คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ม. 12

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5943/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากผู้พิพากษาลงนามคนเดียว ทำให้ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิจารณา
ศาลแขวงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี และปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และให้คุมความประพฤติจำเลยไว้ แต่มีผู้พิพากษาลงนามในคำพิพากษาเพียงคนเดียว เป็นกรณีที่ศาลแขวงมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 ประกอบมาตรา 25 (5) เพราะผู้พิพากษาคนเดียวจะพิพากษาลงโทษจำคุกเกินหกเดือน หรือปรับเกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งโทษจำคุกหรือปรับอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างเกินอัตราที่กล่าวแล้วไม่ได้ คำพิพากษาศาลแขวงจึงไม่ชอบด้วยบทกฎหมายดังกล่าว ซึ่งมีผลทำให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้
ปัญหาข้างต้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9/2548)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4702/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาด้วยวาจาต้องกระทำต่อหน้าศาล การยื่นเอกสารไม่ใช่การฟ้อง
ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 19 บัญญัติให้โจทก์อาจฟ้องด้วยวาจาหรือเป็นหนังสือก็ได้ หากจะฟ้องด้วยวาจาตามวรรคสองของบทบัญญัติดังกล่าวให้โจทก์ต้องแจ้งต่อศาลถึงชื่อโจทก์ ชื่อที่อยู่ และสัญชาติของจำเลย ฐานความผิด การกระทำที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิด ข้อเท็จจริง และรายละเอียดเกี่ยวกับเวลา สถานที่ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี และมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิด ซึ่งศาลจะบันทึกใจความไว้เป็นหลักฐานและให้คู่ความลงชื่อไว้ วิธีปฏิบัติดังกล่าวโจทก์จึงต้องมาศาล กล่าวฟ้องจำเลยต่อศาลด้วยวาจาให้ได้สาระดังกล่าว
การนำบันทึกการฟ้องคดีอาญาด้วยวาจามาเสนอต่อศาลชั้นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ของศาลได้ประทับตราพนักงานรับฟ้องไว้ โดยสภาพบันทึกดังกล่าวจึงไม่ใช่การฟ้องคดีอาญาต่อศาลด้วยวาจา แต่เป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานเพื่อจะฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาด้วยวาจา และเป็นความสะดวกที่ศาลจะบันทึกการฟ้องด้วยวาจาลงในแบบพิมพ์ของศาลได้รวดเร็วขึ้นเท่านั้น เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันดังกล่าวจึงไม่อาจมีการฟ้องคดีด้วยวาจาได้ ศาลจึงไม่อาจพิจารณาพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดได้ และจะพิพากษายกฟ้องก็ไม่ได้เพราะยังไม่มีฟ้อง แต่ต้องสั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2546 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างลูกจ้างกรรมการลูกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย กรณีความผิดทางอาญาจากการเดินโพยสลากกินรวบ
การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นนายจ้างของผู้คัดค้าน มอบเงินให้ อ. ไปล่อซื้อสลากกินรวบจากผู้คัดค้าน เป็นเพียงวิธีการแสวงหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์การกระทำผิดของผู้คัดค้าน มิใช่การป้ายสียัดเยียดความผิดให้ผู้คัดค้าน เพราะหาก ผู้คัดค้านมิได้เป็นผู้เดินโพยฝ่ายเจ้ามือเมื่อ อ. ไปขอซื้อสลากกินรวบจากผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านก็ต้องปฏิเสธไม่ขาย สลากกินรวบให้ ความผิดย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้ วิธีการล่อซื้อดังกล่าวมิได้ฝ่าฝืนกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน แม้เงินที่ใช้ซื้อสลากกินรวบจะเป็นเงินที่ใช้ล่อซื้อ เมื่อผู้คัดค้านรับเงินดังกล่าวไว้ในการขายสลากกินรวบ การกระทำของผู้คัดค้านก็เป็นความผิดฐานเล่นการพนันสลากกินรวบแล้ว
ผู้เดินโพยสลากกินรวบคือตัวแทนของเจ้ามือรับกินรับใช้ในการขายสลากกินรวบให้แก่ผู้ซื้อสลากกินรวบ ผู้เดินโพยจะได้ค่าตอบแทนจากการขายสลากกินรวบ ผู้เดินโพยจึงมีความผิดฐานเล่นการพนันสลากกินรวบ และความผิดดังกล่าวมีบทลงโทษทางอาญาตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 ประกอบมาตรา 12 การกระทำของผู้คัดค้านจึงฟังได้ว่าเป็นความผิดทางอาญาโดยไม่ต้องมีคำพิพากษาของศาลในคดีอาญาก่อน
ตามพ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 52 นายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างได้จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลแรงงานก่อน เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เลิกจ้างแล้วนายจ้างจึงจะเลิกจ้างได้ เมื่อผู้ร้อง(นายจ้าง)ได้รับอนุญาตจากศาลแรงงานกลางให้เลิกจ้างผู้คัดค้านซึ่งเป็นลูกจ้างและกรรมการลูกจ้างได้ ก็ต้องมีคำสั่งเลิกจ้างอีกครั้งหนึ่ง การที่ผู้ร้องจะจ่ายหรือไม่จ่ายค่าชดเชยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากผู้ร้องมีคำสั่งเลิกจ้างแล้ว ไม่สมควรจะมีคำสั่งเรื่องค่าชดเชยไว้ล่วงหน้าโดยยังไม่มีข้อพิพาทเกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2653/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องการพนันไม่เคลือบคลุม แม้ไม่ได้ระบุยอดเงิน ยอดเงินเป็นรายละเอียดที่สืบได้ในชั้นพิจารณา
ยอดเงินตามโพยมิใช่องค์ประกอบความผิดฐานจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบที่ต้องกล่าวมาในฟ้อง แต่เป็นรายละเอียดที่โจทก์นำสืบได้ในชั้นพิจารณา ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1762/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพนันทายผลฟุตบอล: ความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน และอำนาจศาลในการแก้ไขฐานความผิด
การเล่นอย่างใดที่เสี่ยงโชคให้เงินแก่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่งตามบัญชี ข. หมายเลข 16 ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ต้องมีลักษณะคล้ายกับการเล่นการพนันสลากกินแบ่งหรือสลากกินรวบซึ่งอยู่ในบัญชี ข. หมายเลขเดียวกันด้วย
จำเลยกับพวกร่วมกันเล่นการพนันทายผลฟุตบอล ซึ่งเป็นการเล่นที่เสี่ยงโชคให้เงินแก่ผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง อันเป็นการพนันประเภทต้องขออนุญาตตามบัญชี ข. หมายเลข 16 ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ แต่การพนันทายผลฟุตบอลไม่มีลักษณะคล้ายกับการเล่นการพนันสลากกินแบ่งหรือสลากกินรวบ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 4
พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 ทวิ วรรคสอง บัญญัติว่า "คำว่า "การเล่น" ในวรรคก่อนให้หมายความรวมตลอดถึงการทายและการทำนายด้วย" การเล่นพนันทายผลฟุตบอลเป็นการเล่นอื่นใดนอกจากที่กล่าวในมาตรา 4 และมิใช่การเล่นที่ระบุชื่อและเงื่อนไขไว้ในกฎกระทรวง จึงเป็นความผิดตามมาตรา 4 ทวิ
โจทก์บรรยายข้อเท็จจริงมาในฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันเล่นการพนันทายผลฟุตบอล พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และประสงค์ให้ลงโทษจำเลยจากการกระทำนั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำให้การรับสารภาพของจำเลยว่า จำเลยเล่นการพนันดังกล่าวจริง อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แม้โจทก์มิได้บรรยายว่า การเล่นพนันทายผลฟุตบอลเป็นการเล่นอื่นใดนอกจากที่กล่าวในมาตรา 4 ซึ่งมิได้ระบุชื่อและเงื่อนไขไว้ในกฎกระทรวง และอ้างบทมาตรา 4 ทวิ มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่มาตรา 4 ทวิ ไม่ใช่บทมาตราที่บัญญัติองค์ประกอบความผิดและความผิดตามมาตรา 4 ทวิ ก็มีบทลงโทษรวมอยู่ในมาตรา 12 ซึ่งโจทก์อ้างมาในคำขอท้ายฟ้องด้วย กรณีจึงเป็นเรื่องที่โจทก์อ้างฐานความผิดหรือบทมาตราผิด ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามฐานความผิดที่ถูกต้องได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคห้า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1307/2541 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิด พ.ร.บ.การพนัน ต้องมีเจตนาจัดให้มีการเล่นเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
การจัดให้มีการเล่นตามบัญชี ข. ท้าย พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 จะต้องเป็นการจัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งประโยชน์แก่ผู้จัด ผู้จัดจึงจะมีความผิด แม้ตามมาตรา 12 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษจะใช้ถ้อยคำว่าผู้จัดให้มีการเล่น...เท่านั้น ก็ย่อมหมายถึงผู้จัดให้มีการเล่นอันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 นั่นเอง
ข้อความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 วรรคสอง ที่ว่า จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่ผู้จัดโดยทางตรงหรือทางอ้อม เป็นองค์ประกอบความผิด เมื่อตามคำฟ้องของโจทก์ไม่ปรากฏข้อความว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นบิลเลียดและสนุกเกอร์ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการเล่นบิลเลียดขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 158 (5)ปัญหานี้แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้าง แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1307/2541

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดเล่นพนันต้องมีเจตนาแสวงหาผลประโยชน์ หากไม่มีเจตนาดังกล่าว แม้จัดให้มีการเล่น ก็ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
การจัดให้มีการเล่นตามบัญชี ข. ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 จะต้องเป็นการจัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งประโยชน์แก่ผู้จัด ผู้จัดจึงจะมีความผิดแม้ตามมาตรา 12 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษจะใช้ถ้อยคำว่าผู้จัดให้มีการเล่นเท่านั้น ก็ย่อมหมายถึงผู้จัดให้มีการเล่นอันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 นั่นเอง ข้อความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 วรรคสอง ที่ว่า จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่ผู้จัดโดยทางตรงหรือทางอ้อม เป็นองค์ประกอบความผิด เมื่อตามคำฟ้องของ โจทก์ไม่ปรากฎข้อความว่าจำเลยจัดให้มีการเล่นบิลเลียดและสนุกเกอร์ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการเล่นบิลเลียดขึ้นเพื่อเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนโดยทางตรงหรือทางอ้อมถือได้ว่าคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ปัญหานี้แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้าง แต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7854/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเดียวในการขายสลากกินรวบ: ความผิดฐานเจ้ามือรับกินรับใช้กรรมเดียว
แม้การจัดให้มีการเล่นการพนันเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและการเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ในการเล่นการพนันสลากกินรวบ อาจเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันก็ตาม แต่จำเลยนั่งขายสลากกินรวบที่บ้านพักของจำเลย เมื่อมีลูกค้ามาซื้อ จำเลยได้เขียนโพยสลากให้แก่ผู้ซื้อแล้วมอบโพยสลากให้ผู้ซื้อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสำเนาโพยสลากจำเลยเก็บไว้จนถูกเจ้าพนักงานจับกุมได้พร้อมเงินสดของกลาง 40 บาท ดังนี้ แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดทั้งฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ด้วยก็ตาม แต่จำเลยกระทำโดยมีเจตนาอันเดียวกันคือขายสลากกินรวบนั่นเองการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้เพียงกรรมเดียวมิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7854/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาอันเดียวกันในการขายสลากกินรวบ ความผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้กรรมเดียว
แม้การจัดให้มีการเล่นการพนันเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและการเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ในการเล่นการพนันสลากกินรวบ อาจเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันก็ตาม แต่จำเลยนั่งขายสลากกินรวบที่บ้านพักของจำเลย เมื่อมีลูกค้ามาซื้อ จำเลยได้เขียนโพยสลากให้แก่ผู้ซื้อแล้วมอบโพยสลากให้ผู้ซื้อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสำเนาโพยสลากจำเลยเก็บไว้จนถูกเจ้าพนักงานจับกุมได้พร้อมเงินสดของกลาง ดังนี้แม้การกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดทั้งฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แห่งตนและฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ด้วยก็ตามแต่จำเลยกระทำโดยมีเจตนาอันเดียวกันคือขายสลากกินรวบนั่นเอง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้เพียงกรรมเดียว มิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8344/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตู้เกมไฟฟ้าไม่ใช่เครื่องเล่นพนัน หากให้ความสนุกเพลิดเพลิน ไม่มีการแพ้ชนะหรือผลตอบแทน
เครื่องเล่นเกมไฟฟ้าที่เล่นคนเดียวก็ได้ หากผู้เล่นมีความสามารถหรือมีทักษะ ก็จะได้คะแนนดี แต่ผู้เล่นจะไม่ได้รับ ผลตอบแทนใด ๆ จากเครื่องเล่น คงได้รับความสนุกเพลิดเพลิน เท่านั้น แสดงว่า โดยสภาพของเครื่องเล่นนั้นเป็นการ ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแก่ผู้เล่น โดยผู้เล่นจะต้อง จ่ายค่าเล่นด้วยการหยอดเหรียญลงไปในตู้ แม้จะมีคะแนน ปรากฏบนจอภาพก็เป็นส่วนหนึ่งของการเล่นดังกล่าว โดยเป็นเพียงสิ่งที่แสดงถึงความสามารถหรือทักษะของผู้เล่น เท่านั้น จึงไม่เป็นเครื่องเล่นที่อยู่ในความหมายของกฎกระทรวง ฉบับที่ 23(พ.ศ. 2530) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ที่จะต้องขออนุญาตจัดให้มีการเล่นดังกล่าว
of 15