คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 221

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 288 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3225/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นใหม่ที่ไม่ได้ยกขึ้นในศาลอุทธรณ์ แม้ได้รับอนุญาตให้ฎีกา และยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ไม่รอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดแต่โทษจำคุกรอการลงโทษโจทก์ร่วมฝ่ายเดียวอุทธรณ์ไม่ให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นไม่รอการลงโทษ จำเลยฎีกาว่าพยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันและโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหาย ล้วนเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้อุทธรณ์คัดค้าน เพิ่งมายกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงเป็นข้อที่มิได้ว่ากันมาในศาลอุทธรณ์แม้จำเลยจะได้รับอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานชี้แจงการก่อสร้างผิดกฎหมาย ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท หากสุจริตและปฏิบัติหน้าที่
โจทก์ก่อสร้างตลาดผิดจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตและยังก่อสร้างต่อไปโดยไม่ขอต่ออายุใบอนุญาต จำเลยซึ่งเป็นหัวหน้าเขตให้โจทก์ปฏิบัติการให้ถูกต้องโจทก์ก็เพิกเฉย การที่จำเลยใช้เครื่องขยายเสียงพูดกับคนงานของโจทก์บริเวณที่ทำการก่อสร้างว่า "งานบริษัทนี้ (หมายถึงบริษัทโจทก์) พวกคุณไม่ต้องมาทำอีกต่อไปแล้วพวกคุณไม่ต้องมาอยู่คอย เพราะคอยแค่ไหนก็ไม่สามารถจะทำได้ พวกคุณไปทำงานที่อื่นได้แล้ว บริษัทอื่นที่ดีกว่านี้ยังมีอีกมาก บริษัทเลว ๆ อย่างนี้หากพวกคุณขืนอยู่คอยต่อไปพวกคุณก็อดตาย ขณะนี้ผู้จัดการบริษัทนี้ก็ได้หลบหนีไปแล้วและบริษัทนี้ก็ไม่มีใบอนุญาตด้วย" เป็นการกล่าวเพื่อชี้แจงให้คนงานทราบว่าการก่อสร้างผิดแบบแปลนและใบอนุญาตหมดอายุ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายคนงานอาจมีความผิดด้วย ขอให้คนงานหยุดก่อสร้างและอย่ารอทำงานเพราะกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้องก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน คำกล่าวเช่นนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในฐานะที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ แม้การใช้ถ้อยคำจะไม่สมควรและเกินเลยไปบ้างก็ยังไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
หนังสือรับรองของอธิบดีกรมอัยการที่จำเลยยื่นพร้อมฎีกาเป็นหลักฐานเช่นเดียวกับการที่อธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกา ถือได้ว่าเป็นการรับรองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1661/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานกล่าวความจริงตามหน้าที่ แม้ใช้ถ้อยคำไม่สมควร ไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท
หนังสือรับรองของอธิบดีกรมอัยการที่จำเลยยื่นพร้อมฎีกาเป็นหลักฐานเช่นเดียวกับการที่อธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาถือได้ว่าเป็นการรับรองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 แล้ว โจทก์ก่อสร้างตลาดผิดจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตและยังก่อสร้าง ต่อไปโดยไม่ขอต่ออายุใบอนุญาต จำเลยซึ่งเป็นหัวหน้าเขตให้ โจทก์ปฏิบัติการให้ถูกต้อง โจทก์ก็เพิกเฉย การที่จำเลยใช้เครื่องขยายเสียงพูดกับคนงานของโจทก์บริเวณที่ทำการก่อสร้างว่า"งานบริษัทนี้ (หมายถึงบริษัทโจทก์) พวกคุณไม่ต้องมาทำอีกต่อไปแล้ว พวกคุณไม่ต้องมาอยู่คอยเพราะคอยแค่ไหนก็ไม่สามารถจะทำได้ พวกคุณไปทำงานที่อื่นได้แล้วบริษัทอื่นที่ดีกว่านี้ยังมีอีกมาบริษัทเลว ๆ อย่างนี้หากพวกคุณขืนอยู่คอยต่อไปพวกคุณก็อดตายขณะนี้ผู้จัดการบริษัทนี้ก็ได้หลบหนีไปแล้วและบริษัทนี้ก็ไม่มีใบอนุญาตด้วย" เป็นการกล่าวเพื่อชี้แจงให้คนงานทราบว่าการก่อสร้าง ผิดแบบแปลนและใบอนุญาตหมดอายุ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย คนงานอาจมีความผิดด้วย ขอให้คนงานหยุดก่อสร้างและอย่ารอทำงานเพราะกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้องก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน คำกล่าวเช่นนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตในฐานะที่จำเลยเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่ แม้การใช้ถ้อยคำจะไม่สมควรและเกินเลยไปบ้างก็ยังไม่เป็นความผิดฐานหมิ่น ประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5582/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตฎีกาต้องระบุปัญหาสำคัญ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยหากคำสั่งไม่ชัดเจน
การที่ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นมีคำสั่งในฎีกาของจำเลยที่ขอให้รับฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงว่า "พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยมีเหตุสมควรที่จะได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา จึงรับฎีกาของจำเลยสำเนาให้โจทก์" นั้น ยังถือไม่ได้ว่าได้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะคำสั่งดังกล่าวมิได้มีข้อความใดที่แสดงว่าข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3152/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง และการลดโทษโดยคำนึงถึงเหตุพิเศษ
คำอนุญาตให้ฎีกาของผู้พิพากษาศาลชั้นต้นว่า 'จำเลยเป็นข้าราชการ มีปัญหาทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายควรศาลสูงจะได้พิจารณา จึงรับรองให้ฎีกาข้อเท็จจริงได้ด้วย' นั้น ไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นเห็นว่าฎีกาข้อใดเป็นปัญหาข้อเท็จจริงอันเป็นปัญหาสำคัญควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาต ให้ฎีกา จึงเป็นคำอนุญาตที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกท้องสำนวนว่าจำเลยมีเจตนาในการกระทำผิด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยพยานหลักฐานนอกไปจากที่ปรากฏในท้องสำนวน หากแต่ยกเอาถ้อยคำของพยานโจทก์และพยานจำเลยขึ้นมาประกอบเป็นข้อวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามฟ้อง ฎีกาของจำเลยซึ่งเป็นเรื่องจำเลยเห็นควรเชื่อตามพยานหลักฐานของจำเลย จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง รวมทั้งฎีกาของจำเลยที่ว่า ตามพฤติการณ์แห่งคดีสมควรให้รอการลงโทษให้แก่จำเลย เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงเช่นกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3152/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริงและการแก้ไขโทษลดลง
คำอนุญาตให้ฎีกาของผู้พิพากษาศาลชั้นต้นว่า 'จำเลยเป็นข้าราชการ มีปัญหาทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายควรศาลสูงจะได้พิจารณา จึงรับรองให้ฎีกาข้อเท็จจริงได้ด้วย' นั้น ไม่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นเห็นว่าฎีกาข้อใดเป็นปัญหาข้อเท็จจริงอันเป็นปัญหาสำคัญควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา จึงเป็นคำอนุญาตที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยนอกท้องสำนวนว่าจำเลยมีเจตนาในการกระทำผิด เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยพยานหลักฐานนอกไปจากที่ปรากฏในท้องสำนวน หากแต่ยกเอาถ้อยคำของพยานโจทก์และพยานจำเลยขึ้นมาประกอบเป็นข้อวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามฟ้อง ฎีกาของจำเลยซึ่งเป็นเรื่องจำเลยเห็นควรเชื่อตามพยานหลักฐานของจำเลยจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง รวมทั้งฎีกาของจำเลยที่ว่าตามพฤติการณ์แห่งคดีสมควรให้รอการลงโทษให้แก่จำเลย เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงเช่นกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองฎีกาต้องระบุปัญหาข้อเท็จจริงสำคัญ การรับรองลอยๆ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองให้จำเลยฎีกาว่า"ฎีกาของจำเลยทั้งสองมีเหตุอันควรฎีกาในข้อเท็จจริงได้ จึงรับรองให้ฎีกา" คำรับรองดังกล่าวไม่ปรากฏข้อความว่าได้พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นข้อใด เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูง สุดและอนุญาตให้ฎีกาจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงโดยชอบด้วยกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1352/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองฎีกาที่ไม่ชัดเจนปัญหาสำคัญ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองให้จำเลยฎีกาว่า 'ฎีกาของจำเลยทั้งสองมีเหตุอันควรฎีกาในข้อเท็จจริงได้ จึงรับรองให้ฎีกา' คำรับรองดังกล่าวไม่ปรากฏข้อความว่าได้พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นข้อใดเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด และอนุญาตให้ฎีกาจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงโดยชอบด้วยกฎหมาย.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริงและการอนุญาตฎีกาที่ไม่ชอบตามกฎหมาย
คดีซึ่งต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น แม้ฎีกาของจำเลยจะมีผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา หากผู้พิพากษาที่อนุญาตให้ฎีกา มิได้เป็นผู้พิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้น การอนุญาตให้ฎีกาดังกล่าวก็ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ศาลฎีกาไม่รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริงและการอนุญาตฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีซึ่งต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้น แม้ฎีกาของจำเลยจะมีผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา หากผู้พิพากษาที่อนุญาตให้ฎีกา มิได้เป็นผู้พิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้น การอนุญาตให้ฎีกาดังกล่าวก็ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ศาลฎีกาไม่รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณา.
of 29