พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1559/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาได้ หากมีหลักฐานสนับสนุนว่าเป็นการให้การโดยสมัครใจและเป็นความจริง
คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนใช้ยันจำเลยในชั้นพิจารณาของศาลได้ หากมีพยานหลักฐานประกอบฟังได้วว่าจำเลยให้การรับสารภาพโดยสมัครใจและตามความสัตย์จริง
โจทก์บรรยายในฟ้องว่า จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธลอยๆ และเมื่อโจทก์นำพนักงานสอบสวนเข้าเบิกความเป็นพยานโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้าง จำเลยก็ไม่ได้ถามค้านให้เห็นว่าจำเลยไม่เคยให้การรับสารภาพ คำให้การชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้างมิใช่ลายมือของจำเลย การที่จำเลยนำสืบในภายหลังว่าคำให้การชั้นสอบสวนนั้นไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย จึงเป็นการนำสืบเอาข้างเดียว ไม่มีน้ำหนัก
โจทก์บรรยายในฟ้องว่า จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธลอยๆ และเมื่อโจทก์นำพนักงานสอบสวนเข้าเบิกความเป็นพยานโจทก์ประกอบคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้าง จำเลยก็ไม่ได้ถามค้านให้เห็นว่าจำเลยไม่เคยให้การรับสารภาพ คำให้การชั้นสอบสวนที่โจทก์อ้างมิใช่ลายมือของจำเลย การที่จำเลยนำสืบในภายหลังว่าคำให้การชั้นสอบสวนนั้นไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย จึงเป็นการนำสืบเอาข้างเดียว ไม่มีน้ำหนัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บทบัญญัติเดิมยังใช้ได้ แม้มีแก้ไขเพิ่มเติม ศาลมีหน้าที่รู้ตามกฎหมาย
เมื่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายเดิมมิได้ถูกยกเลิกไปเพียงแต่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมและยังคงเป็นบทบังคับอยู่อย่างเก่าแล้ว แม้โจทก์ฟ้องจะอ้างแต่พระราชบัญญัติและมาตราเดิมไม่อ้างกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมเป็นบทลงโทษด้วยก็ใช้ได้.และถือเป็นหน้าที่ของศาลต้องรู้เองด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บทบัญญัติกฎหมายเดิมที่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมยังคงมีผลบังคับใช้ ศาลต้องพิจารณาตามกฎหมายที่แก้ไข
เมื่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายเดิมมิได้ถูกยกเลิกไป เพียงแต่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมและยังคงเป็นบทบังคับอยู่อย่างเก่าแล้ว แม้โจทก์ฟ้องจะอ้างแต่พระราชบัญญัติและมาตราเดิม ไม่อ้างกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมเป็นบทลงโทษด้วยก็ใช้ได้ และถือเป็นหน้าที่ของศาลต้องรู้เองด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานคำรับสารภาพในชั้นสอบสวน vs คำปฏิเสธในชั้นศาล: โจทก์ต้องพิสูจน์ความผิด
ฟ้องว่าเล่นการพนัน โจทก์ไม่มีหลักฐานอย่างใด นอกจากคำรับของจำเลยในชั้นสอบสวน ในชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธแต่เมื่อจำเลยเบิกความเป็นพยานอ้างตนเอง ได้เบิกความตอบคำซักค้านของโจทก์ว่า ได้เล่นการพนันจริงดังนี้ไม่พอฟังลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนมีน้ำหนักน้อยกว่าคำปฏิเสธในชั้นศาลและคำเบิกความต่อศาล โจทก์ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบ
ฟ้องว่าเล่นการพนัน โจทก์ไม่มีหลักฐานอย่างใด นอกจากคำรับของจำเลยในชั้นสอบสวน ในชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ แต่เมื่อจำเลยเบิกความเป็นพยานอ้างตนเอง ได้เบิกความตอบคำซักค้านของโจทก์ว่า ได้เล่นการพนันจริงดังนี้ ไม่พอฟังลงโทษจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 476/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญา: ความชัดเจนของวันเวลาในฟ้อง และการต่อสู้คดี
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดระหว่างวันที่ 25 ถึงวันที่ 28 มกราคม 2502 เวลากลางวันและกลางคืน ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานพยายามขายสลากกินรวบ ต้องมีเจตนาและลงมือกระทำความผิดแล้ว
จำเลยเขียนเลขสลากกินรวบไว้สำหรับขาย แต่ยังไม่ทันลงมือขายก็ถูกจับ ดังนี้ ยังไม่ผิดฐานพยายามขายสลากกินรวบ
เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นแล้ว พิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามขายสลากกินรวบ ถ้าโจทก์มิได้อุทธรณ์โต้แย้งข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์พิพากษากลับในข้อกฎหมายว่า ไม่ผิดฐานพยายามขายสลากกินรวบแล้ว โจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงว่าจำเลยลงมือขายแล้วจึงถูกจับหรือฎีกาว่า จำเลยเป็นผู้สลากกินรวม หาได้ไม่.
เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นแล้ว พิพากษาลงโทษจำเลยฐานพยายามขายสลากกินรวบ ถ้าโจทก์มิได้อุทธรณ์โต้แย้งข้อเท็จจริง และศาลอุทธรณ์พิพากษากลับในข้อกฎหมายว่า ไม่ผิดฐานพยายามขายสลากกินรวบแล้ว โจทก์จะฎีกาข้อเท็จจริงว่าจำเลยลงมือขายแล้วจึงถูกจับหรือฎีกาว่า จำเลยเป็นผู้สลากกินรวม หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 230/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายสลากกินรวบโดยไม่รับอนุญาต การกระทำของตำรวจที่ปลอมตัวซื้อสลากไม่ถือเป็นการเล่นการพนัน
มีผู้แจ้งความแก่เจ้าพนักงานว่า จำเลยขายสลากกินรวบโดยไม่รับอนุญาต เจ้าพนักงานจึงพากันไปซุ่มคอยจับโดยจัดให้ตำรวจคนหนึ่งปลอมตัวเป็นราษฎรเข้าไปขอซื้อสลากกินรวบจากจำเลยๆ ก็ขายให้ แล้วเจ้าพนักงานจึงเข้าจับจำเลยพร้อมของกลาง ดังนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานเล่นการพนันเป็นเจ้ามือขายสลากกินรวบ เพราะการที่ตำรวจปลอมตัวไปซื้อสลากกินรวบจากจำเลยเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานแห่งการกระทำผิดของจำเลยตามที่มีผู้แจ้งความไว้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2504)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2504)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1245/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษการพนันไฮโลว์: จำแนกประเภทการพนันเพื่อใช้บทลงโทษที่ถูกต้อง
ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพนันไฮโลว์ โดยทุกคนผลัดกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ นั้น ตามกฎหมายเป็นการพนันชนิดที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการพนันหมาย ก. ลำดับที่ 23 ตรงตามมาตรา 12 ข้อ 2. ซึ่งมิได้กำหนดโทษขั้นต่ำไว้ มิใช่ตรงตามมาตรา 12 ข้อ 1 ซึ่งกำหนดจำคุกขั้นต่ำไว้ 3 เดือน ปรับ 500 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นการนำบทบัญญัติสนับสนุนความผิดมาใช้กับความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าสำนักจัดให้มีการเล่นการพนันไพ่ผ่องไม่รับอนุญาตเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนให้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 เป็นผู้เข้าเล่นพนันแม้จำเลยที่ 1 รับสารภาพตามฟ้อง ก็ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานสมรู้หรือสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 ไม่ได้เพราะแม้ว่าประมวลกฎหมายอาญา ม.17 ให้นำบทบัญญัติในภาค1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย ก็ตาม. แต่ข้อความในตอนท้ายแห่ง ม.17 นี้เองก็มีข้อยกเว้นอยู่ว่า.'เว้นแต่กฎหมายนั้นๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น'. กรณีสำหรับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเพียงผู้จัดให้มีการเล่นพนันก็ได้มี พ.ร.บ.การพนันพ.ศ.2478 ม.4,12 บัญญัติความผิดไว้เป็นอย่างอื่นชัดแจ้งแล้ว. จึงเข้าข้อยกเว้นที่จะนำเอาบทบัญญัติเรื่องสนับสนุนผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.86 มาใช้ หาได้ไม่.