พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้หนังสือปลอมที่จำเลยทำขึ้นเองไม่เป็นความผิดฐานใช้หนังสือปลอม
หนังสือที่จำเลยปลอมขึ้นเองนั้น เมื่อจำเลยนำไปใช้ จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 227 เพราะมาตรานั้นบัญญัติเอาผิดแก่ผู้ที่เอาหนังสือซึ่งรู้ว่าเป็นของผู้อื่นเขาปลอมไปใช้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้หนังสือปลอมที่จำเลยทำขึ้นเอง ไม่อาชญากรรมตามมาตรา 227
หนังสือที่จำเลยปลอมขึ้นเองนั้น เมื่อจำเลยนำไปใช้ จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 227 เพราะมาตรานั้นบัญญัติเอาผิดแก่ผู้ที่เอาหนังสือซึ่งรู้ว่าเป็นของผู้อื่นเขาปลอมไปใช้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1280/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคัดค้านการเลือกตั้งที่ไม่เคลือบคลุม: การแสดงพฤติการณ์ที่เป็นเหตุแห่งข้อหาชัดเจนเพียงพอ
ในคดีที่โจทก์ร้องว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ เมื่อโจทก์ได้กล่าวในคำร้องถึงพฤติการณ์ต่างๆ เพื่อให้เห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยมิชอบ ถือได้ว่าโจทก์ได้แสดงแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง บังคับไว้แล้ว เพราะมีประเด็นที่ศาลจะต้องพิจารณาว่า การเลือกตั้งรายนี้เป็นไปโดยมิชอบหรือไม่ หาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากการครอบครองที่พิพาทหลังคดีถึงที่สุด และอายุความในการฟ้องละเมิด
การที่คู่ความฝ่ายหนึ่งครอบครองที่พิพาทอยู่ระหว่างคดีนั้น คู่ความฝ่ายที่ครอบครองจะยกเอาสิทธิแห่งการครอบครองดังกล่าวนี้มายันคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้
โจทก์ประมูลซื้อที่ได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วถูกจำเลยฟ้องกล่าวหาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตไปยึดที่จำเลยมาขาย ขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์สู้คดี แต่มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยยังคงครอบครองที่นั้น ปล่อยจนคดีถึงที่สุด ซึ่งล่วงเลยมา 2-3 ปี จึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดศาลให้ค่าเสียหายเพียง 1 ปี นอกนั้นขาดอายุความศาลไม่บังคับให้
คดีเรื่องก่อนจำเลยฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าเป็นของโจทก์ ได้สู้คดีกัน ในที่สุดโจทก์ชนะคดีเมื่อชนะคดีแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยเข้าครอบครองที่นั้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคนละประเด็น
โจทก์ประมูลซื้อที่ได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วถูกจำเลยฟ้องกล่าวหาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตไปยึดที่จำเลยมาขาย ขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์สู้คดี แต่มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยยังคงครอบครองที่นั้น ปล่อยจนคดีถึงที่สุด ซึ่งล่วงเลยมา 2-3 ปี จึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดศาลให้ค่าเสียหายเพียง 1 ปี นอกนั้นขาดอายุความศาลไม่บังคับให้
คดีเรื่องก่อนจำเลยฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าเป็นของโจทก์ ได้สู้คดีกัน ในที่สุดโจทก์ชนะคดีเมื่อชนะคดีแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยเข้าครอบครองที่นั้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคนละประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่พิพาทระหว่างคดีไม่ขาดอายุความ แม้โจทก์ไม่ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในคดีก่อน
การที่คู่ความฝ่ายหนึ่งครอบครองที่พิพาทอยู่ระหว่างคดีนั้น คู่ความฝ่ายที่ครอบครองจะยกเอาสิทธิแห่งการครอบครองดังกล่าวนี้มายันคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้
โจทก์ประมูลซื้อที่ได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วถูกจำเลยฟ้องกล่าวหาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตไปยึดที่จำเลยมาขาย ขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์สู้คดี แต่มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยยังคงครอบครองที่นั้น ปล่อยจนคดีถึงที่สุด ซึ่งล่วงเลยมา2-3 ปีจึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดศาลให้ค่าเสียหายเพียง 1 ปี นอกนั้นขาดอายุความศาลไม่บังคับให้
คดีเรื่องก่อนจำเลยฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าเป็นของโจทก์ ได้สู้คดีกัน ในที่สุดโจทก์ชนะคดีเมื่อชนะคดีแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยเข้าครอบครองที่นั้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคนละประเด็น
โจทก์ประมูลซื้อที่ได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วถูกจำเลยฟ้องกล่าวหาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตไปยึดที่จำเลยมาขาย ขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์สู้คดี แต่มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยยังคงครอบครองที่นั้น ปล่อยจนคดีถึงที่สุด ซึ่งล่วงเลยมา2-3 ปีจึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดศาลให้ค่าเสียหายเพียง 1 ปี นอกนั้นขาดอายุความศาลไม่บังคับให้
คดีเรื่องก่อนจำเลยฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าเป็นของโจทก์ ได้สู้คดีกัน ในที่สุดโจทก์ชนะคดีเมื่อชนะคดีแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยเข้าครอบครองที่นั้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคนละประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกเงินราชการ และการวินิจฉัยหลักฐานการปลอมเอกสาร
เงินราชการที่เบิกมาเพื่อจ่ายแก่ผู้ใด แต่ยังไม่จ่ายนั้น ไม่ถือว่าเป็นเงินของผู้ที่จะได้รับเงิน ดั่งนั้น เจ้าพนักงานผู้ใดยักยอกเงินนั้น จึงมีผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินของทางราชการ ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว
การฟังว่าจำเลยปลอมเอกสารโดยไม่มีพยานมาแสดงให้ชัดว่าจำเลยปลอม เพียงแต่ศาลนำเอกสารที่กล่าวหามาเทียบเคียงกับเอกสารฉบับอื่นแล้วลงความเห็นว่าเหมือนกับลายมือของจำเลยนั้น ไม่ชอบด้วยการวินิจฉัยหลักฐานคำพยาน
การฟังว่าจำเลยปลอมเอกสารโดยไม่มีพยานมาแสดงให้ชัดว่าจำเลยปลอม เพียงแต่ศาลนำเอกสารที่กล่าวหามาเทียบเคียงกับเอกสารฉบับอื่นแล้วลงความเห็นว่าเหมือนกับลายมือของจำเลยนั้น ไม่ชอบด้วยการวินิจฉัยหลักฐานคำพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานยักยอกเงินราชการ และการวินิจฉัยหลักฐานการปลอมแปลงเอกสาร
เงินราชการที่เบิกมาเพื่อจ่ายแก่ผู้ใด แต่ยังไม่จ่ายนั้น ไม่ถือว่าเป็นเงินของผู้ที่จะได้รับเงิน ดั่งนั้น เจ้าพนักงานผู้ใดยักยอกเงินนั้น จึงมีผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินของทางราชการ ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว
การฟังว่าจำเลยปลอมเอกสารโดยไม่มีพยานมาแสดงให้ชัดว่าจำเลยปลอม เพียงแต่ศาลนำเอกสารที่กล่าวหามาเทียบเคียงกับเอกสารฉบับอื่นแล้วลงความเห็นว่าเหมือนกับลายมือของจำเลยนั้น ไม่ชอบด้วยการวินิจฉัยหลักฐานคำพยาน
การฟังว่าจำเลยปลอมเอกสารโดยไม่มีพยานมาแสดงให้ชัดว่าจำเลยปลอม เพียงแต่ศาลนำเอกสารที่กล่าวหามาเทียบเคียงกับเอกสารฉบับอื่นแล้วลงความเห็นว่าเหมือนกับลายมือของจำเลยนั้น ไม่ชอบด้วยการวินิจฉัยหลักฐานคำพยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ข่มขู่เพื่อลักทรัพย์: การร้องบอกให้บอกที่ซ่อนทรัพย์ ไม่ถึงขั้นเป็นชิงทรัพย์
การที่จำเลยกับพวกลักทรัพย์ โดยพวกขึ้นไปบนเรือนถีบประตูพังแล้วเข้าห้องไปเก็บเอาทรัพย์ และปลดของที่ตัวเจ้าทรัพย์ไปแล้วจำเลยซึ่งอยู่ใต้ถุนได้ร้องบอกนางลีเมาะเจ้าทรัพย์ว่า'ลีเมาะ มึงต้องบอกทรัพย์ๆ ของมึงต้องบอกให้หมดว่าเอาไว้ไหน' เท่านี้ยังไม่เป็นการใช้กำลังทำร้ายหรือขู่เข็ญยังไม่ผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1256/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การข่มขู่เพื่อเอาทรัพย์สินไม่ถือเป็นชิงทรัพย์หากไม่มีการใช้กำลังหรือข่มขู่ทำร้ายร่างกายโดยตรง
การที่จำเลยกับพวกลักทรัพย์ โดยพวกขึ้นไปบนเรือนถีบประตูแล้วเข้าห้องไปเก็บเอาทรัพย์ และปลดของที่ตัวเจ้าทรัพย์ไปแล้ว จำเลยซึ่งอยู่ใต้ถุนได้ร้องบอกนางลีเมาะเจ้าทรัพย์ว่า "ลีเมาะ มึงต้องบอกทรัพย์ ๆ ของมึงต้องบอกให้หมดว่าเอาไว้ไหน" เท่านี้ยังไม่เป็นการใช้กำลังทำร้ายหรือขู่เข็ญ ยังไม่ผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1255/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ฟ้องคดีอาญา: การแก้วันเกิดเหตุที่ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบและหลงข้อต่อสู้
การขอแก้วันกระทำผิดในฟ้องเมื่อสืบพยานโจทก์ไปแล้ว 3 ปาก โดยอ้างเหตุผลในคำร้องขอแก้ฟ้องว่าเพราะรายงานการสอบสวนของพนักงานสอบสวนบกพร่องทำให้อัยการโจทก์เข้าใจผิดถือได้ว่ามีเหตุสมควรและเป็นการขอแก้รายละเอียดในฟ้อง
เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้วโจทก์ย่อมขอแก้ได้(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้นเมื่อปรากฏว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้ก็ปรากฏว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมดและจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย
เมื่อไม่เป็นเหตุให้จำเลยหลงข้อต่อสู้คดีแล้วโจทก์ย่อมขอแก้ได้(อ้างฎีกาที่ 390/2484 และที่ 364/2494)
ข้อที่ว่าการขอแก้ฟ้องจะทำให้จำเลยเสียเปรียบหรือไม่นั้นเมื่อปรากฏว่าในชั้นยื่นคำร้องขอให้ขังจำเลยก่อนฟ้องคดีนี้ก็ปรากฏว่าเหตุเกิดในวันที่ตรงกับที่ขอแก้ไขใหม่ ซึ่งจำเลยได้รับสำเนาไปแล้วไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังสืบพยานไม่หมดและจำเลยก็ยังได้นำสืบต่อสู้ตามวันที่โจทก์ขอแก้วันเกิดเหตุนั้นด้วย