คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.อ. ม. 221

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 288 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักขังแทนค่าปรับเกินหนึ่งปีต้องมีคำสั่งชัดเจน การพิพากษาเพิ่มโทษโดยโจทก์มิได้อุทธรณ์เป็นเหตุต้องห้าม
การกักขังแทนค่าปรับในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไป ศาลมีอำนาจให้กักขังเกินกว่าหนึ่งปีแต่ไม่เกินสองปีได้แต่ศาลจะต้องสั่งไว้ให้ชัดแจ้งหากศาลไม่ได้สั่งไว้โดยชัดแจ้งก็จะกักขังเกินกำหนดหนึ่งปีไม่ได้
ผู้พิพากษาในศาลชั้นต้นซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาสั่งในคำร้องขอให้รับฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงว่า"พิเคราะห์แล้วอนุญาตให้รับเป็นฎีกา สำเนาอีกฝ่ายแก้" คำสั่งดังกล่าวถือไม่ได้ว่าได้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในคำสั่งมิได้แสดงว่ามีข้อความใดที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลฎีกาวินิจฉัยและอนุญาตให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 221
พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 กำหนดให้ปรับเป็นสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วการปรับจึงต้องปรับเป็นสี่เท่าของราคาของและค่าอากรรวมกันหาใช่ปรับสี่เท่าเฉพาะราคาของอย่างเดียวแล้วบวกกับค่าอากรไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกักขังแทนค่าปรับต้องมีคำสั่งชัดเจน หากศาลไม่สั่งกักขังเกินหนึ่งปี แม้ปรับเกินสองหมื่นบาท และการคำนวณค่าปรับตามกฎหมายศุลกากร
การกักขังแทนค่าปรับในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไป ศาลมีอำนาจให้กักขังเกินกว่าหนึ่งปีแต่ไม่เกินสองปีได้แต่ศาลจะต้องสั่งไว้ให้ชัดแจ้งหากศาลไม่ได้สั่งไว้โดยชัดแจ้งก็จะกักขังเกินกำหนดหนึ่งปีไม่ได้
ผู้พิพากษาในศาลชั้นต้นซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาสั่งในคำร้องขอให้รับฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงว่า'พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้รับเป็นฎีกา สำเนาอีกฝ่ายแก้' คำสั่งดังกล่าวถือไม่ได้ว่าได้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในคำสั่งมิได้แสดงว่ามีข้อความใดที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลฎีกาวินิจฉัยและอนุญาตให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 กำหนดให้ปรับเป็นสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วการปรับจึงต้องปรับเป็นสี่เท่าของราคาของและค่าอากรรวมกันหาใช่ปรับสี่เท่าเฉพาะราคาของอย่างเดียวแล้วบวกกับค่าอากรไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองฎีกาต้องมีเหตุผลว่าปัญหาสำคัญ การรับรองโดยเห็นว่าไม่สำคัญแต่เห็นควรพิจารณา ไม่ถือว่าอนุญาตฎีกา
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ ผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นรับรองว่า "เห็นว่าข้อที่ฎีกาไม่ใช่ปัญหาที่สำคัญ แต่เห็นว่าควรได้รับการพิจารณาวินิจฉัยจากศาลฎีกา จึงรับรองให้" ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1456/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รอการลงโทษคดีพนัน: พิจารณาจากประวัติผู้ต้องหา ฐานะครอบครัว และความผิดไม่ร้ายแรง
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยในคดีการพนัน 3 เดือน ปรับ 1,500 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 1,500 บาท ไม่รอการลงโทษ แต่ให้ลงโทษกักขังแทนโทษจำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 1,500 บาท จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษโดยผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นเห็นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาพิพากษาแก้ ให้รอการลงโทษจำคุกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออนุญาตฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง: จำเลยต้องร้องต่อศาลอุทธรณ์เอง
การที่จะให้ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีในศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 221 นั้น เป็นหน้าที่ของผู้ฎีกาจะไปร้องขอยังศาลอุทธรณ์เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 583/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการรับรองฎีกา: ผู้ฎีกามีหน้าที่ขวนขวายเอง ศาลไม่จำต้องส่งฎีกาให้ผู้พิพากษาในชั้นอุทธรณ์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 มิได้บัญญัติ ให้ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ต้องส่งฎีกาไปให้ผู้พิพากษาซึ่ง พิจารณาพิพากษาคดีในชั้นอุทธรณ์รับรองฎีกา การรับรองและ การอนุญาตให้ฎีกาเป็นประโยชน์แก่ผู้ฎีกาเองก็ควรที่ผู้ฎีกาจะขวนขวายให้มีการรับรองและอนุญาตเอง การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่รับและสั่งยกคำร้องของโจทก์ร่วมจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2646/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากคำรับรองไม่เป็นไปตามมาตรา 221 ป.วิ.อาญา เหตุผลไม่ชัดเจนว่าเป็นปัญหาสำคัญ
ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกน้อยลงและรอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า "จำเลยถูกพิพากาษลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษชั้นต่ำให้สูงจากเดิมมาก สมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปจึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้" เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2646/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากคำรับรองของผู้พิพากษาไม่เป็นไปตามเงื่อนไขมาตรา 221 ป.วิ.อาญา
ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกน้อยลงและรอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า 'จำเลยถูกพิพากษาลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษขั้นต่ำให้สูงจากเดิมมากสมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป จึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้' เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด และอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 685/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจอนุญาตฎีกา: อำนาจเด็ดขาดของผู้พิพากษา vs. การพิจารณาของศาลฎีกา
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ที่ว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด นั้นกฎหมายมอบให้เป็นดุลพินิจอันเด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้มีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกา(วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2523)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจอนุญาตฎีกาของผู้พิพากษา: ดุลยพินิจเด็ดขาดตามมาตรา 221 ว.พ.พ.
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221
กฎหมายมอบให้เป็นดุลยพินิจอันเด็ดขาดของผู้พิพากษาผู้มีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกา
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2523)
of 29