คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 158

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 240 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดระยะเวลาซื้อขายที่ดินโดยนิติกรรมพิเศษ: การระบุวันสิ้นสุดชัดเจนทำให้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 158-159 ใช้ไม่ได้
บันทึกเปรียบเทียบที่โจทก์จำเลยลงชื่อไว้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2517 มีข้อความว่า ให้จำเลยขายที่ดินคืนให้โจทก์ภายในกำหนด 1 ปี ถ้าพ้นกำหนด 1 ปี (19 มีนาคม 2518) ยังไม่มีการซื้อขายที่ดินคืนก็ให้ยกเลิกข้อตกลง การที่ระบุข้อความในวงเล็บว่า '19 มีนาคม 2518' ไว้ก็ด้วยเจตนาที่จะกำหนดวันสิ้นสุดแห่งระยะเวลา 1 ปี ให้เป็นที่แน่นอน เป็นข้อยกเว้นโดยนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 156 จะนำวิธีการกำหนดนับระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 158,159 มาใช้บังคับไม่ได้ต้องถือว่าวันที่ 19 มีนาคม 2518 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาที่โจทก์มีสิทธิขอซื้อที่ดินคืน เมื่อโจทก์ขอซื้อคืนในวันที่ 20 มีนาคม 2518 โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะซื้อคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดระยะเวลาในสัญญาซื้อขาย: การระบุวันสิ้นสุดที่แน่นอนมีผลเหนือวิธีการนับตามกฎหมาย
บันทึกเปรียบเทียบที่โจทก์จำเลยลงชื่อไว้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2517 มีข้อความว่า ให้จำเลยขายที่ดินคืนให้โจทก์ภายในกำหนด 1 ปี ถ้าพ้นกำหนด 1 ปี (19 มีนาคม 2518) ยังไม่มีการซื้อขายที่ดินคืนก็ให้ยกเลิกข้อตกลง การที่ระบุข้อความในวงเล็บว่า "19 มีนาคม 2518" ไว้ก็ด้วยเจตนาที่จะกำหนดวันสิ้นสุดแห่งระยะเวลา 1 ปี ไว้เป็นที่แน่นอน เป็นข้อยกเว้นโดยนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 156 จะนำวิธีการกำหนดนับระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158, 159 มาใช้บังคับไม่ได้ ต้องถือว่าวันที่ 19 มีนาคม 2518 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวาลาที่โจทก์มีสิทธิขอซื้อที่ดินคืน เมื่อโจทก์ขอซื้อคืนในวันที่ 20 มีนาคม 2518 โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะซื้อคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาวางเงินตามคำสั่งศาล: ผลของการไม่รอฟังคำสั่งและการป่วยหลังทราบคำสั่ง
โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 7 มีนาคม 2518 ขอให้เพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์ของอธิบดีและคำสั่งพนักงานเงินทดแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นว่า โจทก์ไม่ได้วางเงินตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ข้อ 60 ให้โจทก์วางเงินภายใน 3 วัน แล้วจะสั่งต่อไป ดังนี้เมื่อตามคำขอท้ายฟ้องระบุว่าโจทก์รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ก็ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งของศาลในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั่นเอง ซึ่งย่อมมีผลตั้งต้นคำนวณเป็นหนึ่งในวันรุ่งขึ้น และสิ้นสุดที่จะต้องวางเงินตามคำสั่งภายในวันที่ 10 มีนาคม 2518 เมื่อโจทก์ไม่วางเงินภายในเวลาดังกล่าวและศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องไปแล้ว โจทก์จะขอวางเงินโดยอ้างว่าเพิ่งทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2518 หาได้ไม่ แม้โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ป่วยก่อนที่จะทราบคำสั่งให้วางเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่โจกท์ทราบคำสั่งศาลแล้วเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเงินตามประกาศกระทรวงฯ เพื่อรับฟ้องคดี การนับระยะเวลา และผลของการไม่ปฏิบัติตาม
โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 7 มีนาคม 2518 ขอให้เพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์ของอธิบดีและคำสั่งพนักงานเงินทดแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นว่า โจทก์ไม่ได้วางเงินตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ ข้อ 60 ให้โจทก์วางเงินภายใน 3 วัน แล้วจะสั่งต่อไป ดังนี้เมื่อตามคำขอท้ายฟ้องระบุว่าโจทก์รอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว ก็ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งของศาลในวันที่โจทก์ยื่นฟ้องนั่นเอง ซึ่งย่อมมีผลตั้งต้นคำนวณเป็นหนึ่งในวันรุ่งขึ้น และสิ้นสุดที่จะต้องวางเงินตามคำสั่งภายในวันที่ 10 มีนาคม 2518 เมื่อโจทก์ไม่วางเงินภายในเวลาดังกล่าวและศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องไปแล้ว โจทก์จะขอวางเงินโดยอ้างว่าเพิ่งทราบคำสั่งเมื่อวันที่ 12 มีนาคม2518 หาได้ไม่ แม้โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ป่วยก่อนที่จะทราบคำสั่งให้วางเงิน ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังที่โจทก์ทราบคำสั่งศาลแล้วเช่นกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3026/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาตามหนังสือแจ้งให้ส่งเอกสาร: เริ่มนับวันถัดจากวันที่ได้รับ และวันหยุดสุดสัปดาห์
จำเลยได้รับหนังสือของเจ้าพนักงานที่ดินเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมให้จำเลยส่งโฉนดที่ดินภายในกำหนด 15 วัน การนับระยะเวลา ในกรณีนี้ ต้องนับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ซึ่งห้ามมิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้นรวมคำนวณเข้าด้วย เว้นแต่จะเริ่มทำการในวันนั้นเองตั้งแต่เวลาอันเป็นกำหนดเริ่ม ทำการงานกันตามประเพณี เมื่อไม่มีประเพณีเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้กำหนด 15 วันจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมและครบกำหนดในวันที่ 23 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ จำเลยจึงยังมีสิทธิ นำส่งในวันที่ 24 ธันวาคม อันเป็นวันเริ่มทำงานใหม่ได้อีก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนี้ จำเลย จึงมิได้กระทำผิดในวันที่ 23 ธันวาคม ดังที่โจทก์ฟ้องเพราะ ยังไม่ล่วงพ้นระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดให้จำเลยส่ง (อ้างฎีกาที่ 235/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3026/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับระยะเวลาตามหนังสือแจ้งให้ส่งโฉนดที่ดิน: เริ่มนับวันถัดจากวันที่ได้รับหนังสือ และวันหยุดราชการ
จำเลยได้รับหนังสือของเจ้าพนักงานที่ดินเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมให้จำเลยส่งโฉนดที่ดินภายในกำหนด 15 วัน การนับระยะเวลา ในกรณีนี้ ต้องนับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ซึ่งห้ามมิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้นรวมคำนวณเข้าด้วย เว้นแต่จะเริ่มทำการในวันนั้นเองตั้งแต่เวลาอันเป็นกำหนดเริ่มทำการงานกันตามประเพณี เมื่อไม่มีประเพณีเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้กำหนด 15 วันจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมและครบกำหนดในวันที่ 23 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ จำเลยจึงยังมีสิทธินำส่งในวันที่ 24 ธันวาคม อันเป็นวันเริ่มทำงานใหม่ได้อีกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนี้ จำเลยจึงมิได้กระทำผิดในวันที่ 23 ธันวาคม ดังที่โจทก์ฟ้อง เพราะยังไม่ล่วงพ้นระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดให้จำเลยส่ง (อ้างฎีกาที่ 235/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2171-2172/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเช็ค: การนับระยะเวลาเริ่มต้นเมื่อใด และการนับรวมวันแรกหรือไม่
ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายให้ชำระเงินตามเช็ค กฎหมายห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่วันเช็คถึงกำหนด การนับระยะเวลาในกรณีนี้จะนับวันแรกรวมคำนวณเข้าในอายุความหนึ่งปีด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่ได้เริ่มการอะไรในวันนั้น เช็คที่ถึงกำหนดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2511ฟ้องคดีวันที่ 20 พฤศจิกายน 2512 และที่ถึงกำหนดวันที่ 27 พฤศจิกายน2511 ฟ้องคดีวันที่ 27 พฤศจิกายน 2512 ฟ้องทั้งสองสำนวนนี้ยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2171-2172/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเช็ค: การนับระยะเวลาเริ่มต้นวันถัดจากวันที่เช็คถึงกำหนด
ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายให้ชำระเงินตามเช็ค กฎหมายห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่วันเช็คถึงกำหนด การนับระยะเวลาในกรณีนี้จะนับวันแรกรวมคำนวณเข้าในอายุความหนึ่งปีด้วยหาได้ไม่ เพราะไม่ได้เริ่มการอะไรในวันนั้น เช็คที่ถึงกำหนดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2511ฟ้องคดีวันที่ 20 พฤศจิกายน 2512 และที่ถึงกำหนดวันที่ 27 พฤศจิกายน 2511 ฟ้องคดีวันที่ 27 พฤศจิกายน 2512 ฟ้องทั้งสองสำนวนนี้ยังไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ลูกระเบิดทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาความร้ายแรงของการกระทำและกำหนดโทษจำคุกตลอดชีวิต
จำเลยที่ 1 ใช้ลูกระเบิดมือขว้างจำเลยที่ 4 ซึ่งวิ่งหนีเข้าไปในกลุ่มคน สะเก็ดระเบิดทำให้คนตาย 7 คน และได้รับอันตรายแก่กายอีกหลายคน การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นลักษณะของการกระทำที่จะทำให้ตายโดยใช้อาวุธที่ร้ายแรง มีอำนาจแห่งการทำลายโดยกว้างขวาง แต่ไม่เป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย
โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2513โจทก์ยื่นฎีกาได้ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2513 แต่เมื่อวันที่ 5, 6 และ 7เป็นวันหยุดราชการ โจทก์จึงยื่นฎีกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2513 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขว้างระเบิดมือทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษจำคุกตลอดชีวิต
จำเลยที่ 1 ใช้ลูกระเบิดมือขว้างจำเลยที่ 4 ซึ่งวิ่งหนีเข้าไปในกลุ่มคน สะเก็ดระเบิดทำให้คนตาย 7 คน และได้รับอันตรายแก่กายอีกหลายคน การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นลักษณะของการกระทำที่จะทำให้ตายโดยใช้อาวุธที่ร้ายแรง มีอำนาจแห่งการทำลายโดยกว้างขวาง แต่ไม่เป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย
โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2513โจทก์ยื่นฎีกาได้ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2513 แต่เมื่อวันที่ 5,6 และ 7 เป็นวันหยุดราชการ โจทก์จึงยื่นฎีกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2513 ได้
of 24