พบผลลัพธ์ทั้งหมด 151 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงความคิดเห็นติเตียนเจ้าพนักงานโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
แม้ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวจะมีความหมายเป็นการหมิ่นประมาทผู้ที่เป็นเจ้าพนักงานถ้าเป็นการกล่าวแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในการสรรเสริญและติเตียนบุคคล ตามอาญา ม.283(3) แล้วจำเลยไม่ต้องรับโทษฐานหมิ่นประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 465/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีเหรียญกระสาปน์เกินกำหนดตามกฎหมาย เงินเกินกำหนดไม่สามารถริบได้
มีเหรียญกระสาปน์ไว้ในครอบครองมากเกินกว่าที่ ก.ม.อนุญาตให้มีได้ ถึงแม้จำเลยจะมีผิดตาม พ.ร.บ.เงินตราในภาวะฉุกเฉิน พ.ศ.2484 แต่สตางค์ของกลางริบไม่ได้เพราะไม่มี ก.ม.ให้ริบและไม่ต้องด้วยอาญา ม.27,28
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงกฎหมายระหว่างการพิจารณาคดี และการใช้กฎหมายที่เบาที่สุด
ซึ่งเป็นกฎหมายใช้ขณะจำเลยกระทำผิดบัญญัติ "ให้ริบของซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดนั้น" แต่พ.ร.บ.ควบคุมยานพาหนะทางน้ำ ฯลฯ 2488 ม.12 ซึ่งใช้ขณะพิจารณาคดีโทษให้ริบทรัพย์ไม่มี ต้องใช้กฎหมายที่มีโทษเบาคือไม่ริบเรือของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์ช่วงภัยอากาศ: ศาลใช้กฎหมายปัจจุบันที่มีโทษเบากว่า แม้ความผิดเกิดก่อน
ยักยอกทรัพย์ในขณะมีสัญญาณภัยทางอากาศในขณะที่ใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองทรัพย์สินของประชาชน พ.ศ.2487 แต่เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลสูงเป็นเวลาใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองทรัพย์สินของประชาชน พ.ศ.2488 ศาลสูงต้องลงโทษจำเลยตามกฎหมายฉะบับหลังซึ่งมีโทษเบากว่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 462/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาขาย/จะขายอสังหาริมทรัพย์ของบุตรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล และการคาดเห็นความเสียหายพิเศษ
บิดาจะเอาที่ดินของบุตร์ไปทำสัญญาขายหรือทำสัญญาจะขาย โดยไม่รับอนุญาตจากศาลไม่ได้
ในกรณีผิดสัญญาซื้อขายผู้ซื้ออ้างว่าจะต้องเสียเบี้ยปรับในการไปทำสัญญาขายให้ผู้อื่นและตนขาดกำไรนั้น ถือว่าเป็นค่าเสียหายพิเศษตาม ป.ม. แพ่งฯ ม.222 วรรค 2 ผู้ขายต้องคาดเห็นความเสียหายนั้นจึงจะต้องรับผิด
ในกรณีผิดสัญญาซื้อขายผู้ซื้ออ้างว่าจะต้องเสียเบี้ยปรับในการไปทำสัญญาขายให้ผู้อื่นและตนขาดกำไรนั้น ถือว่าเป็นค่าเสียหายพิเศษตาม ป.ม. แพ่งฯ ม.222 วรรค 2 ผู้ขายต้องคาดเห็นความเสียหายนั้นจึงจะต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 461/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขีดฆ่าอากรแสตมป์ด้วยเส้นขีดคร่อม แม้ไม่มีวันเดือนปี ก็ถือเป็นการขีดฆ่าที่ถูกต้องตามกฎหมาย
การขีดฆ่าอากรแสตมป์โดยเพียงแต่ลงเส้นขีดคร่อมมิให้อากรแสตมป์ใช้การได้ต่อไป ก็รับฟังเป็นพะยานหลักฐานได้
ปัญหาว่า การขีดฆ่าอากรมแสตมป์จะถูกต้องใช้บังคับได้หรือไม่นั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้และไม่มีอุทธรณ์ก็ตาม ศาลอุทธรณ์ย่อมยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
อ้างฎีกา +/2487
ปัญหาว่า การขีดฆ่าอากรมแสตมป์จะถูกต้องใช้บังคับได้หรือไม่นั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นต่อสู้และไม่มีอุทธรณ์ก็ตาม ศาลอุทธรณ์ย่อมยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
อ้างฎีกา +/2487
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองไม้ที่ลอยมากับน้ำ ไม่ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ หากไม่พิสูจน์ได้ว่ายังอยู่ในความยึดถือของเจ้าของ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักไม้ของกรมป่าไม้ จำเลยรับว่าได้เก็บไม้ซึ่งไหลลอยมาและขนเอาไปเลื่อยจริง โดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งรู้ว่าเป็นไม้ที่ใช้ในราชการกรมป่าไม้ เพราะมีดวงตราก็ดี จำเลยไม่มีผิดฐานลักทรัพย์ เพราะจำเลยไม่ได้รับว่าไม้ยังอยู่ในความยึดถือของเจ้าทรัพย์ และได้เก็บเอาไปโดยเจตนาทุจริต คงผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ม.43,47 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 459/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุปการะความผิดทางอาญา: การกระทำหลังสำเร็จความผิด ไม่ถือเป็นสมรู้ร่วมคิด
แจวเรือส่งผู้ที่มีสุราโดยซื้อมาผิดกฎหมายนั้น ไม่มีผิดฐานสมรู้ เพราะการอุปการะเพิ่งเกิดเมื่อตัวการกระทำผิดสำเร็จบริบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่านายหน้าแม้ไม่ได้ชี้ช่องตรง แต่เชื่อมโยงกับการเสนอขายทำให้เกิดสัญญาได้
โจทก์ได้เป็นนายหน้าไปเสนอขายเครื่องจักร์ของจำเลยต่อกระทรวงอุสาหกรรม ๆ ไม่ต้องการต่อมากรมเกษตร์ได้ทำสัญญาซื้อเครื่องจักร์รายนี้จากจำเลย แม้โจทก์จะไม่ได้เป็นผู้ชี้ช่องให้กรมเกษตร์ซื้อเครื่องจักร์รายนี้โดยตรงก็ดี แต่ที่กรมเกษตร์ทราบว่าจำเลยจะขายก็เนื่องมาจากโจทก์ไปเสนอขายทางกระทรวงอุสาหกรรมดังนี้ นับว่าโจทก์เป็นผู้ชี้ช่องให้เข้าทำสัญญากัน โจทก์มีสิทธิได้รับค่านายหน้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องความผิดฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ ต้องระบุองค์ความผิดครบถ้วน
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยกับพวกสมคบกันบังอาจมีอาวุธปืน มีดและไม้ขึ้นไปบนเรือนนายจันทร์ แล้วจับกุมมือนายจันทร์ นางปีกุมไว้ แล้วพวกจำเลยจึงเข้าทำการเก็บเอาทรัพย์ของนายจันทร์นางปีไปหลายอย่างคำบรรยายฟ้องเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการลักทรัพย์ ชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์