พบผลลัพธ์ทั้งหมด 723 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายวงแชร์: สัญญาโดยปริยายและการรับรองหนี้
ความรับผิดของนายวงในการเล่นแชร์นั้น ย่อมแล้วแต่ตกลงสัญญากัน จะเป็นโดยตรงหรือโดยปริยาย คือ อาศัยระเบียบหรือวิธีปฎิบัติที่เคยเล่นกันมาก็ได้ และจะอ้างประเพณีการเล่นแชร์มาใช้ก็ได้ในเมื่อหมายถึงการตกลงเล่นแชร์ตามวิธีที่เคยปฏิบัติกันมานั่นเอง ซึ่งถือว่าได้ตกลงโดยปริยานเช่นนั้น
นายวงแชร์รับเงินลงแชร์จากลูกวง แล้วออกใบรับเงินซึ่งตนเป็นผู้ลงชื่อให้ยึดถือไว้ เงินที่รวบรวมจากลูกวงนั้น นายวงเอาไปให้ผู้ที่ประมูลหรือเปียแชร์ได้ โดยผู้ที่ประมูลได้นั้นต้องทำหนังสือสัญญากู้เงินให้นายวงไว้เท่ากับจำนวนที่ผู้นั้นจะต้องส่งเงินแชร์ต่อไปจนถึงเดือนสุดท้าย ดังนี้ ทำให้นายวงมีสิทธิเรียกร้องเอาเงินจากผู้ทำสัญญากู้ดังว่าเป็นเงินของนายวงเอง ลูกวงคนอื่น ๆ ทำได้เป็นเจ้าหนี้ด้วยไม่ การที่นายวงรับเงินจากลูกวงจึงเป็นการรับโดยมีข้อตกลงโดยปริยายว่านายวงจะเป็นผู้รับผิดคืนเงินนี้ให้เมื่อถูกวงนั้น ๆ ประมูลได้ หรือรับเป็นมือท้าย นายวงจึงต้องรับผิดในเงินที่รับไปจากลูกวงแล้ว และนายวงเช่นนี้ไม่ใช่เป็นคนกลางเพราะลูกวงไม่ได้ตกลงเล่นแชร์กันเอง แต่เล่นกับนายวง
นายวงจ่ายเงินให้ผู้ประมูลได้โดยทำสัญญาเป็นลูกหนี้นายวง นายวงจึงไม่ใช่ผู้ค้ำประกันอย่างค้ำประกันลูกหนี้ จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือเช่นค้ำประกันธรรมดา
ลูกวงที่ต้องส่งเงินลงแชร์ให้นายวงเดือนละ 1,000 บาท แม้จะส่งจริงไม่ถึง 1,000 บาทเพราะหักดอกเบี้ยที่นายวงจะต้องไปเก็บจากผู้ประมูลได้มาชำระให้ไว้เสียเลย เมื่อส่งเงินลงแชร์ได้ 10 ครั้ง แล้วแชร์ล้ม ลูกวงมีสิทธิอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ของนายวงอยู่เป็นจำนวนแน่นอนคือ 10,000 บาทได้
นายวงแชร์รับเงินลงแชร์จากลูกวง แล้วออกใบรับเงินซึ่งตนเป็นผู้ลงชื่อให้ยึดถือไว้ เงินที่รวบรวมจากลูกวงนั้น นายวงเอาไปให้ผู้ที่ประมูลหรือเปียแชร์ได้ โดยผู้ที่ประมูลได้นั้นต้องทำหนังสือสัญญากู้เงินให้นายวงไว้เท่ากับจำนวนที่ผู้นั้นจะต้องส่งเงินแชร์ต่อไปจนถึงเดือนสุดท้าย ดังนี้ ทำให้นายวงมีสิทธิเรียกร้องเอาเงินจากผู้ทำสัญญากู้ดังว่าเป็นเงินของนายวงเอง ลูกวงคนอื่น ๆ ทำได้เป็นเจ้าหนี้ด้วยไม่ การที่นายวงรับเงินจากลูกวงจึงเป็นการรับโดยมีข้อตกลงโดยปริยายว่านายวงจะเป็นผู้รับผิดคืนเงินนี้ให้เมื่อถูกวงนั้น ๆ ประมูลได้ หรือรับเป็นมือท้าย นายวงจึงต้องรับผิดในเงินที่รับไปจากลูกวงแล้ว และนายวงเช่นนี้ไม่ใช่เป็นคนกลางเพราะลูกวงไม่ได้ตกลงเล่นแชร์กันเอง แต่เล่นกับนายวง
นายวงจ่ายเงินให้ผู้ประมูลได้โดยทำสัญญาเป็นลูกหนี้นายวง นายวงจึงไม่ใช่ผู้ค้ำประกันอย่างค้ำประกันลูกหนี้ จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือเช่นค้ำประกันธรรมดา
ลูกวงที่ต้องส่งเงินลงแชร์ให้นายวงเดือนละ 1,000 บาท แม้จะส่งจริงไม่ถึง 1,000 บาทเพราะหักดอกเบี้ยที่นายวงจะต้องไปเก็บจากผู้ประมูลได้มาชำระให้ไว้เสียเลย เมื่อส่งเงินลงแชร์ได้ 10 ครั้ง แล้วแชร์ล้ม ลูกวงมีสิทธิอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ของนายวงอยู่เป็นจำนวนแน่นอนคือ 10,000 บาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายวงแชร์: สัญญาโดยปริยายและลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างนายวงกับลูกวง
ความรับผิดของนายวงในการเล่นแชร์นั้นย่อมแล้วแต่ตกลงสัญญากัน จะเป็นโดยตรงหรือโดยปริยาย คือ อาศัยระเบียบหรือวิธีปฏิบัติที่เคยเล่นกันมาก็ได้ และจะอ้างประเพณีการเล่นแชร์มาใช้ก็ได้ในเมื่อหมายถึงการตกลงเล่นแชร์ตามวิธีที่เคยปฏิบัติกันมานั่นเอง จึงถือว่าได้ตกลงโดยปริยายเช่นนั้น
นายวงแชร์รับเงินลงแชร์จากลูกวง แล้วออกใบรับเงินซึ่งตนเป็นผู้ลงชื่อให้ยึดถือไว้ เงินที่รวบรวมจากลูกวงนั้นนายวงเอาไปให้ผู้ที่ประมูลหรือเปียแชร์ได้ โดยผู้ที่ประมูลได้นั้นต้องทำหนังสือสัญญากู้เงินให้นายวงไว้เท่ากับจำนวนที่ผู้นั้นจะต้องส่งเงินแชร์ต่อไปจนถึงเดือนสุดท้ายดังนี้ ทำให้นายวงมีสิทธิเรียกร้องเอาเงินจากผู้ทำสัญญากู้ดังว่าเป็นเงินของนายวงเองลูกวงคนอื่นๆ หาได้เป็นเจ้าหนี้ด้วยไม่ การที่นายวงรับเงินจากลูกวงจึงเป็นการรับโดยมีข้อตกลงโดยปริยายว่านายวงจะเป็นผู้รับผิดคืนเงินนี้ให้เมื่อลูกวงนั้นๆ ประมูลได้ หรือรับเป็นมือท้าย นายวงจึงต้องรับผิดในเงินที่รับไปจากลูกวงแล้วและนายวงเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเพียงคนกลางเพราะลูกวงไม่ได้ตกลงเล่นแชร์กันเอง แต่เล่นกับนายวง
นายวงจ่ายเงินให้ผู้ประมูลได้โดยทำสัญญาเป็นลูกหนี้นายวงนายวงจึงไม่ใช่ผู้ค้ำประกันอย่างค้ำประกันลูกหนี้ จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือเช่นค้ำประกันธรรมดา
ลูกวงที่ต้องส่งเงินลงแชร์ให้นายวงเดือนละ 1,000 บาท แม้จะส่งจริงไม่ถึง 1,000 บาทเพราะหักดอกเบี้ยที่นายวงจะพึงไปเก็บจากผู้ประมูลได้มาชำระให้ไว้เสียเลย เมื่อส่งเงินลงแชร์ได้ 10 ครั้งแล้วแชร์ล้ม ลูกวงมีสิทธิอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ของนายวงอยู่เป็นจำนวนแน่นอนคือ 10,000 บาทได้
นายวงแชร์รับเงินลงแชร์จากลูกวง แล้วออกใบรับเงินซึ่งตนเป็นผู้ลงชื่อให้ยึดถือไว้ เงินที่รวบรวมจากลูกวงนั้นนายวงเอาไปให้ผู้ที่ประมูลหรือเปียแชร์ได้ โดยผู้ที่ประมูลได้นั้นต้องทำหนังสือสัญญากู้เงินให้นายวงไว้เท่ากับจำนวนที่ผู้นั้นจะต้องส่งเงินแชร์ต่อไปจนถึงเดือนสุดท้ายดังนี้ ทำให้นายวงมีสิทธิเรียกร้องเอาเงินจากผู้ทำสัญญากู้ดังว่าเป็นเงินของนายวงเองลูกวงคนอื่นๆ หาได้เป็นเจ้าหนี้ด้วยไม่ การที่นายวงรับเงินจากลูกวงจึงเป็นการรับโดยมีข้อตกลงโดยปริยายว่านายวงจะเป็นผู้รับผิดคืนเงินนี้ให้เมื่อลูกวงนั้นๆ ประมูลได้ หรือรับเป็นมือท้าย นายวงจึงต้องรับผิดในเงินที่รับไปจากลูกวงแล้วและนายวงเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเพียงคนกลางเพราะลูกวงไม่ได้ตกลงเล่นแชร์กันเอง แต่เล่นกับนายวง
นายวงจ่ายเงินให้ผู้ประมูลได้โดยทำสัญญาเป็นลูกหนี้นายวงนายวงจึงไม่ใช่ผู้ค้ำประกันอย่างค้ำประกันลูกหนี้ จึงไม่ต้องทำเป็นหนังสือเช่นค้ำประกันธรรมดา
ลูกวงที่ต้องส่งเงินลงแชร์ให้นายวงเดือนละ 1,000 บาท แม้จะส่งจริงไม่ถึง 1,000 บาทเพราะหักดอกเบี้ยที่นายวงจะพึงไปเก็บจากผู้ประมูลได้มาชำระให้ไว้เสียเลย เมื่อส่งเงินลงแชร์ได้ 10 ครั้งแล้วแชร์ล้ม ลูกวงมีสิทธิอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ของนายวงอยู่เป็นจำนวนแน่นอนคือ 10,000 บาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกัน, การผิดนัดชำระหนี้, และการบังคับชำระหนี้ตามสัญญา
ใบมอบอำนาจระบุว่ามอบอำนาจให้ ช.ทวงถามเงินกู้จากจ.และย. แต่งตั้งทนายฟ้องร้องคดีจนถึงที่สุด ดังนี้เป็นการมอบอำนาจให้บุคคลคนเดียวกระทำการอันเดียว มอบครั้งเดียว มอบให้กระทำการครั้งเดียว เมื่อปิดอากรแสตมป์ 5 บาท ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีได้
การปิดแสตมป์ในตราสารเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งประมวลรัษฎากรมิได้บัญญัติว่าต้องปิดก่อนหรือระหว่างการนำสืบ
ตามสัญญาได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทินเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระตามกำหนด ก็ตกเป็นผู้ผิดนัด เมื่อลูกหนี้ผิดนัด เจ้าหนี้จึงชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้แต่นั้นไม่จำต้องฟ้องลูกหนี้ก่อน และเมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ค้ำประกันขอให้เรียกลูกหนี้ชำระก่อน ทั้งผู้ค้ำประกันยังเบิกความว่าไม่ทราบว่าลูกหนี้อยู่ที่ไหนจะมีเงินพอชำระหนี้ได้หรือไม่ ดังนี้ ผู้ค้ำประกันไม่อาจจะอ้างได้ว่าเจ้าหนี้ต้องฟ้องลูกหนี้ก่อนจึงจะฟ้องตนได้
เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เงิน ลูกหนี้ก็ต้องเสียดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีตามกฎหมาย และเมื่อจำเลยค้ำประกันโดยมิได้จำกัดจำนวนเงินที่จำเลยจะต้องรับผิดการค้ำประกันนี้จึงคุ้มถึงดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ค้างชำระด้วย ทั้งนี้ ไม่ว่าเจ้าหนี้จะมีหลักฐานในการทวงถามจำเลยหรือไม่ จะพอฟังว่าได้ทวงถามแล้วหรือไม่ก็ตาม
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยโดยระบุเงินต้นอัตราระยะเวลาและจำนวนรวมมาด้วย แต่จำนวนที่ขอมานั้นต่ำกว่าจำนวนที่ควรจะคำนวณได้ ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยตามอัตราและระยะเวลาที่โจทก์ขอ แต่จำกัดไว้ด้วยว่าไม่เกินจำนวนที่โจทก์ระบุขอมา (เจ้าหนี้ฟ้องผู้ค้ำประกันให้ชำระหนี้ตามสัญญาที่ลูกหนี้ทำไว้แก่เจ้าหนี้ โดยมิได้ฟ้องลูกหนี้ด้วย ไม่ว่าเจ้าหนี้จะได้เรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้นั้นก่อนฟ้องหรือไม่ก็ตาม ผู้ค้ำประกันก็ต้องรับผิดเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมความที่ตนถูกเจ้าหนี้ฟ้องนั้น)
การปิดแสตมป์ในตราสารเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งประมวลรัษฎากรมิได้บัญญัติว่าต้องปิดก่อนหรือระหว่างการนำสืบ
ตามสัญญาได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทินเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระตามกำหนด ก็ตกเป็นผู้ผิดนัด เมื่อลูกหนี้ผิดนัด เจ้าหนี้จึงชอบที่จะเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้แต่นั้นไม่จำต้องฟ้องลูกหนี้ก่อน และเมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ค้ำประกันขอให้เรียกลูกหนี้ชำระก่อน ทั้งผู้ค้ำประกันยังเบิกความว่าไม่ทราบว่าลูกหนี้อยู่ที่ไหนจะมีเงินพอชำระหนี้ได้หรือไม่ ดังนี้ ผู้ค้ำประกันไม่อาจจะอ้างได้ว่าเจ้าหนี้ต้องฟ้องลูกหนี้ก่อนจึงจะฟ้องตนได้
เมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เงิน ลูกหนี้ก็ต้องเสียดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีตามกฎหมาย และเมื่อจำเลยค้ำประกันโดยมิได้จำกัดจำนวนเงินที่จำเลยจะต้องรับผิดการค้ำประกันนี้จึงคุ้มถึงดอกเบี้ยที่ลูกหนี้ค้างชำระด้วย ทั้งนี้ ไม่ว่าเจ้าหนี้จะมีหลักฐานในการทวงถามจำเลยหรือไม่ จะพอฟังว่าได้ทวงถามแล้วหรือไม่ก็ตาม
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยใช้ดอกเบี้ยโดยระบุเงินต้นอัตราระยะเวลาและจำนวนรวมมาด้วย แต่จำนวนที่ขอมานั้นต่ำกว่าจำนวนที่ควรจะคำนวณได้ ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยตามอัตราและระยะเวลาที่โจทก์ขอ แต่จำกัดไว้ด้วยว่าไม่เกินจำนวนที่โจทก์ระบุขอมา (เจ้าหนี้ฟ้องผู้ค้ำประกันให้ชำระหนี้ตามสัญญาที่ลูกหนี้ทำไว้แก่เจ้าหนี้ โดยมิได้ฟ้องลูกหนี้ด้วย ไม่ว่าเจ้าหนี้จะได้เรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้นั้นก่อนฟ้องหรือไม่ก็ตาม ผู้ค้ำประกันก็ต้องรับผิดเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมความที่ตนถูกเจ้าหนี้ฟ้องนั้น)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้เงินกู้เบิกเกินบัญชี ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดเมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้แม้มีการนำเงินเข้าบัญชี
จำเลยกู้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารโจทก์แล้ว จำเลยก็มีสิทธิที่จะเบิกเงินไปเป็นคราว ๆ ภายในวงเงินและเวลาที่ตกลงกัน เมื่อจำเลยนำเงินเข้าบัญชีในธนาคาร ๆ ก็นำไปหักจำนวนเงินที่จำเลยเป็นหนี้ตามสัญญากู้ และจำเลยก็อาจถอนเงินไปอีก เพราะสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชียังไม่หมดอายุ แต่ถ้าจำเลยประสงค์จะนำเงินเข้าบัญชีเป็นการชำระหนี้เงินกู้ จำเลยก็ต้องแสดงความจำนงนั้นให้ธนาคารทราบ และจะสั่งจ่ายเงินจำนวนนั้นไปอีกไม่ได้ ถือเป็นวิธีปฏิบัติในการฝากเงินเข้าบัญชีและการเบิกเงินเกินบัญชีตามปกติ ฉะนั้น หากจำเลยยังมีหนี้ค้างชำระในวันครบกำหนดสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีอยู่อีก ผู้ค้ำประกันของจำเลยก็ต้องรับผิดในเงินจำนวนนั้น การที่จำเลยนำเงินเข้าบัญชีสั่งจ่ายภายหลังแต่วันครบกำหนดสัญญากู้นั้น หาถือว่าเป็นการชำระหนี้หรือเบิกเงินเกินบัญชีอันจะทำให้ผู้ค้ำประกันพ้นความรับผิดชอบ หรือรับผิดนอกเหนือไปอีกแต่ประการใดไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้เงินกู้เบิกเกินบัญชี การนำเงินเข้าบัญชีถือเป็นการชำระหนี้ได้หรือไม่ และผลกระทบต่อผู้ค้ำประกัน
จำเลยกู้เบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารโจทก์แล้ว จำเลยก็มีสิทธิที่จะเบิกเงินไปเป็นคราวๆ ภายในวงเงินและเวลาที่ตกลงกัน เมื่อจำเลยนำเงินเข้าบัญชีในธนาคาร ธนาคารก็นำไปหักจำนวนเงินที่จำเลยเป็นหนี้ตามสัญญากู้ และจำเลยก็อาจถอนเงินไปอีก เพราะสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชียังไม่หมดอายุ แต่ถ้าจำเลยประสงค์จะนำเงินเข้าบัญชีเป็นการชำระหนี้เงินกู้ จำเลยก็ต้องแสดงความจำนงนั้นให้ธนาคารทราบ และจะสั่งจ่ายเงินจำนวนนั้นไปอีกไม่ได้ ถือเป็นวิธีปฏิบัติในการฝากเงินเข้าบัญชีและการเบิกเงินเกินบัญชีตามปกติ ฉะนั้น หากจำเลยยังมีหนี้ค้างชำระในวันครบกำหนดสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีอยู่อีก ผู้ค้ำประกันของจำเลยก็ต้องรับผิดในเงินจำนวนนั้น การที่จำเลยนำเงินเข้าบัญชีและสั่งจ่ายภายหลังแต่วันครบกำหนดสัญญากู้นั้น หาถือว่าเป็นการชำระหนี้หรือเบิกเงินเกินบัญชีอันจะทำให้ผู้ค้ำประกันพ้นความผิด หรือรับผิดนอกเหนือไปอีกแต่ประการใดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเล่นแชร์ประมูลดอกเบี้ยไม่เป็นการกู้ยืมเงิน สิทธิของนายวงแชร์และการรับผิดของผู้ค้ำประกัน
การเล่นแชร์เปียหวยนั้น ผู้เล่นประมูลให้ดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายก็ได้ เพราะไม่เข้าลักษณะเป็นการกู้ยืมเงิน
โจทก์ฟ้องให้จำเลยสองคนร่วมกันชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ซึ่งหมายความว่ายังไม่ต้องชำระหนี้ให้โจทก์ หากคดีได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้ค้ำประกันเงินกู้ของจำเลยที่ 1 แล้ว ศาลย่อมมีอำนาจที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 ควรเป็นผู้รับผิดต่อโจทก์เพียงในฐานะผู้ค้ำประกันได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยสองคนร่วมกันชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์ จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ซึ่งหมายความว่ายังไม่ต้องชำระหนี้ให้โจทก์ หากคดีได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้ค้ำประกันเงินกู้ของจำเลยที่ 1 แล้ว ศาลย่อมมีอำนาจที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 2 ควรเป็นผู้รับผิดต่อโจทก์เพียงในฐานะผู้ค้ำประกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 698/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเล่นแชร์ประมูลดอกเบี้ยไม่เป็นกู้ยืมเงิน สิทธิเรียกร้องจากลูกวงที่ผิดนัดชำระ
การเล่นแชร์เปียหวยนั้น ผู้เล่นจะประมูลให้ดอกเบี้ยเกินอัตราตามกฎหมายก็ได้เพราะไม่เข้าลักษณะเป็นการกู้ยืมเงิน
โจทก์ฟ้องให้จำเลยสองคนร่วมกันชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องซึ่งหมายความว่ายังไม่ต้องชำระหนี้ให้โจทก์หากคดีได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้ค้ำประกันเงินกู้ของจำเลยที่ 1 แล้วศาลย่อมมีอำนาจที่จะวินิจฉัยว่าจำเลย ที่ 2 ควรเป็นผู้รับผิดต่อโจทก์เพียงในฐานะผู้ค้ำประกันได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยสองคนร่วมกันชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องซึ่งหมายความว่ายังไม่ต้องชำระหนี้ให้โจทก์หากคดีได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้ค้ำประกันเงินกู้ของจำเลยที่ 1 แล้วศาลย่อมมีอำนาจที่จะวินิจฉัยว่าจำเลย ที่ 2 ควรเป็นผู้รับผิดต่อโจทก์เพียงในฐานะผู้ค้ำประกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกันหลังเจ้ามรดกเสียชีวิต และผลของการสละสิทธิอายุความมรดก
การแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 350 นั้น ลูกหนี้เดิมจะต้องมีตัวอยู่และจะต้องกระทำโดยไม่ขืนใจลูกหนี้เดิม ถ้าลูกหนี้เดิมตายไปเสียแล้ว กรณีก็ไม่ใช่การแปลงหนี้
เมื่อลูกหนี้เงินกู้ตายไปแล้ว จำเลยได้ทำสัญญาให้โจทก์ไว้ในแบบพิมพ์สัญญาค้ำประกันด้านหลังสัญญากู้รายนี้ ความว่า ขอทำสัญญาค้ำประกันให้ไว้ต่อเจ้าหนี้ว่า ตามที่ลูกหนี้ได้กู้เงินไปนั้น ลูกหนี้ตายไปแล้ว จำเลยยอมใช้ต้นเงินดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ ดังนี้ เป็นการแสดงเจตนาของจำเลยที่จะค้ำประกันหนี้
การที่จำเลยได้กำหนดเวลาชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาซึ่งเกินกว่า 1 ปี นับแต่วันที่ลูกหนี้ตาย เป็นการสละข้อต่อสู้ในเรื่องอายุความมรดกซึ่งทายาทจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ได้ ฉะนั้น แม้เจ้าหนี้จะหมดสิทธิเรียกร้องจากทายาทเพราะคดีขาดอายุความแล้ว ก็หาทำให้จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้หรือหลุดพ้นความรับผิดไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา698 ด้วยไม่
เมื่อลูกหนี้เงินกู้ตายไปแล้ว จำเลยได้ทำสัญญาให้โจทก์ไว้ในแบบพิมพ์สัญญาค้ำประกันด้านหลังสัญญากู้รายนี้ ความว่า ขอทำสัญญาค้ำประกันให้ไว้ต่อเจ้าหนี้ว่า ตามที่ลูกหนี้ได้กู้เงินไปนั้น ลูกหนี้ตายไปแล้ว จำเลยยอมใช้ต้นเงินดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ ดังนี้ เป็นการแสดงเจตนาของจำเลยที่จะค้ำประกันหนี้
การที่จำเลยได้กำหนดเวลาชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาซึ่งเกินกว่า 1 ปี นับแต่วันที่ลูกหนี้ตาย เป็นการสละข้อต่อสู้ในเรื่องอายุความมรดกซึ่งทายาทจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ได้ ฉะนั้น แม้เจ้าหนี้จะหมดสิทธิเรียกร้องจากทายาทเพราะคดีขาดอายุความแล้ว ก็หาทำให้จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้หรือหลุดพ้นความรับผิดไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา698 ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1569/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกันหนี้หลังเจ้ามรดกเสียชีวิต และผลของการสละสิทธิอายุความมรดก
การแปลงหนี้โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 350นั้น ลูกหนี้เดิมจะต้องมีตัวอยู่และจะต้องกระทำโดยไม่ขืนใจลูกหนี้เดิม ถ้าลูกหนี้เดิมตายไปเสียแล้ว กรณีก็ไม่ใช่การแปลงหนี้
เมื่อลูกหนี้เงินกู้ตายไปแล้ว จำเลยได้ทำสัญญาให้โจทก็ไว้ในแบบพิมพ์สัญญาค้ำประกันให้ไว้ต่อเจ้าหนี้ว่า ตามที่ลูกหนี้ได้กู้เงินไปนั้น ลูกหนี้ตายไปแล้ว จำเลยยอมใช้ต้นเงินดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ ดังนี้ เป็นการแสดงเจตนาของจำเลยที่จะค้ำประกันหนี้
การที่จำเลยได้กำหนดเวลาชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาซึ่งเกินกว่า 1 ปีนับแต่วันที่ลูกหนี้ตาย เป็นการสละข้อต่อสู้ในเรื่องอายุความมรดกซึ่งทายาทจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ได้ ฉะนั้น แม้เจ้าหนี้จะหมดสิทธิเรียกร้องจากทายาทเพราะคดีขาดอายุความแล้ว ก็หาทำให้จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้หรือหลุดพ้นความรับผิดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 698 ด้วยไม่
เมื่อลูกหนี้เงินกู้ตายไปแล้ว จำเลยได้ทำสัญญาให้โจทก็ไว้ในแบบพิมพ์สัญญาค้ำประกันให้ไว้ต่อเจ้าหนี้ว่า ตามที่ลูกหนี้ได้กู้เงินไปนั้น ลูกหนี้ตายไปแล้ว จำเลยยอมใช้ต้นเงินดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ ดังนี้ เป็นการแสดงเจตนาของจำเลยที่จะค้ำประกันหนี้
การที่จำเลยได้กำหนดเวลาชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาซึ่งเกินกว่า 1 ปีนับแต่วันที่ลูกหนี้ตาย เป็นการสละข้อต่อสู้ในเรื่องอายุความมรดกซึ่งทายาทจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ได้ ฉะนั้น แม้เจ้าหนี้จะหมดสิทธิเรียกร้องจากทายาทเพราะคดีขาดอายุความแล้ว ก็หาทำให้จำเลยยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้หรือหลุดพ้นความรับผิดไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 698 ด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันตามสัญญาค้ำประกันที่ครอบคลุมหนี้ตามสัญญาจำนอง แม้สัญญาจำนองจะไม่ได้ระบุภาระการชำระหนี้เพิ่มเติม
ผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันการจำนองว่า ถ้าผู้จำนองผิดสัญญาไม่ชำระเงินต้นตามสัญญาผู้ค้ำประกันยอมให้ผู้รับจำนองฟ้องร้องเรียกเงินตามสัญญาจำนองของผู้จำนอง โดยผู้ค้ำประกันยอมใช้เงินตามสัญญาจำนองและค่าเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนี้ แม้ตามสัญญาจำนองจะไม่มีกล่าวไว้ว่า ถ้าบังคับจำนองแล้วยังขาดเงินอยู่เท่าใด ผู้จำนองต้องใช้อีกจนครบก็ดี ในเมื่อมีการบังคับจำนองขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้ของผู้รับจำนอง ผู้ค้ำประกันย่อมต้องรับผิดต่อผู้รับจำนองในจำนวนเงินที่ยังขาดอยู่ตามสัญญาค้ำประกันนั่น