คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 472/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบกันฆ่า: การร่วมเดินทาง, ท้าทาย, และการอยู่ในที่เกิดเหตุแสดงเจตนา
จำเลยกับผู้มีชื่ออีก 3 คนเดินทางไปบ้านผู้ตายด้วยกัน คนหนึ่งร้องท้าทายผู้ตาย ๆ ลงเรือนมาแล้วเกิดทำร้ายกันขึ้นกับผู้ที่ไปด้วยกันนั้นจำเลยก็ใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที แล้วจำเลยกับผู้มีชื่อก็หนีไปด้วยกันทั้งพวกปรากฎว่าผู้ตายตายในที่เกิดเหตุนั่นเอง ดังนี้ถือว่าจำเลยกับพวกสมคบกันฆ่าผู้ตายตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษี: เมื่อมีการชี้ขาดแล้ว จำนวนเงินประเมินเดิมเป็นอันสิ้นสุด ต้องใช้จำนวนเงินที่ชี้ขาดใหม่ในการคำนวณค่าปรับ
ในกรณีที่มีอุทธรณ์การประเมินภาษีโรงเรือนนั้น เมื่อมีการชี้ขาดจำนวนเงินลดลงกว่าที่ประเมินไว้เดิมแล้วก็ต้องถือจำนวนเงินประเมินตามคำชี้ขาดนั้นส่วนจำนวนเงินประเมินเดิมเป็นอันหมดไป ฉะนั้นเมื่อจะมีการเรียกเอาค่าภาษีเพิ่ม เพราะผู้รับประเมินเอาเงินค่าภาษีมาชำระช้ากว่ากำหนดนั้น ก็ต้องคิดเพิ่มเอาจากอัตราที่ชี้ขาดมาใหม่นั้น จะคิดเอาจากอัตราจำนวนเงินประเมินเดิมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 458/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีโรงเรือนใหม่มีผลเหนือกว่าเดิม ค่าภาษีเพิ่มคำนวณจากอัตราที่ชี้ขาดใหม่
ในกรณีที่มีอุทธรณ์การประเมินภาษีโรงเรือนนั้นเมื่อมีการชี้ขาดจำนวนเงินลดลงกว่าที่ประเมินไว้เดิมแล้วก็ต้องถือจำนวนเงินประเมินตามคำชี้ขาดนั้น ส่วนจำนวนเงินประเมินเดิมเป็นอันหมดไป ฉะนั้นเมื่อจะมีการเรียกเอาค่าภาษีเพิ่ม เพราะผู้รับประเมินเอาเงินค่าภาษีมาชำระช้ากว่ากำหนดนั้นก็ต้องคิดเพิ่มเอาจากอัตราที่ชี้ขาดมาใหม่นั้นจะคิดเอาจากอัตราจำนวนเงินประเมินเดิมไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินให้สหกรณ์เพื่อประโยชน์สมาชิก และสิทธิในการเรียกคืนที่ดิน
โอนที่ดินของตนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกของสหกรณ์ผู้หนึ่งกู้เงินของสหกรณ์ได้ ดังนี้ภายหลังตนจะให้สหกรณ์คืนที่ดินแก่ตนไม่ได้ แม้จะได้ชำระหนี้ที่สมาชิกผู้นั้นกู้มาจากสหกรณ์แล้วก็ดีในเมื่อข้อบังคับของสหกรณ์ หรือตามเจตนาของคู่สัญญาไม่ปรากฏว่าให้ผู้โอนเอาที่กลับคืนได้ดังนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินให้สหกรณ์เพื่อค้ำประกันหนี้ การเรียกคืนที่ดินต้องเป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์และสมาชิกภาพ
โอนที่ดินของตนให้เป็นกรรมสิทธิของสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกของสหกรณ์ผู้หนึ่งกู้เงินของสหกรณ์ได้ ดังนี้ภายหลังตนจะให้สหกรณ์คืนที่ดินแก่ตนไม่ได้ แม้จะได้ชำระหนี้ที่สมาชิกผู้นั้นกู้มาจากสหกรณ์แล้วก็ดี ในเมื่อข้อบังคับของสหกรณ์ หรือตามเจตนาของคู่สัญญาไม่ปรากฎว่าให้ผู้โอนเอาที่กลับคืนได้ดังนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานสัญญาต้องรู้เห็นการตกลง: หนังสือหย่าที่พยานไม่ทราบข้อความ หรือไม่ยืนยันลายเซ็น ถือเป็นหลักฐานฟังไม่ได้
หนังสือหย่ามีพยาน 2 คนเซ็นชื่อคนหนึ่งเซ็นเมื่อยังไม่มีลายเซ็นของใครเลย ต่อมาใครจะเซ็นชื่ออีกหรือไม่ ก็ไม่ทราบดังนี้ จะว่าพยานคนนั้นเป็นพยานรู้เห็นในการตกลงทำหนังสือหย่านั้นไม่ได้
พยานอีกคนหนึ่งเซ็นชื่อให้ในภายหลังและยืนยันไม่ได้ว่าลายเซ็นของคู่สัญญาและพยานในหนังสือนั้นจะเป็นลายเซ็นที่แท้จริงดังนี้ จะว่าพยานคนหลังนี้รู้เห็นว่าคู่สัญญาได้ตกลงกันตามหนังสือก็ไม่ได้อีก รวมความว่าหนังสือนั้นยังเรียกไม่ได้ว่าได้มีพยานรู้เห็นตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 417/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานสัญญาหย่าที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้หนังสือหย่าไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
หนังสือหย่ามีพยาน 2 คน เซ็นชื่อ คนหนึ่งเซ็นเมื่อยังไม่มีลายเซ็นของใครเลย ต่อมาใครจะเซ็นชื่ออีกหรือไม่ก็ไม่ทราบ ดังนี้ จะว่าพยานคนนั้นเป็นพยานรู้เห็นในการตกลงทำหนังสือหย่านั้นไม่ได้
พยานอีกคนหนึ่ง เซ็นชื่อให้ในภายหลังและยืนยันไม่ได้ว่าลายเซ็นของคู่สัญญาและ พยานในหนังสือนั้นจะเป็นลายเซ็นที่แท้จริง ดังนี้ จะว่าพยานคนหลังนี้รู้เห็นว่าคู่สัญญาได้ตกลงกันตามหนังสือก็ไม่ได้อีก รวมความว่าหนังสือนั้นยังเรียกไม่ได้ว่าได้มีพยานรู้เห็นตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่า: เช่าเพื่อค้า vs. อยู่อาศัย
สัญญาเช่ามีข้อความว่าเช่าเพื่อการค้า ผู้เช่าก็มีสิทธิจะต่อสู้และนำสืบได้ว่าตนเช่าเพื่ออยู่อาศัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการต่อสู้หักล้างข้อตกลงเช่าเพื่อการค้า หากผู้เช่าพิสูจน์ได้ว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัย
สัญญาเช่ามีข้อความว่าเช่าเพื่อการค้า ผู้เช่าก็มีสิทธิจะต่อสู้และนำสืบได้ว่าตนเช่าเพื่ออยู่อาศัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า และการตีความเอกสารรับเงินค่าเซ้งเป็นสัญญาเช่า
คณะกรรมการควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มีอำนาจแต่เฉพาะการเช่าที่อยู่ภายใต้ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ฉะนั้นก่อนครบกำหนดสัญญาเช่าจำเลยย่อมได้รับความคุ้มครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่ใช่เรื่องของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ มติของคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าที่ให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ในเคหะที่เช่าเองได้นั้นย่อมไม่มีผลแก่ผู้ให้เช่า
เอกสารรับเงินค่าเซ้งบ้าน มีข้อความเริ่มต้นระบุว่าผู้รับเป็นเจ้าของบ้านได้รับเงินค่าเซ้งบ้านจำนวนหนึ่งไว้แล้วและมีข้อความว่า ให้สัญญาว่าบ้านหลังนั้นจะให้ผู้ชำระเงินเช่า คิดค่าเช่าเดือนละ 40 บาท ไปจนกว่าจะหมดความต้องการแล้วลงชื่อเจ้าของบ้านผู้ให้เช่า ลงชื่อผู้เช่าและพยาน ดังนี้ ถือว่าเอกสารนี้เป็นสัญญาเช่าแล้ว
of 153