พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,234 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2259/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในฐานะทางกฎหมาย vs. คุณสมบัติบุคคล: สัญญาประนีประนอมยอมความ
แม้จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมขายที่ดินคืนแก่โจทก์เพราะเข้าใจผิดคิดว่าโจทก์เป็นทายาทของเจ้ามรดก ก็เป็นเรื่องจำเลยสำคัญผิดต่อฐานะทางกฎหมายของโจทก์เท่านั้น หาใช่ความสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคลซึ่งตามปกติย่อมเป็นสาระสำคัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 120 อันจะทำให้สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลยเป็นโมฆียะไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1918/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้กับการฟ้องชำระหนี้ทั้งหมด: ข้อตกลงที่ไม่ครอบคลุมหนี้ทั้งหมดไม่ถือเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยเป็นหนี้ค่าสินค้าโจทก์ 45,400 บาท ต่อมาได้มีการตกลงกันที่สถานีตำรวจโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้ในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีว่าจำเลยยอมรับว่าเป็นหนี้โจทก์ 29,609 บาท และจะผ่อนชำระให้แก่โจทก์เดือนละ1,000 บาท ส่วนอีก 15,791 บาท จำเลยจะตกลงกันเองกับโจทก์ต่อไป บันทึกดังกล่าวไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความเพราะจำเลยยอมรับผิดเพียง 29,609บาทส่วนอีก 15,791 บาท จะได้ไปตกลงกันเองข้อพิพาทในเรื่องหนี้สินระหว่างโจทก์จำเลยจึงยังคงมีอยู่หาได้ระงับไปไม่ แต่เป็นเพียงหนังสือรับสภาพหนี้และข้อสัญญาของจำเลยฝ่ายเดียวที่จะผ่อนชำระหนี้สำหรับเงินจำนวน29,609 บาท ให้แก่โจทก์ เมื่อจำเลยผิดสัญญาโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมดในคราวเดียวกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1918/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์มีสิทธิฟ้องชำระหนี้ทั้งหมดได้
จำเลยเป็นหนี้ค่าสินค้าโจทก์ 45,400 บาท ต่อมาได้มีการตกลงกันที่สถานีตำรวจโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้ในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีว่าจำเลยยอมรับว่าเป็นหนี้โจทก์ 29,609 บาท และจะผ่อนชำระให้แก่โจทก์เดือนละ 1,000 บาท ส่วนอีก 15,791 บาท จำเลยจะตกลงกันเองกับโจทก์ต่อไป บันทึกดังกล่าวไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความเพราะจำเลยยอมรับผิดเพียง 29,609บาทส่วนอีก 15,791 บาท จะได้ไปตกลงกันเองข้อพิพาทในเรื่องหนี้สินระหว่างโจทก์จำเลยจึงยังคงมีอยู่หาได้ระงับไปไม่ แต่เป็นเพียงหนังสือรับสภาพหนี้และข้อสัญญาของจำเลยฝ่ายเดียวที่จะผ่อนชำระหนี้สำหรับเงินจำนวน 29,609 บาท ให้แก่โจทก์ เมื่อจำเลยผิดสัญญา โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมดในคราวเดียวกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความในการแบ่งแยกที่ดิน ถือเป็น binding agreement ที่จำเลยต้องปฏิบัติตาม
จำเลยขายที่ดินให้โจทก์โดยไม่ได้กำหนดว่าส่วนที่ขายอยู่ตอนใดของโฉนด แต่จำเลยได้จดทะเบียนให้โจทก์ถือกรรมสิทธิ์รวมในโฉนดนั้น แล้วต่อมาโจทก์จำเลยได้ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดแบ่งแยกโฉนดที่ดินนี้โดยให้เจ้าพนักงานที่ดินนำแผนที่สังเขปแสดงรูปส่วนของที่ดินที่จะแบ่งแยกไว้และโจทก์จำเลยได้ลงลายมือชื่อในเอกสารบันทึกการแบ่งแยกที่ดินไว้เป็นหลักฐานด้วย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการแบ่งแยกที่ดินที่โจทก์จำเลยถือกรรมสิทธิ์รวมกันอยู่ จำเลยจึงมีหน้าที่จะต้องยึดถือปฏิบัติตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันบังคับใช้ได้ แม้จะไม่ได้ระบุรายละเอียดการแบ่งแยกที่ดินชัดเจน
จำเลยขายที่ดินให้โจทก์โดยไม่ได้กำหนดว่าส่วนที่ขายอยู่ตอนใดของโฉนด แต่จำเลยได้จดทะเบียนให้โจทก์ถือกรรมสิทธิ์รวมในโฉนดนั้น แล้วต่อมาโจทก์จำเลยได้ขอให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดแบ่งแยกโฉนดที่ดินนี้โดยให้เจ้าพนักงานที่ดินนำแผนที่สังเขปแสดงรูปส่วนของที่ดินที่จะแบ่งแยกไว้และโจทก์จำเลยได้ลงลายมือชื่อในเอกสารบันทึกการแบ่งแยกที่ดินไว้เป็นหลักฐานด้วยดังนี้ถือได้ว่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความเพื่อระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการแบ่งแยกที่ดินที่โจทก์จำเลยถือกรรมสิทธิ์รวมกันอยู่จำเลยจึงมีหน้าที่จะต้องยึดถือปฏิบัติตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความระงับมูลหนี้ละเมิด ทำให้จำเลยที่ 2-3 หลุดพ้นความรับผิด
จำเลยที่ 1 ขับรถชนรถของ ป. เสียหายจึงทำข้อตกลงค่าเสียหายในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีมีความว่า ป. เรียกร้องให้ จำเลยที่ 1 นำรถของ ป. ไปซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดี จำเลยที่ 1 ตกลงตามที่ ป. เรียกร้อง คู่กรณีตกลงกันได้ ไม่ประสงค์จะฟ้องร้องกัน ในทางแพ่งและทางอาญาต่อกันอีกต่อไป ข้อตกลงดังกล่าวนี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ มีผลให้มูลหนี้ละเมิดที่จำเลย ที่ 1 ทำระงับสิ้นไป ดังนั้น จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยรถของจำเลยที่ 2 จึงพลอยหลุดพ้น ความรับผิดไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความระงับมูลหนี้ละเมิด ทำให้จำเลยที่ 2-3 หลุดพ้นความรับผิด
จำเลยที่ 1 ขับรถชนรถของ ป. เสียหายจึงทำข้อตกลงค่าเสียหายในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีมีความว่า ป. เรียกร้องให้ จำเลยที่ 1 นำรถของ ป. ไปซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดี จำเลยที่ 1 ตกลงตามที่ ป. เรียกร้องคู่กรณีตกลงกันได้ ไม่ประสงค์จะฟ้องร้องกัน ในทางแพ่งและทางอาญาต่อกันอีกต่อไป ข้อตกลงดังกล่าวนี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ มีผลให้มูลหนี้ละเมิดที่จำเลยที่ 1 ทำระงับสิ้นไป ดังนั้น จำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยรถของจำเลยที่ 2 จึงพลอยหลุดพ้น ความรับผิดไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความครอบคลุมค่าธรรมเนียมทั้งหมด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระแทน
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อหน้าศาลว่า จำเลยยินยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งพร้อมค่าเสียหายให้แก่โจทก์ โดยให้โจทก์รับเงินของจำเลยที่บุคคลภายนอกส่งมาวางศาลได้ทันที ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับทั้งสองฝ่าย ต่อมาโจทก์อ้างว่าในการรับเงินที่บุคคลภายนอกส่งมาวางศาลนั้นโจทก์ได้รับไม่เต็มจำนวน เนื่องจากต้องหักค่าธรรมเนียมถอนการอายัด ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงินส่วนที่ขาดแก่โจทก์ ดังนี้เมื่อโจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ ย่อมหมายความว่าค่าธรรมเนียมส่วนนี้เป็นพับด้วย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระแทน อนึ่ง โจทก์เป็นผู้ดำเนินการขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่ศาลสั่งอายัดไว้ให้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีหน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมส่วนนี้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่702/2522)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: ค่าธรรมเนียมถอนอายัดเป็นพับ ผู้รับประโยชน์ต้องชำระ
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อหน้าศาลว่าจำเลยยินยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งพร้อมค่าเสียหายให้แก่โจทก์โดยให้โจทก์รับเงินของจำเลยที่บุคคลภายนอกส่งมาวางศาลได้ทันทีค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับทั้งสองฝ่าย ต่อมาโจทก์อ้างว่าในการรับเงินที่บุคคลภายนอกส่งมาวางศาลนั้นโจทก์ได้รับไม่เต็มจำนวน เนื่องจากต้องหักค่าธรรมเนียมถอนการอายัด ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระเงินส่วนที่ขาดแก่โจทก์ ดังนี้ เมื่อโจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ ย่อมหมายความว่าค่าธรรมเนียมส่วนนี้เป็นพับด้วย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระแทน อนึ่ง โจทก์เป็นผู้ดำเนินการขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่ศาลสั่งอายัดไว้ให้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมมีหน้าที่ชำระค่าธรรมเนียมส่วนนี้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่702/2522)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3910/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: การบังคับตามสัญญาต่างตอบแทน และผลของการผิดสัญญา
แม้สัญญาเอกสารหมาย ล.3 ข้อ 10 ระบุไว้ว่า "ข้อตกลงใดที่กระทำด้วยวาจานอกเหนือจากที่บันทึกไว้แล้วนี้ต่อหน้านายพิเชษฐพันธุ์วิชาติกุล ทนายความ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มอบให้เป็นผู้ดำเนินการประนีประนอมจนเกิดเป็นข้อตกลงนี้ทั้งหมด ให้นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุลเป็นผู้ชี้ขาด" แต่เมื่อสัญญานี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลย อันมีผลให้โจทก์จำเลยต่างได้สิทธิตามที่แสดงในสัญญาดังกล่าว ดังนั้นข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยด้วยวาจาอย่างใดที่มิได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในสัญญานี้คู่ความจะนำพยานบุคคลมาสืบเพิ่มเติม ตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในสัญญาดังกล่าวไม่ได้ เพราะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 (ข)
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งคู่สัญญาจำต้องปฏิบัติต่อกันตามสัญญาที่ระบุไว้ทุกข้อ อันมีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนนั้นเมื่อฝ่ายหนึ่งยังมิได้ปฏิบัติการชำระหนี้ให้ครบถ้วนตามสัญญา ก็จะหยิบยกข้อตกลงเฉพาะข้อหนึ่งข้อใดมาบังคับเอากับอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเป็นประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวหาได้ไม่
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งคู่สัญญาจำต้องปฏิบัติต่อกันตามสัญญาที่ระบุไว้ทุกข้อ อันมีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนนั้นเมื่อฝ่ายหนึ่งยังมิได้ปฏิบัติการชำระหนี้ให้ครบถ้วนตามสัญญา ก็จะหยิบยกข้อตกลงเฉพาะข้อหนึ่งข้อใดมาบังคับเอากับอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเป็นประโยชน์ของตนฝ่ายเดียวหาได้ไม่