พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,234 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5095/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน แม้คดีอาญาไม่พบผู้กระทำผิด
บันทึกเปรียบเทียบของนายอำเภอมีข้อความว่า จำเลยเผาป่าทำให้ไฟลุกลามไหม้สวนยางพาราของโจทก์ ยางพาราเสียหาย 1,211 ต้นโจทก์คิดค่าเสียหาย 250,000 บาท จำเลยยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามจำนวนดังกล่าวภายใน 70 วัน และจำเลยลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ถือเป็นข้อตกลงที่โจทก์และจำเลยระงับข้อพิพาทเรื่องไฟไหม้สวนยางพาราของโจทก์ซึ่งมีอยู่แล้วให้เสร็จไปจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความที่มีผลผูกพันโจทก์และจำเลยแม้ต่อมาจะปรากฏว่าคดีอาญาที่จำเลยถูกฟ้องฐานทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอให้รับฟังได้ว่าจำเลยจุดไฟเผาหญ้าโดยประมาทเป็นเหตุให้ไฟไหม้สวนยางพาราของโจทก์ และคดีถึงที่สุดแล้วก็ตามโจทก์จำเลยก็ยังคงต้องผูกพันกันตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4356/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงใหม่แทนที่สัญญาเดิมได้ หากทำโดยความสมัครใจและมีอำนาจใช้ดุลพินิจ
โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ให้ดำเนินการตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลสั่งให้นัดพร้อมในวันนัดพร้อม โจทก์ จำเลย ทนายโจทก์ ทนายจำเลยมาศาล โจทก์ได้ตกลงกับจำเลยในศาลมีข้อความว่า โจทก์จำเลยไม่อาจบังคับตามข้อ 2ของสัญญาประนีประนอมยอมความจึงให้บังคับตามข้อ 1 แทน ศาลได้บันทึกข้อความดังกล่าวไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้ว ดังนี้จำเลยจะอ้างว่าข้อตกลงกันใหม่ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความ และจำเลยไม่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงกันใหม่หาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4356/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงใหม่ระหว่างคู่ความหลังทำสัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันและใช้บังคับได้
โจทก์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลบังคับโจทก์ให้ดำเนินการตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลสั่งให้นัดพร้อมในวันนัดพร้อม โจทก์ จำเลย ทนายโจทก์ ทนายจำเลยมาศาล โจทก์ได้ตกลงกับจำเลยในศาลมีข้อความว่า โจทก์จำเลยไม่อาจบังคับตามข้อ 2 ของสัญญาประนีประนอมยอมความจึงให้บังคับตามข้อ 1 แทน ศาลได้บันทึกข้อความดังกล่าวไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้ว ดังนี้จำเลยจะอ้างว่าข้อตกลงกันใหม่ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความ และจำเลยไม่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงกันใหม่หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4006/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความสมบูรณ์ แม้ไม่มีระบุคดีอาญาชัดเจน หากตกลงชดใช้ค่าเสียหายจากการกระทำละเมิด
จำเลยนำกุญแจไปคล้อง ห้องพักที่โจทก์เช่าจากจำเลยเพราะโจทก์ไม่จ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้าทำให้โจทก์เข้าห้องไม่ได้ เมื่อโจทก์ได้ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่าได้รับความเสียหายไม่สามารถเข้าห้องพักได้ ถือได้ว่าเป็นกรณีที่โจทก์กับจำเลยมีข้อพิพาทกันแล้ว รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีที่จำเลยยอมจ่ายเงินให้แก่โจทก์จำนวน 20,000 บาท จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และเมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไม่มีข้อความที่โจทก์และจำเลยตกลงระงับคดีอาญาแผ่นดินแต่ประการใดคงกล่าวถึงเรื่องที่จำเลยนำกุญแจไปล็อกห้องที่โจทก์เช่าไว้ ทำให้โจทก์เข้าห้องไม่ได้ และได้รับความเสียหาย กับจำเลยทั้งสองตกลงที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ซึ่งเป็นเรื่องทางแพ่งเท่านั้นสัญญาประนีประนอมยอมความจึงไม่มีวัตถุที่ประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4006/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: การยอมจ่ายค่าเสียหายจากละเมิดถือเป็นข้อพิพาททางแพ่ง ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
จำเลยนำกุญแจไปคล้อง ห้องพักที่โจทก์เช่าจากจำเลยเพราะโจทก์ไม่จ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้าทำให้โจทก์เข้าห้องไม่ได้ เมื่อโจทก์ได้ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่าได้รับความเสียหายไม่สามารถเข้าห้องพักได้ ถือได้ว่าเป็นกรณีที่โจทก์กับจำเลยมีข้อพิพาทกันแล้ว รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีที่จำเลยยอมจ่ายเงินให้แก่โจทก์จำนวน 20,000 บาท จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และเมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไม่มีข้อความที่โจทก์และจำเลยตกลงระงับคดีอาญาแผ่นดินแต่ประการใดคงกล่าวถึงเรื่องที่จำเลยนำกุญแจไปล็อกห้องที่โจทก์เช่าไว้ ทำให้โจทก์เข้าห้องไม่ได้ และได้รับความเสียหาย กับจำเลยทั้งสองตกลงที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ซึ่งเป็นเรื่องทางแพ่งเท่านั้นสัญญาประนีประนอมยอมความจึงไม่มีวัตถุที่ประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3855/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระงับข้อพิพาทและการปฏิบัติตามสัญญา: สิทธิของคู่กรณีเมื่อฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม
โจทก์จำเลยตกลงกันให้โจทก์ถอนฟ้องคดีนี้ และตกลงกันด้วยว่าโจทก์จำเลยจะถอนฟ้องหรือถอนอุทธรณ์คดีอื่น ๆ ที่ฟ้องร้องพัวพันกันอยู่ระหว่างโจทก์กับจำเลยทุกคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา โดยคู่ความจะถอนฟ้องหรือถอนอุทธรณ์คดีอื่น ๆ ภายในกำหนด7 วัน นับแต่วันที่ศาลสั่งไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องและจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความดังนี้ แม้ข้อตกลงดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นการระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่แล้วให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันโดยมีเงื่อนไขที่แต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติตาม และจำเลยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นแล้ว แต่โจทก์ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขโดยไม่ถอนฟ้องคดีแพ่งเรื่องหนึ่งดังที่ตกลงกันตามรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องไปว่ากล่าวกันในคดีนั้นหรือดำเนินคดีกับโจทก์เกี่ยวกับคดีแพ่งที่โจทก์ไม่ถอนฟ้องนั้นเป็นคดีใหม่ จำเลยไม่มีสิทธิที่จะร้องขอต่อศาลในคดีนี้ให้ออกหมายเรียกโจทก์มาสอบถามและบังคับให้ถอนฟ้องหรือออกหมายขังไว้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3289/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความระงับสิทธิเรียกร้อง ผู้รับประกันภัยไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม
โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยในการขนส่งสินค้าที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ผู้รับตราส่งสั่งซื้อจากประเทศสิงค์โปร มายังท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของบริษัทผู้ขายในการขนส่งสินค้าดังกล่าว และได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ให้ขนถ่ายสินค้านั้นลงจากเรือไปโรงพักสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อปรากฏว่าสินค้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ผู้รับตราส่งที่ส่งมาทางทะเลนั้นสูญหาย และฝ่ายจำเลยทั้งสองซึ่งต้องรับผิดในการสูญหายของสินค้าดังกล่าวได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ตามข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งที่ระบุไว้ในใบตราส่งครบถ้วนตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. และจำเลยทั้งสองแล้ว เช่นนี้จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเหลืออยู่ให้โจทก์ผู้รับประกันภัยรับช่วงมาฟ้องเรียกร้องเอาแก่จำเลยทั้งสองอีก ถึงแม้โจทก์จะได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ตามพันธะ ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยนอกจากที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ได้รับจากจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็ตาม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3289/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับประกันภัยขนส่งสินค้า: สิทธิเรียกร้องระงับหลังประนีประนอมยอมความ สัญญาประกันภัยไม่สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมได้
โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยในการขนส่งสินค้าที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ผู้รับตราส่งสั่งซื้อจากประเทศสิงค์โปร มายังท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของบริษัทผู้ขายในการขนส่งสินค้าดังกล่าว และได้ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ให้ขนถ่ายสินค้านั้นลงจากเรือไปโรงพักสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อปรากฏว่าสินค้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ผู้รับตราส่งที่ส่งมาทางทะเลนั้นสูญหาย และฝ่ายจำเลยทั้งสองซึ่งต้องรับผิดในการสูญหายของสินค้าดังกล่าวได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ตามข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งที่ระบุไว้ในใบตราส่งครบถ้วนตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. และจำเลยทั้งสองแล้ว เช่นนี้จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเหลืออยู่ให้โจทก์ผู้รับประกันภัยรับช่วงมาฟ้องเรียกร้องเอาแก่จำเลยทั้งสองอีก ถึงแม้โจทก์จะได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ตามพันธะ ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยนอกจากที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธ. ได้รับจากจำเลยตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2188/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับมรดก: สิทธิในการแบ่งทรัพย์สินถูกจำกัดตามข้อตกลง
โจทก์จำเลยได้เจรจากันเรื่องทรัพย์มรดกของบิดามารดาฝ่ายจำเลยเสนอให้โคแก่โจทก์ 3 ตัวเท่านั้น ฝ่ายโจทก์ยืนยันจะขอแบ่งที่นาด้วย และโจทก์จำเลยลงชื่อไว้ในบันทึกเช่นนี้ บันทึกดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลยในเรื่องทรัพย์สินอื่นที่มิใช่ที่ดินเมื่อโจทก์ได้รับโคไป 3 ตัวแล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอแบ่งทรัพย์สินอื่นเว้นแต่ที่ดิน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2188/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งมรดกและการบังคับแบ่งทรัพย์สินหลังจากการครอบครองร่วมกัน
โจทก์จำเลยได้เจรจากันเรื่องทรัพย์มรดกของบิดามารดา ฝ่ายจำเลยเสนอให้โคแก่โจทก์ 3 ตัวเท่านั้น ฝ่ายโจทก์ยืนยันจะขอแบ่งที่นาด้วย และโจทก์จำเลยลงชื่อไว้ในบันทึก เช่นนี้ ถือว่าบันทึกดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลยในเรื่องทรัพย์สินอื่นที่มิใช่ที่ดิน เมื่อโจทก์ได้รับโคไป 3 ตัว ตามข้อตกลงดังกล่าวแล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอแบ่งทรัพย์สินอื่นจากจำเลยได้เว้นแต่ที่ดินซึ่งเดิมเป็นทรัพย์มรดกของบิดามารดา และบ้านซึ่งเป็นส่วนควบ