คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 680

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 723 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาไม่เป็นค้ำประกัน แต่เป็นสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย อายุความ 10 ปี
จำเลยขอให้โจทก์ค้ำประกันบุคคลผู้ส่งข้าวไปขายต่างประเทศต่อกระทรวงเศรษฐการ โดยจำเลยยอมรับผิดต่อโจทก์ ถ้าโจทก์ต้องเสียหายอย่างใด ๆ ในการค้ำประกันนั้น ดังนี้ ไม่ใช่เป็นสัญญาค้ำประกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 แต่เป็นสัญญาธรรมดาระหว่างโจทก์ จำเลย เมื่อโจทก์ต้องชำระหนี้ค่าข้าวแทนบุคคลนั้นโดยสุจริต ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยใช้เงินนั้นได้โดยต้องใช้อายุความ 10 ปีตามมาตรา 164 ไม่ใช่ 5 ปีตามมาตรา 165

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันการชำระหนี้มีผลผูกพันตลอดระยะบังคับคดี
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับแก่จำเลยโดยต้องมีประกัน เมื่อผู้ค้ำประกันเข้าทำสัญญาประกันต่อศาลว่า ถ้าจำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้โจทก์ ผู้ค้ำประกันยอมชำระหนี้ให้ตลอดจนค่าธรรมเนียมศาลด้วย ดังนี้จะถือว่า สัญญาประกันมีผลเฉพาะในชั้นอุทธรณ์เท่านั้นไม่ได้ ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดตลอดไปจนกว่าการบังคับคดีจะเสร็จสิ้น
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 17/2504)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองเกินอำนาจค้ำประกัน: ผู้ค้ำประกันรับผิดเฉพาะจำนวนที่ตกลงในสัญญา
ทำสัญญาค้ำประกันไม่เกิน 100,000 บาท โดยมอบโฉนดและเซ็นชื่อในแบบพิมพ์ใบมอบอำนาจให้ไว้ เพื่อเจ้าหนี้จะได้นำไปขอจดทะเบียนจำนอง แล้วต่อมาฝ่ายเจ้าหนี้ได้ไปจัดการทำจำนองเป็นจำนวนเงินสูงขึ้นอีกนั้น เป็นการทำนอกเหนือจากสัญญาค้ำประกันและการมอบอำนาจ ผู้ค้ำประกันคงต้องรับผิดไม่เกินจำนวน 100,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกันจำนองเกินวงเงินสัญญา
ทำสัญญาค้ำประกันไม่เกิน 100,000 บาท โดยมอบโฉนดและเซ็นชื่อในแบบพิมพ์ ในมอบอำนาจให้ไว้เพื่อเจ้าหนี้จะได้นำไปขอจดทะเบียน จำนองแล้วต่อมาฝ่ายเจ้าหนี้ ได้ไปจัดการทำจำนองเป็นจำนวนเงินสู้ขึ้นอีกนั้น เป็นการทำนอกเหนือจากสัญญาค้ำประกันและมอบอำนาจ ผู้ค้ำประกันคงต้องรับผิดไม่เกินจำนวน 100,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารยินยอมผัดชำระหนี้ของผู้ค้ำประกัน ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
หนังสือที่เป็นคำรับรองที่ผู้ค้ำประกันยินยอมในการที่ผู้กู้ขอผัดชำระหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องปิดอากรแสตมป์ ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับรองผัดชำระหนี้ ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
หนังสือที่เป็นคำรับรองที่ผู้ค้ำประกันยินยอมในการที่ผู้กู้ขอผัดชำระหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การ และประเด็นการฎีกาที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมาย
คดีที่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยว่าจะรับเป็นคำให้การเพิ่มเติมหรือไม่นั้นศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การนี้เสียก่อนแล้วจึงให้ดำเนินการพิจารณาต่อไปได้
การที่โจทก์โต้แย้งในชั้นฎีกา โดยโจทก์มิได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ถือว่าไม่ปฏิบัติตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
หากศาลชั้นต้นได้สั่งให้รับคำให้การเพิ่มเติมแล้วย่อมเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะสั่งว่า จะให้สืบในข้อต่อสู้นั้นหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 367/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การ และการไม่ยื่นคำแก้อุทธรณ์ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คดีที่ศาลชั้นต้นยังไม่ได้สั่งคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยว่าจะรับเป็นคำให้การเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งคำร้องเพิ่มเติมคำให้การนี้เสียก่อน แล้วจึงให้ดำเนินการพิจารณาต่อไปได้
การที่โจทก์โต้แย้งในชั้นฎีกา โดยโจทก์มิได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ถือว่า ไม่ปฏิบัติตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
หากศาลชั้นต้นได้สั่งให้รับคำให้การเพิ่มเติม ย่อมเป็นหน้าที่ของศาลชั้นต้นที่จะสั่งว่า จะให้สืบให้ข้อต่อสู้นั้นหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันไม่เป็นโมฆะ แม้มีการดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมจากเจตนาร้องทุกข์เดิม ผู้ค้ำประกันยังต้องรับผิดตามสัญญา
โจทก์เจตนาแจ้งข้อหาในเรื่องฉ้อโกงเงินของโจทก์อันเป็นความผิดต่อส่วนตัว แต่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง แจ้งความเท็จ และทำผิดกฎหมายหุ้นส่วนด้วย จำเลยเข้ามาทำสัญญากับโจทก์ว่า ถ้าโจทก์ถอนคำร้องทุกข์แล้ว จำเลยยอมค้ำประกันจำนวนเงินรายนี้ ครั้นโจทก์ถอนคำร้องทุกข์แม้คดีคงระงับเฉพาะข้อหาฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้น จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันนั้นเพราะการที่ข้อหาในคดีอาญาแผ่นดินยังดำเนินกันอยู่นั้น ไม่เกี่ยวแก่โจทก์ สัญญาค้ำประกันเช่นว่านี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ
ในสัญญาค้ำประกันมีว่า จำเลยผู้ค้ำประกันยอมสละไม่ยกข้อต่อสู้ที่จะให้โจทก์บังคับเอาจากทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ก่อน ฉะนั้นเมื่อบริษัทลูกหนี้ล้มละลาย แม้โจทก์จะได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วก็ตาม ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้ชำระหนี้ที่ค้ำประกันไว้ หากโจทก์ได้รับชำระหนี้จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เท่าใด จำเลยผู้ค้ำประกันก็ไม่ต้องชำระในจำนวนนั้นอีก หาใช่โจทก์จะมีสิทธิได้รับจำนวนเงินเป็น 2 ซ้ำไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันไม่เป็นโมฆะ แม้มีการดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมจากเจตนาร้องทุกข์เดิม และสิทธิการบังคับคดีกับลูกหนี้
โจทก์เจตนาแจ้งข้อหาในเรื่องฉ้อโกงเงินของโจทก์อันเป็นความผิดต่อส่วนตัว แต่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง แจ้งความเท็จ และทำผิดกฎหมายหุ้นส่วนด้วย จำเลยเข้ามาทำสัญญากับโจทก์ว่า ถ้าโจทก์ถอนคำร้องทุกข์แล้ว จำเลยยอมค้ำประกันจำนวนเงินรายนี้ ครั้นโจทก์ถอนคำร้องทุกข์ แม้คดีคงระงับเฉพาะข้อหาฉ้อโกงเป็นความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้น จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันนั้น เพราะการที่ข้อหาในคดีอาญาแผ่นดินยังดำเนินกันอยู่นั้น ไม่เกี่ยวแก่โจทก์ สัญญาค้ำประกันเช่นว่านี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ
ในสัญญาค้ำประกันมีว่า จำเลยผู้ค้ำประกันยอมสละไม่ยกข้อต่อสู้ที่จะให้โจทก์บังคับเอาจากทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ก่อน ฉะนั้นเมื่อบริษัทลูกหนี้ล้มละลาย แม้โจทก์จะได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วก็ตาม ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้ชำระหนี้ทีค้ำประกันไว้ หากโจทก์ได้รับชำระหนี้จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เท่าใด จำเลยผู้ค้ำประกันก็ไม่ต้องชำระในจำนวนนั้นอีก หาใช่โจทก์จะมีสิทธิได้รับจำนวนเงิน เป็น 2 ซ้ำไม่
of 73