พบผลลัพธ์ทั้งหมด 288 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159-1160/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตฎีกาในคดีอาญา: ศาลฎีกาพิจารณาจากเหตุผลที่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นปัญหาสำคัญ
ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งพิจารณาคดีได้อนุญาตให้จำเลยฎีกาในคดีอาญาโดยใช้คำว่า เป็นคดีมีพฤติการณืซับซ้อนหลายประการอันเป็นปัญหาสำคัญควรขึ้นไปสู่ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดอีกชั้นหนึ่ง จึงอนุญาตให้ฎีกาดังนี้ แม้จะไม่ได้ใช้ถ้อยคำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 แต่ก็เข้าใจได้ว่าผู้อนุญาตให้ฎีกาเห็นว่า ข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลฎีกาวินิจฉัย จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 แล้ว
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 30/2504
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 30/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกาในคดีแพ่ง: การโต้เถียงข้อเท็จจริงเกินกรอบคำคู่ความ และข้อจำกัดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248
"ความเห็นแย้ง" ตามความในมาตรา 248 แห่ง ป.วิ. พ. หมายความถึงความเห็นแย้งเกี่ยวแก่ข้อเท็จจริง
ถ้ามีความเห็นแย้งเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความจะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงไม่ได้
ถ้ามีความเห็นแย้งเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความจะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 448/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฎีกาข้อเท็จจริง: การท้าคดีและการพิจารณาตามคำเบิกความพยาน
'ความเห็นแย้ง' ตามความในมาตรา 248 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หมายความถึงความเห็นแย้งเกี่ยวแก่ข้อเท็จจริง
ถ้ามีความเห็นแย้งเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความจะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงไม่ได้
ถ้ามีความเห็นแย้งเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความจะฎีกาเถียงข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยหากไม่ปฏิบัติตามวิธีพิจารณา
การที่จะเชื่อหรือฟังว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าเป็นข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยหากไม่ปฏิบัติตาม ป.วิ.อ. มาตรา 221
การที่จะเชื่อหรือฟังว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขออนุญาตฎีกาข้อเท็จจริงต้องยื่นก่อนหมดอายุฎีกา มิฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
การที่คู่ความจะขอรับคำอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 นั้น จะต้องยื่นคำขอเสียก่อนที่จะพ้นกำหนดอายุฎีกา ถ้าหากยื่นคำร้องขอภายหลังแม้จะได้รับอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ศาลฎีกาก็รับไว้วินิจฉัยไม่ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 7/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขออนุญาตฎีกาต้องยื่นภายในกำหนดอายุฎีกา หากยื่นหลังกำหนด แม้ได้รับอนุญาต ศาลฎีกาก็รับไว้วินิจฉัยไม่ได้
การที่คู่ความจะขอรับคำอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม วิ.อาญา ม.221 นั้น จะต้องยื่นคำขอเสียก่อนที่จะพ้นกำหนดอายุฎีกา ถ้าหากยื่นคำร้องขอภายหลังแม้จะได้รับอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ศาลฎีกาก็รับไว้วินิจฉัยไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2499)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1185/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์ฎีกาในคดีส่งตัวเด็กไปสถานฝึกอบรมตามกฎหมายเฉพาะ
การอนุญาตให้ฎีกาหรือรับรองฎีกาตาม ป.วิ.อาญามาตรา 221 นั้นจะต้องเป็นคดีที่มีปัญหาข้อเท็จจริงดั่งที่บัญญัติไว้ ในมาตรา 218, 219 และ 220
ฉะนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรม ซึ่งต้อง ห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาในเรื่องเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรมนี้ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้ง ศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 27 - 29 จำเลยย่อมฎีกาในปัญหาดังกล่าวไม่ได้ และแม้อธิบดีศาลคดี
เด็กและเยาวชนกลางจะอนุญาตให้ฎีกาได้ ก็ไม่เป็นฎีกาที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้.
ฉะนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรม ซึ่งต้อง ห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาในเรื่องเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรมนี้ ตาม พ.ร.บ.จัดตั้ง ศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 27 - 29 จำเลยย่อมฎีกาในปัญหาดังกล่าวไม่ได้ และแม้อธิบดีศาลคดี
เด็กและเยาวชนกลางจะอนุญาตให้ฎีกาได้ ก็ไม่เป็นฎีกาที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1185/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อุทธรณ์ฎีกาในคดีเด็กและเยาวชน กรณีศาลอุทธรณ์เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลย
การอนุญาตให้ฎีกาหรือรับรองฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 นั้นจะต้องเป็นคดีที่มีปัญหาข้อเท็จจริงดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 218219 และ 220
ฉะนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรม ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาในเรื่องเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรมนี้ ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 มาตรา 27-29 จำเลยย่อมฎีกาในปัญหาดังกล่าวไม่ได้ และแม้อธิบดีศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางจะอนุญาตให้ฎีกาได้ ก็ไม่เป็นฎีกาที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้
ฉะนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรม ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ฎีกาในเรื่องเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรมนี้ ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 มาตรา 27-29 จำเลยย่อมฎีกาในปัญหาดังกล่าวไม่ได้ และแม้อธิบดีศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางจะอนุญาตให้ฎีกาได้ ก็ไม่เป็นฎีกาที่ศาลฎีกาจะรับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฎีกา: ดุลพินิจศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ที่แตกต่างกัน มิใช่เหตุรับฎีกา
คดีที่ห้ามฎีกา ผู้พิพากษาผู้พิจารณาในศาลชั้นต้นบันทึกมาในฎีกาว่า 'ศาลชั้นต้นลงโทษแต่ให้รอการลงโทษไว้ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกทันที จึงเป็นเรื่องดุลพินิจของศาลศาลชั้นต้นเห็นด้วยความเคารพและสุจริตใจว่า ชอบที่ศาลฎีกาจะได้ชี้ขาดเพื่อเป็นบรรทัดฐานทั้งศาลชั้นต้นก็เคยมีเรื่องศาลชั้นต้นให้รอการลงโทษ และศาลอุทธรณ์ลงโทษทันทีแต่ศาลฎีกาให้รอไว้ดังที่ผู้ฎีกาได้อ้างมานั้น จึงเห็นควรให้รับฎีกาไว้ เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาต่อไป' ดังนี้ มิได้แสดงว่าข้อความที่ตัดสินมาเป็นปัญหาสำคัญมิได้ แสดงว่า ผู้พิพากษาผู้พิจารณา อนุญาตให้ฎีกาศาลฎีกาจึงจะรับฎีกาไว้พิจารณา ไม่ได้