พบผลลัพธ์ทั้งหมด 328 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลฎีกา: การเริ่มต้นนับอายุความและการขอบังคับคดีเกินกำหนด
ศาลพิพากษาห้ามไม่ให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทในกรณีที่จะเป็นการขัดขวางต่อสิทธิของโจทก์ที่จะทำเหมืองแร่โจทก์ผู้ชนะคดีชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเริ่มนับแต่วันผิดนัด ไม่ใช่แค่วันที่รู้ตัวการ
โจทก์เป็นพ่อค้าเครื่องยนต์เพื่ออุตสาหกรรมตัวแทนของจำเลยได้ตกลงจะชำระหนี้ค่าซื้อเครื่องยนต์เช่นว่านั้นให้โจทก์ภายในวันที่ 24 ก.ค. 2493 เมื่อถึงกำหนด ไม่มีการชำระหนี้ เช่นนี้ ต้องถือว่า จำเลยซึ่งเป็นตัวการผิดนัดด้วย โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องแก่จำเลยได้ตั้งแต่วันผิดนัด คือวันที่ 24 ก.ค. 2493 อายุความจึงเริ่มนับตั้งแต่นั้นมา โจทก์มายื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2499 เกิน 5 ปีแล้ว คดีโจทก์ขาดอายุความ
ป.พ.พ. มาตรา 165 (1) และ มาตรา 165 วรรค 2 เกี่ยวกับการนับอายุความ ให้เริ่มนับแต่วันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึง วันรู้ (คือ วันที่โจทก์รู้ว่าจำเลยเป็นตัวการ) จะนำมาสงเคราะห์เทียบเคียงกันไม่ได้กับ ป.พ.พ. มาตรา 448 เรื่องละเมิด ซึ่งมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้ที่จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
สิทธิเรียกร้องของโจทก์เกิดขึ้นโดยตัวแทนของจำเลยไปซื้อเครื่องยนต์ จากโจทก์และตัวแทนของจำเลยตกลงจะชำระหนี้ให้ ต่อมาไม่มีการชำระหนี้เมื่อเกิดผิดนัดขึ้นเมื่อใด ก็เกิดสิทธิเรียกร้องที่โจทก์อาจบังคับแก่จำเลยได้ตั้งแต่นั้นมา มิใช่ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์จะเพิ่งมาตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาคดีระหว่างโจทก์กับตัวแทนของจำเลยในเรื่องหนี้สินรายเดียวกันนี้
ป.พ.พ. มาตรา 165 (1) และ มาตรา 165 วรรค 2 เกี่ยวกับการนับอายุความ ให้เริ่มนับแต่วันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึง วันรู้ (คือ วันที่โจทก์รู้ว่าจำเลยเป็นตัวการ) จะนำมาสงเคราะห์เทียบเคียงกันไม่ได้กับ ป.พ.พ. มาตรา 448 เรื่องละเมิด ซึ่งมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้ที่จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
สิทธิเรียกร้องของโจทก์เกิดขึ้นโดยตัวแทนของจำเลยไปซื้อเครื่องยนต์ จากโจทก์และตัวแทนของจำเลยตกลงจะชำระหนี้ให้ ต่อมาไม่มีการชำระหนี้เมื่อเกิดผิดนัดขึ้นเมื่อใด ก็เกิดสิทธิเรียกร้องที่โจทก์อาจบังคับแก่จำเลยได้ตั้งแต่นั้นมา มิใช่ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์จะเพิ่งมาตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาคดีระหว่างโจทก์กับตัวแทนของจำเลยในเรื่องหนี้สินรายเดียวกันนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเริ่มนับแต่วันผิดนัด ไม่ใช่วันที่รู้ตัวการ สิทธิเรียกร้องเกิดเมื่อมีการผิดนัดชำระหนี้
โจทก์เป็นพ่อค้าเครื่องยนต์เพื่ออุตสาหกรรม ตัวแทนของจำเลยได้ตกลงจะชำระหนี้ค่าซื้อเครื่องยนต์เช่นว่านั้นให้โจทก์ภายในวันที่ 24 ก.ค.2493 เมื่อถึงกำหนดไม่มีการชำระหนี้ เช่นนี้ ต้องถือว่าจำเลยซึ่งเป็นตัวการผิดนัดด้วย โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องแก่จำเลยได้ตั้งแต่วันผิดนัด คือ วันที่ 24 ก.ค.2493 อายุความจึงเริ่มนับตั้งแต่นั้นมา โจทก์มายื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2499 เกิน 5 ปีแล้ว คดีโจทก์ขาดอายุความ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) และ มาตรา 165 วรรคสอง เกี่ยวกับการนับอายุความ ให้เริ่มนับแต่วันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึงวันรู้ (คือ วันที่โจทก์รู้ว่าจำเลยเป็นตัวการ) จะนำมาสงเคราะห์เทียบเคียงกันไม่ได้กับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448เรื่องละเมิด ซึ่งมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้ที่จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
สิทธิเรียกร้องของโจทก์เกิดขึ้นโดยตัวแทนของจำเลยไปซื้อเครื่องยนต์จากโจทก์และตัวแทนของจำเลยตกลงจะชำระหนี้ให้ต่อมาไม่มีการชำระหนี้เมื่อเกิดผิดนัดขึ้นเมื่อใด ก็เกิดสิทธิเรียกร้องที่โจทก์ อาจบังคับแก่จำเลยได้ตั้งแต่นั้นมามิใช่ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์จะเพิ่งมาตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาคดีระหว่างโจทก์กับตัวแทนของจำเลยในเรื่องหนี้สินรายเดียวกันนี้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1) และ มาตรา 165 วรรคสอง เกี่ยวกับการนับอายุความ ให้เริ่มนับแต่วันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เท่านั้น ไม่ได้กล่าวถึงวันรู้ (คือ วันที่โจทก์รู้ว่าจำเลยเป็นตัวการ) จะนำมาสงเคราะห์เทียบเคียงกันไม่ได้กับ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448เรื่องละเมิด ซึ่งมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้ที่จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
สิทธิเรียกร้องของโจทก์เกิดขึ้นโดยตัวแทนของจำเลยไปซื้อเครื่องยนต์จากโจทก์และตัวแทนของจำเลยตกลงจะชำระหนี้ให้ต่อมาไม่มีการชำระหนี้เมื่อเกิดผิดนัดขึ้นเมื่อใด ก็เกิดสิทธิเรียกร้องที่โจทก์ อาจบังคับแก่จำเลยได้ตั้งแต่นั้นมามิใช่ว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์จะเพิ่งมาตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาคดีระหว่างโจทก์กับตัวแทนของจำเลยในเรื่องหนี้สินรายเดียวกันนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ แม้โฉนดยังมิได้เปลี่ยนชื่อ
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดแก่กันได้มอบที่ดินและโฉนดให้ผู้ซื้อยึดถือครอบครองแล้ว ฝ่ายผู้ซื้อก็ชำระราคาแล้ว สัญญาว่าจะไปโอนทะเบียนกันภายใน 1 เดือน แต่แล้วก็ไม่ได้ไปโอนกัน ฝ่ายผู้ซื้ก็คงครอบครอง
ที่ดินโดยเจตนาเป็นเจ้าของด้วยความสงบแลเปิดเผยมาถึง 24 ปี ดังนี้ ฝ่ายผู้ซื้อขายกันนี้ แล้ว ฉะนั้นแม้ภายหลังผู้ซื้อและผู้ขายได้ถึงแก่กรรมทั้งสองฝ่าย ทายาทของผู้ซื้อก็มีสิทธิฟ้องให้ถอนชื่อในโฉนดโอนทะเบียนใส่ชื่อทายาทผู้ซื้อได้ ไม่ใช่เรื่องขาดอายุความและสิทธิเรียกร้องตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 163, 164, 169
ที่ดินโดยเจตนาเป็นเจ้าของด้วยความสงบแลเปิดเผยมาถึง 24 ปี ดังนี้ ฝ่ายผู้ซื้อขายกันนี้ แล้ว ฉะนั้นแม้ภายหลังผู้ซื้อและผู้ขายได้ถึงแก่กรรมทั้งสองฝ่าย ทายาทของผู้ซื้อก็มีสิทธิฟ้องให้ถอนชื่อในโฉนดโอนทะเบียนใส่ชื่อทายาทผู้ซื้อได้ ไม่ใช่เรื่องขาดอายุความและสิทธิเรียกร้องตามป.ม.แพ่งฯมาตรา 163, 164, 169
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์หลังสัญญาซื้อขาย
ซื้อขายที่ดินมีโฉนดแก่กันได้มอบที่ดินและโฉนดให้ผู้ซื้อยึดถือครอบครองแล้ว ฝ่ายผู้ซื้อก็ชำระราคาแล้ว สัญญาว่าจะไปโอนทะเบียนกันภายใน 1 เดือน แต่แล้วก็ไม่ได้ไปโอนกัน ฝ่ายผู้ซื้อก็คงครอบครองที่ดินโดยเจตนาเป็นเจ้าของด้วยความสงบและเปิดเผยมาถึง 24 ปี ดังนี้ฝ่ายผู้ซื้อย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ซื้อขายกันนี้แล้ว ฉะนั้นแม้ภายหลังผู้ซื้อและผู้ขายได้ถึงแก่กรรมลงทั้งสองฝ่าย ทายาทของผู้ซื้อก็มีสิทธิฟ้องขอให้ถอนชื่อในโฉนดโอนทะเบียนใส่ชื่อทายาทผู้ซื้อ ได้ ไม่ใช่เรื่องขาดอายุความและสิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163,164,169
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1196/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนขายฝาก แม้ฟ้องหลังกำหนด แต่โจทก์ไม่ยอมให้ไถ่ ถือเป็นผิดสัญญา
จำเลยขายฝากที่สวนกับบ้านเรือนไว้กับโจทก์ และทำสัญญาเช่าทรัพย์นั้นจากโจทก์ โจทก์มาฟ้องว่า บัดนี้พ้นกำหนดไถ่ถอนแล้วขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยต่อสู้ว่าได้ไปไถ่ถอนแล้วโจทก์ไม่ยอม จึงฟ้องแย้งขอให้โจทก์รับไถ่ถอนศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อจะครบกำหนดสัญญา จำเลยได้ไปขอไถ่ถอนแต่โจทก์ไม่ยอมให้ไถ่โดยจะขอเงินเพิ่มขึ้น แต่ขณะที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้รับไถ่ถอนนี้เกินกำหนดเวลาในสัญญาขายฝากแล้ว ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยผู้ขายฝากได้ไปขอไถ่ตามกำหนดในสัญญาแล้ว โจทก์ต้องยอมให้ไถ่ ถ้าไม่ยอมโจทก์ก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยย่อมฟ้องแย้งขอให้บังคับให้รับไถ่ตามสัญญาได้ คดีนี้รูปคดีไม่เหมือนกับฎีกาที่ 185/2491 เพราะคดีนั้น ผู้ขายฝากไปขอไถ่ ผู้ซื้อฝากขอผัด ผู้ขายฝากก็ยอม ซึ่งจะถือเป็นกรณีผู้ซื้อฝากผิดสัญญาไม่ยอมให้ไถ่ไม่ได้ เมื่อผู้ขายฝากยอมให้เวลาใช้สิทธิไถ่ถอนพ้นไปจากกำหนดแล้ว ก็ต้องรับสนองในการนั้น จึงไถ่ไม่ได้จะถือว่า ได้ตกลงยืดเวลาไถ่ถอนกันไปก็ไม่ได้ เพราะขัดกับมาตรา496(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16/2492)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกทรัพย์จำนำ: เริ่มนับเมื่อขอชำระหนี้
การฟ้องร้องคดีแพ่งย่อมอยู่ภายใต้บังคับแห่งอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกทรัพย์จำนำ: เริ่มนับเมื่อผู้จำนำขอชำระหนี้ ไม่ใช่แค่วันทำสัญญา
การฟ้องร้องคดีแพ่งย่อมอยู่ภายใต้บังคับแห่งอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความประชุมใหญ่ครั้งที่5/2490
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ก็ต้องอยู่ภายในอายุความ
การฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำนำคืน ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้จำนำขอชำระหนี้ ถ้ายังไม่ขอชำระหนี้ ก็ยังไม่เริ่มนับอายุความประชุมใหญ่ครั้งที่5/2490
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความลาภมิควน การซื้อขายโมคะ และการเริ่มนับอายุความ
สิทธิเรียกทรัพย์คืนที่กระทำเพื่อชำระหนี้ในนิติกรรมที่เเปนโมคะนั้น ย่อมเกิดขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายหนึ่งได้รับ
ซื้อขายที่ดินทำกันเอง ผู้ซื้อฟ้องบังคับตามสัญญา แต่ถูกสาลยกฟ้อง ผู้ซื้อจึงมาฟ้องเรียกราคาคืนถานลาภมิควนได้นั้น ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่วันผู้ซื้อว่าตนมีสิทธิเรียกคืน ไม่ใช่เริ่มนับอายุความตั้งแต่วันที่คดีก่อนถึงที่สุด
เมื่อมีกดหมายบัญญัติว่าการซื้อขายที่มิได้ทำต่อเจ้าพนักงานเปนโมคะแล้วก็ต้องถือว่าบุคคลรู้บทบัญญัตินั้น ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงพรีติการณ์พิเสสเฉพาะตัว
เรื่องใช้สิทธิเลิกสัญญาอาดนับอายุความ นับแต่วันมีคำพิพากสาให้เลิกสัญญาต่อกัน
ซื้อขายที่ดินทำกันเอง ผู้ซื้อฟ้องบังคับตามสัญญา แต่ถูกสาลยกฟ้อง ผู้ซื้อจึงมาฟ้องเรียกราคาคืนถานลาภมิควนได้นั้น ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่วันผู้ซื้อว่าตนมีสิทธิเรียกคืน ไม่ใช่เริ่มนับอายุความตั้งแต่วันที่คดีก่อนถึงที่สุด
เมื่อมีกดหมายบัญญัติว่าการซื้อขายที่มิได้ทำต่อเจ้าพนักงานเปนโมคะแล้วก็ต้องถือว่าบุคคลรู้บทบัญญัตินั้น ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงพรีติการณ์พิเสสเฉพาะตัว
เรื่องใช้สิทธิเลิกสัญญาอาดนับอายุความ นับแต่วันมีคำพิพากสาให้เลิกสัญญาต่อกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความเรียกทรัพย์คืนจากนิติกรรมโมฆะ เริ่มนับจากวันที่รู้สิทธิ ไม่ใช่วันที่คดีถึงที่สุด
สิทธิเรียกทรัพย์คืนที่กระทำเพื่อชำระหนี้ในนิติกรรมที่เป็นโมฆะนั้นย่อมเกิดขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายหนึ่งได้รับ ซื้อขายที่ดินทำกันเอง ผู้ซื้อฟ้องขอบังคับตามสัญญาแต่ถูกศาลยกฟ้อง ผู้ซื้อจึงมาฟ้องเรียกราคาคืนฐานลาภมิควรได้นั้น ต้องเริ่มนับอายุความตั้งแต่วันผู้ซื้อว่าตนมีสิทธิเรียกคืน ไม่ใช่เริ่มนับอายุความตั้งแต่วันที่คดีก่อนถึงที่สุด เมื่อมีกฎหมายบัญญัติว่าการซื้อขายที่มิได้ทำต่อเจ้าพนักงานเป็นโมฆะแล้วก็ต้องถือว่าบุคคลรู้บทบัญญัตินั้น ผู้ใดอ้างว่าไม่รู้จะต้องแสดงพฤติการณ์พิเศษเฉพาะตัว เรื่องใช้สิทธิเลิกสัญญาอาจนับอายุความ นับแต่วันมีคำพิพากษาให้เลิกสัญญาต่อกัน