คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่า: สิทธิรับมรดก vs. สิทธิครอบครอง
บุตรบุญธรรมตามกฎหมายเก่า ไม่ได้จดทะเบียนเป็นบุตรบุญธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 นั้น ไม่มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตรบุญธรรม (ประชุมใหญ่)
ฟ้องบรรยายว่าเป็นบุตรบุญธรรมของเจ้ามรดก เจ้ามรดกตายแล้วทรัพย์สินตกทอดมายังตนกับสามี ได้ครอบครองมาโดย ความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมา 6 ปี จำเลยเข้ามาไถหว่านในนาพิพาทนี้ จึงขอให้ขับไล่นั้นถือว่า โจทก์ได้อ้างสิทธิครอบครองทรัพย์พิพาทเป็นหลักแห่งข้อหาในการขอให้บังคับจำเลยด้วย มิใช่อ้างสิทธิรับมรดกแต่อย่างเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประวิงคดีและการขาดนัดพิจารณา ศาลมีอำนาจงดสืบพยานและดำเนินการพิจารณาต่อไปได้
การที่โจทก์ซึ่งรับเป็นฝ่ายสืบก่อนได้ขอเลื่อนวันสืบพยานโจทก์มาถึง 2 นัดแล้ว นัดที่ 3 โจทก์ขอเลื่อนอีก โดยอ้างว่ากำลังทำความปรองดองกับจำเลย ซึ่งไม่เป็นความจริง และพยานโจทก์ไม่มีมาศาลทั้งโจทก์กลับสั่งห้ามไม่ให้พยานโจทก์ที่รับหมายแล้วมาศาล ดังนี้ได้ชื่อว่า โจทก์ประวิงคดีให้ชักช้าตาม มาตรา 86ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
และเมื่อศาลอนุญาตให้ตัวโจทก์เข้าเบิกความเป็นพยานตนเองได้และให้สืบในวันเดียวกับพยานจำเลย ถึงวันนัดตัวโจทก์และทนายไม่มา ดังนี้ถือว่า โจทก์ขาดนัดชั้นพิจารณาตามมาตรา 197 เมื่อจำเลยร้องขอให้ดำเนินการพิจารณาสืบพยานจำเลยต่อไป จึงต้องดำเนินการพิจารณาไปตาม มาตรา205
กรณีดังกล่าวไม่ต้องด้วย มาตรา 132 ศาลจึงไม่สั่งให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประวิงคดีของโจทก์และการดำเนินการพิจารณาต่อไปตามกฎหมาย
การที่โจทก์ซึ่งรับเป็นฝ่ายสืบก่อนได้ขอเลื่อนวันสืบพะยานโจทก์มาถึง 2 นัดแล้ว นัดที่ 3 โจทก์ขอเลื่อนอีก โดยอ้างว่ากำลังทำความปรองดองกับจำเลย ซึ่งไม่เป็นความจริง และพยานโจทก์ไม่มีมาศาลทั้งโจทก์กลับสั่งห้ามไม่ให้พะยานโจทก์ที่รับหมายแล้วมาศาลดังนี้ได้ชื่อว่าโจทก์ประวิง คดีให้ชักช้าตาม ม.86 วิ.แพ่ง
และเมื่อศาลอนุญาตให้ตัวโจทก์เข้าเบิกความเป็นพะยานตนเองได้และให้สืบในวันเดียวกับพะยานจำเลยถึงวันนัดตัวโจทก์และทนายไม่มา ดังนี้ถือว่าโจทก์ขาดนัดชั้นพิจารณาตาม ม. 197 เมื่อจำเลยร้องขอให้ดำเนินการพิจารณาสืบพะยานจำเลยต่อไป จึงต้องดำเนินการพิจารณาไปตาม ม. 205
กรณีดังกล่าวไม่ต้องด้วย ม. 132 ศาลจึงไม่สั่งให้จำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายระหว่างพิจารณาคดี: ใช้กฎหมายใหม่ที่มีโทษเบากว่า
ในระหวางพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกาได้มี พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 ประกาศออกใช้เป็นกฎหมายแล้วโดยยกเลิก พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 และ พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2476 ที่โจทก์ฟ้องอ้างเป็นบทลงโทษจำเลยแล้ว มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้ใหม่ตามมาตรา 32 ซึ่งมีโทษเบากว่ามาตรา 8 พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2476 จึงต้องใช้กฎหมายใหม่เป็นบทลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 8

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กฎหมายใหม่เข้ามาใช้กลางคดี โทษเบากว่าใช้บังคับย้อนหลังได้
ในระหว่างพิจารณาคดีในชั้นศาลฎีกา ได้มีพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 ประกาศออกใช้เป็นกฎหมายแล้ว โดยยกเลิก พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ.1248 และ พระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2476 ที่โจทก์ฟ้องอ้างเป็นบทลงโทษจำเลยแล้ว มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้ใหม่ตามมาตรา 32 ซึ่งมีโทษเบากว่ามาตรา 8 พระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2476 จึงต้องใช้กฎหมายใหม่เป็นบทลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่ากำหนดเงื่อนไขชำระค่าเช่าและสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันที หากผิดสัญญา การบอกเลิกสัญญาไม่ต้องอาศัยบทบัญญัติมาตรา 560
สัญญาเช่า มีข้อความกำหนดการชำระค่าเช่ากันว่าถ้าผู้เก็บค่าเช่ามิได้ไปเก็บค่าเช่า จนล่วงพ้นวันที่ 7 ของเดือนนั้นไปแล้ว ผู้เช่าจะต้องนำค่าเช่าประจำเดือนนั้นไปชำระ ณ สำนักงานของผู้ให้เช่าภายในวันที่ 10 ของเดือนนั้น และมีอีกข้อหนึ่งว่า ถ้าผู้เช่าประพฤติผิดสัญญานี้ในข้อหนึ่งข้อใด ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิจะบอกเลิกเพิกถอนสัญญาเช่าได้ทันทีโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้เช่าทราบก็ได้ ดังนี้ เมื่อผู้เช่างดส่งค่าเช่าถึง 3 เดือน ผู้ให้เช่าจึงบอกเลิกสัญญาเช่า โดยไม่ต้องบอกกล่าวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 ได้ เพราะความในมาตรา 560 นี้ จะยกมาใช้ได้ต่อเมื่อมิได้มีข้อสัญญาดังกล่าวต่อกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมงในบ่อส่วนตัวที่ไม่ใช่บ่อล่อสัตว์น้ำจากแหล่งสาธารณะ ไม่ต้องขออนุญาต
ทำการวิดน้ำจับปลาในบ่อ ซึ่งอยู่ในที่ดินของตนเองเมื่อบ่อนั้นไม่ใช่เป็นบ่อที่ล่อสัตว์น้ำจากที่จับสัตว์น้ำแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นบ่อสัตว์น้ำดังที่ บัญญัติไว้ในกฎกระทรวงฉะบับที่ 6 พ.ศ. 2490 ข้อ 1 ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.การประมง 2490
ทำการประมงในบ่อเช่นนี้ จึงไม่ขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประมงในบ่อส่วนตัวที่ไม่ใช่บ่อล่อสัตว์น้ำจากแหล่งสาธารณะ ไม่ต้องขออนุญาต
ทำการวิดน้ำจับปลาในบ่อ ซึ่งอยู่ในที่ดินของตนเอง เมื่อบ่อนั้นไม่ใช่เป็นบ่อที่ล่อสัตว์น้ำจากที่จับสัตว์น้ำแล้วก็ไม่ถือว่า เป็นบ่อล่อสัตว์น้ำ ดังที่บัญญัติไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 6 พ.ศ.2490 ข้อ 1 ซึ่งออกตามพ.ร.บ.การประมง 2490
ทำการประมงในบ่อเช่นนี้ จึงไม่ต้องขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101-1102/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเข้าใจผิดเรื่องทางสาธารณะและการกระทำโดยไม่มีเจตนาชั่วร้าย ไม่ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 324
ทำลายคันนาของเขาแล้วพาเกวียนเดินไปตามทางในนาของเขาโดยเชื่อว่าเป็นที่สาธารณะโดยทางอำเภอได้ขอ อนุญาตเจ้าของที่นา และได้มีการประชุมยินยอมทำทางนี้เพื่อให้เกวียนเดินสดวก เช่นนี้ถือว่าจำเลยมิได้มีเจตนาชั่วร้ายในการกระทำ จะเอาผิดแก่จำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 324 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101-1102/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความเสียหายในที่ดินของผู้อื่นโดยเข้าใจผิดถึงสิทธิในทางเดิน ศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่มีเจตนาชั่วร้าย
ทำลายคันนาของเขาแล้วพาเกวียนเดินไปตามทางในนาของเขาโดยเชื่อว่าเป็นที่สาธารณะโดยทางอำเภอได้ขออนุญาตเจ้าของที่นา และได้มีการประชุมยินยอมทำทางนี้เพื่อให้เกวียนเดินสะดวก เช่นนี้ ถือว่าจำเลยมิได้มีเจตนาชั่วร้ายในการกระทำ จะเอาผิดแก่จำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา324 ไม่ได้
of 153