พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,234 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3380/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: สิทธิเรียกร้องระงับสิ้นสุด
โจทก์กับ ท. ทำบันทึกข้อตกลงเลิกคดีกัน โดยรับว่าสัญญาจะซื้อขายได้ทำขึ้นโดยไม่ถูกต้องทำนองคลองธรรม และจะไม่ฟ้อง ท. กับทายาทเกี่ยวกับที่ดินพิพาทในทุกกรณีบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาซึ่งโจทก์กับ ท. ทำขึ้นเพื่อระงับข้อพิพาทซึ่งมีอยู่ให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 มีผลให้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะขอให้ ท. หรือจำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ท. ปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อขายได้ระงับสิ้นไปตามมาตรา 852 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2945/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความสละสิทธิเรียกร้องเงินบำเหน็จ: มีผลผูกพันลูกจ้าง
เมื่อลูกจ้างออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุลูกจ้างได้ทำข้อตกลงกับนายจ้างเป็นหนังสือว่า ลูกจ้างได้รับค่าชดเชยและเงินผลประโยชน์เนื่องจากการปลดเกษียณจากนายจ้างแล้วลูกจ้างรับรองว่าจะไม่ใช้สิทธิเรียกเงินอื่นใดจากนายจ้างอีกต่อไป ดังนี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความที่หมายความว่าลูกจ้างยอมสละสิทธิเรียกร้องเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับจากนายจ้างทุกประเภทซึ่งรวมทั้งเงินบำเหน็จที่ยังขาดอยู่ด้วย ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินบำเหน็จที่ยังขาดจากนายจ้างอีกต่อไป
การที่ลูกจ้างยอมสละสิทธิในการรับเงินบำเหน็จนั้นเป็นเรื่องลูกจ้างยอมสละสิทธิในจำนวนเงินที่ลูกจ้างจะพึงได้รับจากนายจ้างเท่านั้น ส่วนหลักเกณฑ์การจ่ายเงินบำเหน็จซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีอยู่อย่างไร คู่กรณีก็คงปล่อยให้เป็นไปตามเดิม จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
การที่ลูกจ้างยอมสละสิทธิในการรับเงินบำเหน็จนั้นเป็นเรื่องลูกจ้างยอมสละสิทธิในจำนวนเงินที่ลูกจ้างจะพึงได้รับจากนายจ้างเท่านั้น ส่วนหลักเกณฑ์การจ่ายเงินบำเหน็จซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีอยู่อย่างไร คู่กรณีก็คงปล่อยให้เป็นไปตามเดิม จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2945/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความสละสิทธิเรียกร้องเงินบำเหน็จ: มีผลผูกพันและไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
เมื่อลูกจ้างออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุลูกจ้างได้ทำข้อตกลงกับนายจ้างเป็นหนังสือว่า ลูกจ้างได้รับค่าชดเชยและเงินผลประโยชน์เนื่องจากการปลดเกษียณจากนายจ้างแล้วลูกจ้างรับรองว่าจะไม่ใช้สิทธิเรียกเงินอื่นใดจากนายจ้างอีกต่อไป ดังนี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความที่หมายความว่าลูกจ้างยอมสละสิทธิเรียกร้องเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับจากนายจ้างทุกประเภทซึ่งรวมทั้งเงินบำเหน็จที่ยังขาดอยู่ด้วย ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกเงินบำเหน็จที่ยังขาดจากนายจ้างอีกต่อไป
การที่ลูกจ้างยอมสละสิทธิในการรับเงินบำเหน็จนั้นเป็นเรื่องลูกจ้างยอมสละสิทธิในจำนวนเงินที่ลูกจ้างจะพึงได้รับจากนายจ้างเท่านั้น ส่วนหลักเกณฑ์การจ่ายเงินบำเหน็จซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีอยู่อย่างไร คู่กรณีก็คงปล่อยให้เป็นไปตามเดิม จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
การที่ลูกจ้างยอมสละสิทธิในการรับเงินบำเหน็จนั้นเป็นเรื่องลูกจ้างยอมสละสิทธิในจำนวนเงินที่ลูกจ้างจะพึงได้รับจากนายจ้างเท่านั้น ส่วนหลักเกณฑ์การจ่ายเงินบำเหน็จซึ่งเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีอยู่อย่างไร คู่กรณีก็คงปล่อยให้เป็นไปตามเดิม จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: อำนาจตัวแทน & ผลผูกพัน แม้ไม่มีลายมือชื่อคู่กรณี
จำเลยอุทธรณ์ว่าบันทึกที่ ส. ทำขึ้นไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะคู่กรณีมิได้ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่ายและไม่มีข้อความแสดงว่าระงับข้อพิพาทที่มีอยู่ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ส. ทำบันทึกดังกล่าวในฐานะตัวแทนของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ลงลายมือชื่อก็ต้องผูกพันตามข้อความในบันทึกและใช้บังคับเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความได้ จึงเป็นข้อวินิจฉัยถูกต้องตรงประเด็นตามที่จำเลยอุทธรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2285/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: ผลผูกพันตามบันทึกที่ตัวแทนลงลายมือชื่อแทนจำเลย
จำเลยอุทธรณ์ว่าบันทึกที่ ส. ทำขึ้นไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ เพราะคู่กรณีมิได้ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่ายและไม่มีข้อความแสดงว่าระงับข้อพิพาทที่มีอยู่การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ส. ทำบันทึกดังกล่าวในฐานะตัวแทนของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ลงลายมือชื่อก็ต้องผูกพันตามข้อความในบันทึกและใช้บังคับเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความได้ จึงเป็นข้อวินิจฉัยถูกต้องตรงประเด็นตามที่จำเลยอุทธรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2139/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมยอมความยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ไม่ถือเป็นสัญญาจะซื้อขาย แม้มีการวางมัดจำ โจทก์มีสิทธิบอกเลิกได้
ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาไว้ว่า จำเลยจะซื้อที่ดินพิพาทตามที่นำชี้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 2 งาน ราคาตารางวาละ 7,000 บาท รายละเอียดอื่นจะตกลงกันต่อไป เนื้อที่ดินที่จะซื้อขายให้ถือตามที่เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดใหม่ จำเลยได้ชำระมัดจำให้โจทก์ไว้เป็นเงินจำนวนหนึ่ง และยังบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นในการที่จะยอมความกันไว้อีกสี่ข้อ ต่อมาตกลงกันเรื่องเนื้อที่ดินและการชำระราคาไม่ได้ เพราะในการแบ่งแยกโฉนดใหม่เจ้าพนักงานที่ดินจะต้องกันที่ดินริมคลองไว้ตามระเบียบเพื่อประโยชน์แก่ราชการกรมชลประทาน ดังนี้ ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่โจทก์จำเลยมีเจตนาที่จะประนีประนอมยอมความเพื่อระงับข้อพิพาท และการประนีประนอมยอมความยังหาได้ยุติลงไม่ โจทก์หรือจำเลยย่อมมีสิทธิยกเลิกข้อตกลงเบื้องต้นที่ได้กระทำกันมาแล้วเสียได้ และจะถือเอาข้อตกลงนั้นว่ามีผลเป็นสัญญาจะซื้อขายหาได้ไม่ เมื่อโจทก์บอกเลิกข้อตกลงเสียแล้วเช่นนี้ ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามประเด็นข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2139/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมยอมความยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ไม่ถือเป็นสัญญาจะซื้อขาย แม้มีการวางมัดจำ
ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาไว้ว่า จำเลยจะซื้อที่ดินพิพาทตามที่นำชี้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 2 งาน ราคาตารางวาละ 7,000 บาท รายละเอียดอื่นจะตกลงกันต่อไปเนื้อที่ดินที่จะซื้อขายให้ถือตามที่เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดใหม่จำเลยได้ชำระมัดจำให้โจทก์ไว้เป็นเงินจำนวนหนึ่งและยังบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นในการที่จะยอมความกันไว้อีกสี่ข้อ ต่อมาตกลงกันเรื่องเนื้อที่ดินและการชำระราคาไม่ได้เพราะในการแบ่งแยกโฉนดใหม่เจ้าพนักงานที่ดินจะต้องกันที่ดินริมคลองไว้ตามระเบียบเพื่อประโยชน์แก่ราชการกรมชลประทาน ดังนี้ ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่โจทก์จำเลยมีเจตนาที่จะประนีประนอมยอมความเพื่อระงับข้อพิพาทและการประนีประนอมยอมความยังหาได้ยุติลงไม่ โจทก์หรือจำเลยย่อมมีสิทธิยกเลิกข้อตกลงเบื้องต้นที่ได้กระทำกันมาแล้วเสียได้ และจะถือเอาข้อตกลงนั้นว่ามีผลเป็นสัญญาจะซื้อขายหาได้ไม่เมื่อโจทก์บอกเลิกข้อตกลงเสียแล้วเช่นนี้ ศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามประเด็นข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: กำหนดระยะเวลาชำระค่าที่ดินเป็นสาระสำคัญ หากผิดนัด สิทธิบังคับคดีเป็นอันตกไป
สัญญาประนีประนอมยอมความกำหนดว่า โจทก์ยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งให้แก่จำเลยภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันทำสัญญาและจำเลยจะไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันได้รับชำระเงินนั้นเป็นการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนเพื่อให้โจทก์ชำระค่าที่ดิน อันเป็นสารสำคัญของสัญญาซึ่งคู่สัญญาต่างก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาตามข้อสัญญาดังกล่าวเป็นคนละเรื่องกับสิทธิที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาซึ่งมีกำหนดสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา เมื่อโจทก์มิได้ชำระราคาที่ดินให้แก่จำเลยภายในกำหนดระยะเวลาตามข้อสัญญา โจทก์ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดและไม่มีสิทธิที่จะขอให้บังคับคดีแก่จำเลยให้โอนขายที่ดินแก่ตนได้ โจทก์จะอ้างว่ามีสิทธิบังคับคดีได้ภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือมีคำพิพากษาในกรณีเช่นนี้ย่อมเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความ: กำหนดระยะเวลาชำระค่าที่ดินเป็นสาระสำคัญ หากผิดนัดสิทธิบังคับคดีระงับ
สัญญาประนีประนอมยอมความกำหนดว่า โจทก์ยอมชำระเงินจำนวนหนึ่งให้แก่จำเลยภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันทำสัญญา และจำเลยจะไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่โจทก์ภายในกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันได้รับชำระเงินนั้น เป็นการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนเพื่อให้โจทก์ชำระค่าที่ดิน อันเป็นสารสำคัญของสัญญาซึ่งคู่สัญญาต่างก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาตามข้อสัญญาดังกล่าว เป็นคนละเรื่องกับสิทธิที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาซึ่งมีกำหนดสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษา เมื่อโจทก์มิได้ชำระราคาที่ดินให้แก่จำเลยภายในกำหนดระยะเวลาตามข้อสัญญา โจทก์ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดและไม่มีสิทธิที่จะขอให้บังคับคดีแก่จำเลยให้โอนขายที่ดินแก่ตนได้ โจทก์จะอ้างว่ามีสิทธิบังคับคดีได้ภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือมีคำพิพากษาในกรณีเช่นนี้ย่อมเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โมฆะของสัญญาประนีประนอมยอมความที่ขัดกับประกาศคณะปฏิวัติว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง คุ้มครองแรงงาน ซึ่งออกตามอำนาจตามความในข้อ 2 และข้อ 14 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 หมวด 5 กำหนดอัตราค่าชดเชยซึ่งนายจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้างประจำที่เลิกจ้าง และประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าวข้อ 13 วรรคสองระบุว่า'ผู้ใดมีสิทธิได้รับเงินทดแทน ค่าจ้างหรือเงินอื่นจากนายจ้างตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 13ตุลาคม 2501 ให้คงรับต่อไป' ดังนั้นการที่โจทก์ในฐานะลูกจ้างและจำเลยในฐานะนายจ้างได้ตกลงกำหนดจำนวนเงินค่าทำงานล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีวันหยุดพักผ่อนประจำปี และค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินจำนวนหนึ่งโดยโจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องเงินอื่นใดจากจำเลยอันหมายถึงเงินค่าชดเชยและเงินค่าครองชีพนั้นย่อมถือได้ว่าเป็นการตกลงที่ผิดแผกแตกต่างกับบทบัญญัติของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติขึ้น เพื่อยังให้เกิดความเป็นธรรมและความสงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมืองอันถือเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์จำเลยดังกล่าว ซึ่งมีการตกลงผิดแผกแตกต่างจากบทกฎหมายดังกล่าวจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 114