พบผลลัพธ์ทั้งหมด 723 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันกับการงดฟ้องอาญา: ความประสงค์อันแท้จริงของสัญญา
สัญญาค้ำประกันมีใจความสำคัญว่า จำเลยที่ 1 ยอมรับว่าได้ฉ้อโกงโจทก์จริงและยอมใช้เงินให้โจทก์จำเลยที่ 2มารดาจำเลยที่ 1 ยอมค้ำประกันเมื่อจำเลยที่ 1 บิดพลิ้วยินดีรับใช้แทนจนครบ โจทก์ผู้กล่าวหายินดีและตกลงดังนี้ แม้จะมิได้มีข้อความแจ้งชัดว่าจะไม่ฟ้องในทางอาญา ก็เป็นที่เข้าใจกันตามปกติว่า การที่จำเลยที่2 เข้าค้ำประกันรับใช้เงินแทนจำเลยที่ 1 ผู้เป็นบุตรก็ประสงค์ให้โจทก์งดเว้น ไม่ฟ้องบุตรจำเลยที่ 2 ทางอาญา ฉะนั้นแม้จำเลยจะผิดนัด ไม่ใช้หนี้ตามกำหนดในสัญญา ก็ไม่ทำให้โจทก์เกิดสิทธิฟ้องทางอาญาได้เมื่อโจทก์ร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ในทางอาญา จึงไม่เป็นไปตามความประสงค์อันแท้จริงของสัญญาที่จำเลยที่ 2 ทำให้ไว้ จำเลยที่ 2 ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกข้อต่อสู้เรื่องอำนาจลงนามที่ไม่ชัดเจน และขอบเขตความรับผิดของตัวแทนและผู้ค้ำประกัน
คำให้การของจำเลยที่ตัดฟ้องว่า โจทก์ไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะลงนามแทนสำนักนายกรัฐมนตรีได้ นั้น ย่อมไม่ทำให้เกิดประเด็นที่ศาลจะต้องยกขึ้นวินิจฉัยเพราะจำเลยหาได้ยกข้อเท็จจริงอย่างใดขึ้นกล่าวอ้างให้เป็นประเด็นเพื่อให้ศาลได้วินิจฉัยไม่ว่าด้วยเหตุใด หรือเนื่องด้วยพฤติการณ์อย่างใดโจทก์จึงไม่มีอำนาจ และการไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นคือบทกฎหมายบทใดข้อใด แม้ข้อเท็จจริงบางอย่างศาลรังรู้ได้เอง แต่คู่ความจะต้องกล่าวอ้างข้อเท็จจริงนั้นให้เป็นประเด็นขึ้นมาในคดี แม้แต่ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นต่อสู้ ก็จะต้องกล่าวอ้างเช่าเดียวกัน
ภรรยากระทำการไปในฐานะเป็นตัวแทนของสามี ภรรบาจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้สินอันเกิดจากการที่กระทำไปตามหน้าที่ตัวแทนหรือร่วมกับสามีเป็นตัวการ
ทำสัญญาค้ำประกันให้ผู้ขายหากผู้ซื้อละเมิดสัญญาหรือมีหนี้สินประกันยอมรับผิด และชดใช้ค่าเสียหายแทน ไม่เกินวงเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อผู้ซื้อไปทำหนี้สินเกินกว่าจำนวนเงินที่คำประกันไว้ ผู้ค้ำประกันก็คงรับผิด ไม่เกินกว่าเงินที่ค้ำประกันไว้
ภรรยากระทำการไปในฐานะเป็นตัวแทนของสามี ภรรบาจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้สินอันเกิดจากการที่กระทำไปตามหน้าที่ตัวแทนหรือร่วมกับสามีเป็นตัวการ
ทำสัญญาค้ำประกันให้ผู้ขายหากผู้ซื้อละเมิดสัญญาหรือมีหนี้สินประกันยอมรับผิด และชดใช้ค่าเสียหายแทน ไม่เกินวงเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อผู้ซื้อไปทำหนี้สินเกินกว่าจำนวนเงินที่คำประกันไว้ ผู้ค้ำประกันก็คงรับผิด ไม่เกินกว่าเงินที่ค้ำประกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจลงนามแทน, ตัวแทน, และขอบเขตความรับผิดในสัญญาค้ำประกัน
คำให้การของจำเลยที่ตัดฟ้องว่า โจทก์ไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะลงนามแทนสำนักนายกรัฐมนตรีได้ นั้น ย่อมไม่ทำให้เกิดประเด็นที่ศาลจะต้องยกขึ้นวินิจฉัยเพราะจำเลยหาได้ยกข้อเท็จจริงอย่างใดขึ้นกล่าวอ้างให้เป็นประเด็นเพื่อให้ศาลได้วินิจฉัยไม่ว่าด้วยเหตุใดหรือเนื่องด้วยพฤติการณ์อย่างใดโจทก์จึงไม่มีอำนาจและการไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นคือบทกฎหมายบทใดข้อใด แม้ข้อเท็จจริงบางอย่างศาลรับรู้ได้เอง แต่คู่ความจะต้องกล่าวอ้างข้อเท็จจริงนั้นให้เป็นประเด็นขึ้นมาในคดีแม้แต่ข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นต่อสู้ ก็จะต้องกล่าวอ้างเช่นเดียวกัน
ภรรยากระทำการไปในฐานะเป็นตัวแทนของสามี ภรรยาจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้สินอันเกิดจากกิจการที่กระทำไปตามหน้าที่ตัวแทนหรือร่วมกับสามีอันเป็นตัวการ
ทำสัญญาค้ำประกันให้ผู้ขายไว้ว่าหากผู้ซื้อละเมิดสัญญาหรือมีหนี้สินผู้ค้ำประกันยอมรับผิด และชดใช้ค่าเสียหายแทน ไม่เกินวงเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อผู้ซื้อไปทำหนี้สินเกินกว่าจำนวนเงินที่ค้ำประกันไว้ ผู้ค้ำประกันก็คงรับผิด ไม่เกินกว่าเงินที่ค้ำประกันไว้
ภรรยากระทำการไปในฐานะเป็นตัวแทนของสามี ภรรยาจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้สินอันเกิดจากกิจการที่กระทำไปตามหน้าที่ตัวแทนหรือร่วมกับสามีอันเป็นตัวการ
ทำสัญญาค้ำประกันให้ผู้ขายไว้ว่าหากผู้ซื้อละเมิดสัญญาหรือมีหนี้สินผู้ค้ำประกันยอมรับผิด และชดใช้ค่าเสียหายแทน ไม่เกินวงเงินจำนวนหนึ่ง เมื่อผู้ซื้อไปทำหนี้สินเกินกว่าจำนวนเงินที่ค้ำประกันไว้ ผู้ค้ำประกันก็คงรับผิด ไม่เกินกว่าเงินที่ค้ำประกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาผัดผ่อนหนี้และการค้ำประกัน: การขยายเวลาชำระหนี้ไม่ทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้น
ทำสัญญากู้เงินมีความว่า " จำนวนเงินที่ข้าพเจ้ากู้ไปนี้ ข้าพเจ้าสัญญาจะชำระให้เสร็จภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญาเป็นต้นไป เว้นแต่ผู้ให้กู้จะได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น " และผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า " ถ้าผู้กู้ไม่สามารถชำระเงินที่ได้กู้ไปตามคำสั่งของผู้ให้กู้ ข้าพเจ้ายอมรับใช้ให้ทั้งสิ้น " ดังนี้กำหนด 6 เดือนที่ว่าไว้นั้นไม่ใช่เด็ดขาด แต่ผู้ให้กู้อาจสั่งเป็นอย่างอื่นได้ และการค้ำประกันก็เป็นไปทางยอมค้ำประกันตามอำนาจของผู้กู้ขอผัดผ่อนการชำระหนี้ต่อไป และผู้ให้กู้ยอม ก็ตามผู้ค้ำประกันก็ยังไม่หลุดพ้นจากการค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาผ่อนผันหนี้และการค้ำประกันตามอำนาจผู้ให้กู้
ทำสัญญากู้เงินมีความว่า "จำนวนเงินที่ข้าพเจ้ากู้ไปนี้ ข้าพเจ้าสัญญาจะชำระให้เสร็จภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญาเป็นต้นไป เว้นแต่ผู้ให้กู้จะได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น" และผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า"ถ้าผู้กู้ไม่สามารถชำระเงินที่ได้กู้ไปตามคำสั่งของผู้ให้กู้ ข้าพเจ้ายอมรับใช้ให้ทั้งสิ้น" ดังนี้กำหนด 6 เดือนที่ว่าไว้นั้นไม่ใช่เด็ดขาด แต่ผู้ให้กู้อาจสั่งเป็นอย่างอื่นได้ และการค้ำประกันก็เป็นไปในทางยอมค้ำประกันตามอำนาจของผู้ให้กู้ด้วย ฉะนั้นหากผู้กู้ขอผัดผ่อนการชำระหนี้ต่อไป และผู้ให้กู้ยอม ก็ตามผู้ค้ำประกันก็ยังไม่หลุดพ้นจากการค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ค้ำประกันเมื่อลูกหนี้ผิดสัญญาและมีทรัพย์สินไม่พอชำระหนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเกินเบี้ยปรับ
เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ นอกจากเบี้ยปรับตามที่กำหนดกันไว้ในสัญญาแล้ว เจ้าหนี้ยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่เสียไป เกินจากที่กำหนดเป็นเบี้ยปรับกันไว้ได้อีก ตามมาตรา 380 วรรคสอง
เจ้าหนี้ฟ้องผู้ค้ำประกันให้รับผิดแทนลูกหนี้ เพราะลูกหนี้ไม่ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้และอ้างว่าลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินพอชำระหนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่า ลูกหนี้อยู่แห่งใด ผู้ค้ำประกันพิสูจน์ไม่ได้ว่า ลูกหนี้มีทางที่จะชำระหนี้ได้ และพิสูจน์ไม่ได้ว่าการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ไม่เป็นการยาก ดังนั้นผู้ค้ำประกันจึงไม่พ้นจากความรับผิด
เจ้าหนี้ฟ้องผู้ค้ำประกันให้รับผิดแทนลูกหนี้ เพราะลูกหนี้ไม่ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้และอ้างว่าลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินพอชำระหนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่า ลูกหนี้อยู่แห่งใด ผู้ค้ำประกันพิสูจน์ไม่ได้ว่า ลูกหนี้มีทางที่จะชำระหนี้ได้ และพิสูจน์ไม่ได้ว่าการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ไม่เป็นการยาก ดังนั้นผู้ค้ำประกันจึงไม่พ้นจากความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ค้ำประกันเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ และสิทธิของเจ้าหนี้ในการเรียกร้องค่าเสียหายเกินเบี้ยปรับ
เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นอกจากเบี้ยปรับตามที่กำหนดกันไว้ในสัญญาแล้ว เจ้าหนี้ยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่เสียไปเกินจากที่กำหนดเป็นเบี้ยปรับกันไว้ได้อีกตามมาตรา 380 วรรค 2
เจ้าหนี้ฟ้องผู้ค้ำประกันให้รับผิดแทนลูกหนี้ เพราะลูกหนี้ไม่ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้และอ้างว่าลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินพอชำระหนี้เมื่อไม่ปรากฎว่าลูกหนี้อยู่แห่งใดผู้ค้ำ ประกันพิศูจน์ไม่ได้ว่าลูกหนี้มีทางที่จะชำระหนี้ได้ และพิศูจน์ไม่ได้ว่าการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ไม่เป็นการยากดังนี้นผู้ค้ำประกันจึงไม่พ้นจากความรับผิด
เจ้าหนี้ฟ้องผู้ค้ำประกันให้รับผิดแทนลูกหนี้ เพราะลูกหนี้ไม่ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้และอ้างว่าลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินพอชำระหนี้เมื่อไม่ปรากฎว่าลูกหนี้อยู่แห่งใดผู้ค้ำ ประกันพิศูจน์ไม่ได้ว่าลูกหนี้มีทางที่จะชำระหนี้ได้ และพิศูจน์ไม่ได้ว่าการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ไม่เป็นการยากดังนี้นผู้ค้ำประกันจึงไม่พ้นจากความรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันรายเดียวกัน แม้ผู้ค้ำประกันเซ็นไม่พร้อมกัน และปิดอากรแสตมป์ 1 บาท ก็ถือว่าบริบูรณ์แล้ว
สัญญากู้ฉบับเดียวมีผู้ค้ำประกัน 2 คน แม้ผู้ค้ำประกันจะเซ็นชื่อไม่พร้อมกัน ก็เป็นเรื่องค้ำประกันในหนี้รายเดียวกันสัญญาฉบับเดียวกัน ปิดอากรแสตมป์เพียง 1 บาท ก็บริบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันรายเดียวกัน แม้ผู้ค้ำประกันเซ็นไม่พร้อมกัน และปิดอากรแสตมป์ 1 บาท ถือใช้ได้
สัญญากู้ฉะบับเดียวมีผู้ค้ำประกัน 2 คน แม้ผู้ค้ำประกันจะเซ็นชื่อไม่พร้อมกัน ก็เป็นเรื่องค้ำประกันในหนี้รายเดียวกันสัญญาฉบับเดียวกัน ปิดอากรแสดมป์เพียง 1 บาท ก็บริบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจัดหายาม: ข้อความในสัญญาชัดเจน ห้ามเปลี่ยนแปลงด้วยพยานบุคคล
สัญญาประกันที่ข้อความในเอกสารปรากฎชัด อีกฝ่ายจะขอสืบพะยานบุคคลให้แตกต่างไปกับตัวอักษรไม่ได้
เงินบำเหน็จที่ยึดไว้จากหัวหน้าคนยามซึ่งเป็นคู่สัญญารับเหมาจัดหายาม และรับผิดชอบแต่ผู้เดียว ผู้ว่าจ้างจะอ้างว่าเป็นเงินรางวัลสำหรับคนยามอื่น ๆ ด้วยไม่ได้.
เงินบำเหน็จที่ยึดไว้จากหัวหน้าคนยามซึ่งเป็นคู่สัญญารับเหมาจัดหายาม และรับผิดชอบแต่ผู้เดียว ผู้ว่าจ้างจะอ้างว่าเป็นเงินรางวัลสำหรับคนยามอื่น ๆ ด้วยไม่ได้.