คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 274

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 64 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2930/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าซื้อยังไม่จดทะเบียน โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ เจ้าหนี้มีสิทธิยึดทรัพย์ได้
แม้ผู้ร้องทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินพิพาทจาก ส. และชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้วก่อนที่ ส. จะนำที่ดินดังกล่าวมาวางศาลเป็นประกันการชำระหนี้ของจำเลยเพื่อขอทุเลาการบังคับคดี แต่สิทธิของผู้ร้องก็เป็นเพียงบุคคลสิทธิซึ่งหาก ส. ผิดสัญญาเช่าซื้อก็เป็นกรณีที่ผู้ร้องต้องว่ากล่าวบังคับเอากับ ส.เมื่อ ส. ยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินพิพาทจึงยังไม่ตกไปเป็นของผู้ร้องโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย ส. ยังคงเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ โจทก์ชนะคดีแล้วยึดที่ดินพิพาทออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ได้ ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2978/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันการบังคับคดี: การที่เจ้าของทรัพย์ยังไม่ได้ทำสัญญาประกันต่อศาล แม้จะมอบอำนาจให้ทำแทน ก็ใช้บังคับกับประกันไม่ได้
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ โดยให้จำเลยหาประกันมาวาง จำเลยนำโฉนดที่ดินพร้อมหนังสือมอบอำนาจของผู้มีกรรมสิทธิ์ให้ทำสัญญาประกันต่อศาลมาวาง ระหว่างศาลสอบถามราคาประเมินไปยังเจ้าพนักงานที่ดิน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยแพ้คดี และต่อมาศาลฎีกาก็พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ดังนี้ เจ้าของที่ดินยังมิได้เข้าเป็นผู้ค้ำประกันในศาลโดยทำหนังสือประกัน และมิใช่เป็นการกระทำโดยวิธีอื่น ๆ เพื่อการชำระหนี้ตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 274 คำพิพากษาคดีนี้ย่อมใช้บังคับแก่การประกันดังกล่าวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2978/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันการชำระหนี้ตามคำพิพากษา: ต้องทำสัญญาประกันหรือกระทำการอื่นเพื่อชำระหนี้ต่อศาล
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ โดยให้จำเลยหาประกันมาวาง จำเลยนำโฉนดที่ดินพร้อมหนังสือมอบอำนาจของผู้มีกรรมสิทธิ์ให้ทำสัญญาประกันต่อศาลมาวาง ระหว่างศาลสอบถามราคาประเมินไปยังเจ้าพนักงานที่ดิน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยแพ้คดี และต่อมาศาลฎีกาก็พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ดังนี้ เจ้าของที่ดินยังมิได้เข้าเป็นผู้ค้ำประกันในศาลโดยทำหนังสือประกัน และมิใช่เป็นการกระทำโดยวิธีอื่นๆเพื่อการชำระหนี้ตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274คำพิพากษาคดีนี้ย่อมใช้บังคับแก่การประกันดังกล่าวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2401/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดไต่สวนคำร้องขอให้งด/รอการบังคับคดี เมื่อมีการจ่ายเงินตามคำบังคับและมีหลักประกันเพียงพอ
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้งดการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องก็เพื่อจะวินิจฉัยว่าข้ออ้างที่ผู้ร้องประสงค์จะขอให้งดหรือรอการจ่ายเงินให้โจทก์มีเหตุผลหรือไม่เพียงใด แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ศาลได้จ่ายเงินที่โจทก์ขอให้แก่พนักงานบังคับคดีอายัดมาให้แก่โจทก์ไปแล้ว ซึ่งเป็นการจ่ายเงินเนื่องจากการบังคับคดีของโจทก์ นอกจากนี้ศาลยังได้กำหนดเงื่อนไขให้โจทก์นำธนาคารกรุงเทพ จำกัด มาทำสัญญาค้ำประกันเงินจำนวนดังกล่าวต่อศาลอีกด้วย ดังนี้ถ้าผู้ร้องชนะคดีในที่สุด ผู้ร้องก็มีสิทธิขอให้ธนาคารดังกล่าวจ่ายเงินตามที่ทำสัญญาค้ำประกันไว้ให้ผู้ร้องได้ทันที ไม่เสียหายแต่ประการใด จึงไม่มีประโยชน์ที่จะทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องต่อไป ศาลย่อมสั่งงดการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2401/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ งดไต่สวนคำร้องขอให้งด/รอการบังคับคดี: เมื่อมีการจ่ายเงินและมีประกันเพียงพอ
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้งดการไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง ก็เพื่อจะวินิจฉัยว่าข้ออ้างที่ผู้ร้องประสงค์จะขอให้งดหรือรอการจ่ายเงินให้โจทก์มีเหตุผลหรือไม่เพียงใด แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ศาลได้จ่ายเงินที่โจทก์ขอให้แก่พนักงานบังคับคดีอายัดมาให้แก่โจทก์ไปแล้ว ซึ่งเป็นการจ่ายเงินเนื่องจากการบังคับคดีของโจทก์ นอกจากนี้ศาลยังได้กำหนดเงื่อนไขให้โจทก์นำธนาคารกรุงเทพ จำกัด มาทำสัญญาค้ำประกันเงินจำนวนดังกล่าวต่อศาลอีกด้วย ดังนี้ถ้าผู้ร้องชนะคดีในที่สุด ผู้ร้องก็มีสิทธิขอให้ธนาคารดังกล่าวจ่ายเงินตามที่ทำสัญญาค้ำประกันไว้ให้ผู้ร้องได้ทันที ไม่เสียหายแต่ประการใด จึงไม่มีประโยชน์ที่จะทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องต่อไป ศาลย่อมสั่งงดการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันยังคงมีผล แม้มีการทำสัญญายอมความและมีผู้ค้ำประกันรายใหม่ เพราะจำเลยยังไม่ได้ชำระหนี้ตามเงื่อนไข
ผู้ร้องค้ำประกันลูกหนี้ตามคำพิพากษาชั้นทุเลาการบังคับคดีระหว่างลูกหนี้อุทธรณ์ซึ่งตามสัญญามีผลจนคดีถึงที่สุด โดยนำโฉนดมาวางประกัน ชั้นฎีกาถือหลักประกันเดิม ระหว่างฎีกาโจทก์จำเลยยอมความกันแบ่งชำระหนี้ 18 งวด มีผู้อื่นเข้าค้ำประกันอีกด้วย สัญญาข้อ 8 ยอมคืนโฉนดต่อเมื่อลูกหนี้ชำระหนี้งวดที่ 7 แล้ว เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระเงินงวดที่ 7 และเนื่องจากโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยฝ่ายเดียว จำเลยไม่มีสิทธิที่จะสละและไม่ได้สิทธิอะไรจากสัญญา กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 หนี้เดิมจึงยังคงมีอยู่ดังนี้ ผู้ร้องในฐานะผู้ค้ำประกันจึงยังต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน เหตุที่โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยมีผู้ค้ำประกันตามสัญญาดังกล่าวอีก ไม่มีผลทำให้ความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันเปลี่ยนแปลงไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันยังคงมีผล แม้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยผู้ค้ำประกันเดิมยังต้องรับผิดชอบหนี้
ผู้ร้องค้ำประกันลูกหนี้ตามคำพิพากษาชั้นทุเลาการบังคับคดีระหว่างลูกหนี้อุทธรณ์ซึ่งตามสัญญามีผลจนคดีถึงที่สุด โดยนำโฉนดมาวางประกัน ชั้นฎีกาถือหลักประกันเดิม ระหว่างฎีกาโจทก์จำเลยยอมความกันแบ่งชำระหนี้ 18 งวด มีผู้อื่นเข้าค้ำประกันอีกด้วย สัญญาข้อ 8 ยอมคืนโฉนดต่อเมื่อลูกหนี้ชำระหนี้งวดที่ 7 แล้ว เมื่อปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้ชำระเงินงวดที่ 7 และเนื่องจากโจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยฝ่ายเดียว จำเลยไม่มีสิทธิที่จะสละและไม่ได้สิทธิอะไรจากสัญญา กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 852 หนี้เดิมจึงยังคงมีอยู่ ดังนี้ ผู้ร้องในฐานะผู้ค้ำประกันจึงยังต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน เหตุที่โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยมีผู้ค้ำประกันตามสัญญาดังกล่าวอีก ไม่มีผลทำให้ความรับผิดตามสัญญาค้ำประกันเปลี่ยนแปลงไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1406/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน: จำกัดเฉพาะทรัพย์สินที่วางประกันตามสัญญา
มาตรา 274 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเป็นเพียงบทบัญญัติให้อำนาจศาลที่จะบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ค้ำประกันโดยไม่ต้องฟ้องผู้ค้ำประกันเป็นคดีใหม่เท่านั้นหามีข้อความให้ปรากฏว่าผู้ค้ำประกันต้องรับผิดต่อโจทก์เกินกว่าหลักทรัพย์ที่นำมาวางประกันต่อศาลไม่ผู้ค้ำประกันจะรับผิดเพียงใด ในระยะเวลาอย่างไรต้องแล้วแต่ข้อสัญญา เมื่อตามหนังสือสัญญาค้ำประกันมีว่า ถ้าจำเลยแพ้คดีและไม่ชำระเงินให้โจทก์ตามคำพิพากษาเป็นจำนวนเงินเท่าใด ผู้ค้ำประกันยอมให้บังคับคดีเอาจากทรัพย์สินที่ผู้ค้ำประกันนำมาวางให้ไว้เป็นประกันต่อศาลได้ทันทีและในสัญญานี้ได้ระบุรายการหลักทรัพย์ที่ผู้ค้ำประกันนำมาวางโดยหลักทรัพย์นี้เป็นที่พอใจของศาลชั้นต้นทั้งโจทก์ก็ไม่คัดค้าน ยอมให้ผู้ค้ำประกันทำหนังสือสัญญาประกันได้ จึงชอบที่โจทก์จะขอบังคับเอาจากทรัพย์ที่วางไว้ตามสัญญา จะขอบังคับคดีเอากับทรัพย์สินอื่นอีกหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้อง, การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่มิได้ทำตามกฎหมาย, และสิทธิของเจ้าหนี้ในการบังคับคดี
คดีไม่มีการชี้สองสถาน คู่ความมีสิทธิขอแก้ไขคำฟ้องหรือคำให้การได้ก่อนวันนัดสืบพยาน
คำขอท้ายฟ้องในส่วนแพ่งมี 2 ข้อ จำเลยฎีกาว่า คำขอท้ายฟ้องในส่วนแพ่ง โจทก์ไม่มีสิทธิขอมาในคดีนี้ และไม่เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา โดยจำเลยมิได้กล่าวไว้โดยชัดแจ้งในฎีกาว่าเป็นคำขอข้อใด ฎีกาดังนี้จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 ศาลย่อมไม่วินิจฉัยให้
จำเลยที่ 1 ขายห้องแถวให้จำเลยที่ 3 โดยมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนการซื้อขายจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 ห้องแถวยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิร้องขอให้บังคับคดีเอากับห้องแถวนั้นได้ ศาลจึงไม่ต้องวินิจฉัยว่า การซื้อขายนั้นเป็นการฉ้อฉลหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันระงับเมื่อศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง แม้ศาลฎีกาจะกลับคำพิพากษา ก็ไม่ทำให้สัญญาค้ำประกันกลับมามีผล
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนที่นาและใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำเลยอุทธรณ์ และขอทุเลาการบังคับระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับโดยให้จำเลยหาประกันสำหรับค่าเสียหายที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาล ผู้ค้ำประกันจึงได้นำที่ดินและห้องแถว 2 ห้องมาวางเป็นหลักประกัน และทำหนังสือสัญญาค้ำประกันให้ไว้ต่อศาลชั้นต้นว่า ถ้าจำเลยแพ้คดีโจทก์และไม่สามารถชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ได้ ผู้ค้ำประกันยอมชำระหนี้แทนจำเลยจนครบโดยในสัญญาค้ำประกันไม่มีข้อความว่าผู้ค้ำประกันยอมรับผิดตลอดไปจนกว่าจะถึงที่สุด ดังนี้เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ สัญญาค้ำประกันที่ผู้ค้ำประกันทำไว้นั้นย่อมระงับสิ้นไปทันที แม้ต่อมาศาลฎีกาจะพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นก็ไม่มีผลทำให้สัญญาค้ำประกันที่ระงับไปแล้วนั้นกลับมีผลใช้บังคับได้อีกต่อไป โจทก์จึงขอให้ยึดทรัพย์ของผู้ค้ำประกันที่นำมาวางเป็นหลักประกันตามคำสั่งศาลอุทธรณ์หาได้ไม่
of 7