พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5874/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษปรับเพื่อเพิ่มโทษในความผิดซ้ำตาม พ.ร.บ.การพนัน การชำระค่าปรับถือเป็นการพ้นโทษ
วันพ้นโทษปรับนับแต่วันที่จำเลยชำระค่าปรับครบถ้วน จำเลยเคยต้องโทษปรับตามพระราชบัญญัติการพนัน พ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบ 3 ปี มากระทำผิดตามพระราชบัญญัติการพนันอีก ศาลวางโทษทั้งจำทั้งปรับในคดีหลังได้ ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478มาตรา 14 ทวิ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3287/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำคุกหรือปรับในความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน ศาลมีดุลพินิจลงโทษจำคุกได้ แม้กฎหมายบัญญัติโทษทั้งจำคุกและปรับ
คำว่าอีกโสดหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติการพนัน มาตรา 12 ข้อ 1และปรับด้วยพระราชบัญญัติการพนันไม่มีบทมาตราใดที่บัญญัติไว้มีความหมายว่า อีกสถานหนึ่ง เท่ากับกฎหมายบัญญัติให้ลงโทษจำคุกไม่ให้ศาลใช้ดุลพินิจที่จะวางโทษจำคุกสถานเดียวในเมื่อพระราชบัญญัตินั้นวางกำหนดโทษผู้กระทำความผิดทั้งจำคุกและปรับเมื่อไม่มีกฎหมายห้ามศาลย่อมอาศัยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 20ประกอบมาตรา 17 ซึ่งบัญญัติว่าบรรดาความผิดที่กฎหมายบัญญัติให้ลงโทษทั้งจำคุกและปรับด้วยนั้น ถ้าศาลเห็นสมควรจะลงแต่โทษจำคุกก็ได้ การที่ศาลลงโทษจำคุกจำเลยแต่สถานเดียวจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2421/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าสำนักพนันเล่นพนันเอง มีความผิดฐานเจ้าสำนักและฐานผู้เล่น เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
เมื่อจำเลยเป็นทั้งเจ้าสำนักผู้จัดให้มีการเล่นพนันขึ้นเพื่อนำมาซึ่ง ผลประโยชน์แห่งตน และร่วมเข้าเล่นพนันกับลูกค้าผู้เข้าเล่นด้วย ตาม ลักษณะหรือสภาพแห่งการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าวจึงสามารถแยกจากกันได้ เป็นการกระทำผิดต่างฐาน กันและมีเจตนาคนละอัน จำเลยย่อมมีความผิดฐาน เป็นเจ้าสำนักผู้จัดให้มีการเล่นพนันและฐาน เป็นผู้เล่นพนันอันเป็นความผิดหลายกรรมต่าง กัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2421/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานเจ้าสำนักพนันกับฐานผู้เล่นเป็นคนละกรรมกัน แม้จำเลยเป็นทั้งเจ้าสำนักและผู้เล่น
เมื่อจำเลยเป็นทั้งเจ้าสำนักผู้จัดให้มีการเล่นพนันขึ้นเพื่อนำมาซึ่ง ผลประโยชน์แห่งตน และร่วมเข้าเล่นพนันกับลูกค้าผู้เข้าเล่นด้วย ตามลักษณะหรือสภาพแห่งการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าวจึงสามารถแยกจากกันได้ เป็นการกระทำผิดต่างฐานกันและมีเจตนาคนละอัน จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นเจ้าสำนักผู้จัดให้มีการเล่นพนันและฐานเป็นผู้เล่นพนัน อันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1876/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษคดีพนัน: ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจลงโทษได้ แม้โจทก์มิได้นำสืบความร้ายแรง และไม่ต้องกล่าวถึงคำแก้ของจำเลยโดยละเอียด
การกระทำความผิดใด เป็นภัยร้ายแรงต่อ ส่วนรวมหรือไม่เป็นข้อเท็จจริงที่รู้กันอยู่ทั่วไป โจทก์มิต้องนำสืบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84(1) ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และสภาพความผิดดังกล่าว ศาลอาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยประกอบการพิจารณาลงโทษจำเลยได้ การที่ศาลอุทธรณ์ใช้ ดุลพินิจ กำหนดโทษจำคุกจำเลยเสียใหม่ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคำฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ตลอดจนคำแก้ อุทธรณ์ของจำเลยประกอบกันด้วย แล้ว ไม่จำเป็นที่ศาลอุทธรณ์จะต้อง หยิบยกเอาคำแก้อุทธรณ์ของจำเลยขึ้นมาว่ากล่าวให้ปรากฏรายละเอียดประการอื่นโดยเฉพาะ แต่ ประการใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดให้เล่นวีดีโอเกมเป็นการพนัน แม้ผู้เล่นไม่ได้เล่นพนันกันเอง และการฎีกาข้อเท็จจริงหลังรับสารภาพ
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 โดยจำเลยเก็บเงินจากผู้เข้าเล่นในอัตราชั่วโมงละ 10 บาท อันเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยผู้จัด โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว
เมื่อจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 เพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดยไม่จำต้องบรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า ผู้เล่นจะได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันหรือไม่ เพราะแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับจำเลยการที่จำเลยฎีกาว่าของกลางไม่ใช่เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
เมื่อจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 เพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน จำเลยย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดยไม่จำต้องบรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า ผู้เล่นจะได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันหรือไม่ เพราะแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับจำเลยการที่จำเลยฎีกาว่าของกลางไม่ใช่เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดให้เล่นวิดีโอเกมเป็นการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน แม้ไม่มีการเดิมพันทรัพย์สินโดยตรง การฎีกาข้อเท็จจริงหลังรับสารภาพต้องห้าม
ฟ้องว่า จำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 โดยจำเลยเก็บเงินจากผู้เข้าเล่นในอัตราชั่วโมงละ 10 บาท อันเป็นทางนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยผู้จัด โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ดังนี้ฟ้องของโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด อีกทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว เมื่อจำเลยเป็นผู้จัดให้มีการเล่นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกล(วี.ดี.โอ.เกม) อันเป็นการพนันตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28เพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่จำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจำเลยย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดยไม่จำต้องบรรยายฟ้องให้ปรากฏว่า ผู้เล่นจะได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกันหรือไม่ เพราะแม้ผู้เล่นจะไม่ได้เล่นพนันเอาทรัพย์สินกัน การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิด โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังว่าของกลางเป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษปรับจำเลยการที่จำเลยฎีกาว่าของกลางไม่ใช่เครื่องเล่นไฟฟ้าจักรกลตามบัญชี ข. ลำดับที่ 28 จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4474/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องการพนันสลากกินรวบ: ข้อเท็จจริงไม่ละเอียดแต่จำเลยรับสารภาพ ไม่ทำให้ฟ้องไม่ชอบ
ตามที่ศาลบันทึกการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์ประกอบกับบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่โจทก์ส่งต่อศาลได้ความว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2532 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นการเล่นการพนันสลากกินรวบงวดใด แต่จำเลยก็ให้การรับสารภาพตามฟ้อง แสดงว่าจำเลยย่อมเข้าใจข้อหาตามฟ้องแล้วมิได้หลงต่อสู้แต่ประการใด จึงหาทำให้ฟ้องของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4474/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องคดีการพนัน: แม้ระบุงวดไม่ได้ แต่จำเลยรับสารภาพ ย่อมเข้าใจข้อหา
ตามที่ศาลบันทึกการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์ประกอบกับบันทึกการฟ้องด้วยวาจาที่โจทก์ส่งต่อศาลได้ความว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม2532 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันเล่นการพนันสลากกินรวบ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยจำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นการเล่นการพนันสลากกินรวบงวดใด แต่จำเลยก็ให้การรับสารภาพตามฟ้อง แสดงว่าจำเลยย่อมเข้าใจข้อหาตามฟ้องแล้วมิได้หลงต่อสู้แต่ประการใด จึงหาทำให้ฟ้องของโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3737/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่ชัดเจนของฟ้องพนัน ทำให้ศาลลงโทษไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษายืนตามเดิม
คำฟ้องของโจทก์ที่บรรยายว่า จำเลยทั้งหมดกับพวกได้ร่วมกันเล่นการพนันป๊อกแปดเก้าหรือการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายป๊อก มีวิธีการเล่นซึ่งดัดแปลงมาจากการเล่นแปดเก้าอันระบุไว้ในบัญชี ก.อันดับที่ 5 และการเล่นป๊อกอันระบุไว้ในบัญชี ก. อันดับที่ 11ย่อมเป็นที่เข้าใจได้แล้วว่า จำเลยทั้งหมดกับพวกเข้าพนันในการเล่นอย่างเดียว โดยมีวิธีการเล่นที่พลิกแพลงนำเอาการเล่นแปดเก้ากับการเล่นป๊อกเข้ามารวมกัน แล้วเรียกชื่อใหม่ว่าป๊อกแปดเก้าจำเลยให้การรับสารภาพตลอดข้อหา แสดงว่าเข้าใจในวิธีการเล่นการพนันตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องแล้วเป็นอย่างดี คำฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม