คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 958/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองมรดกโดยบุตรและการแบ่งมรดกของบิดามารดาที่ต่างมารดา
การที่บุตรได้ไปมาหาสู่บิดาในที่ดินซึ่งเป็นมรดกของมารดาตกทอดมายังบิดาและบุตร ทั้งบุตรได้ใช้สิทธิในที่ดินนั้นเป็นต้นว่าได้เก็บผลไม้และตัดไม้ไผ่ในที่พิพาทไปใช้สอยเสมอมาเสมือนตนเป็นเจ้าของด้วยนับแต่มารดาตายจนถึงบิดาตายเป็นเวลากว่า 1 ปี ถือได้ว่าบุตรนั้นได้ครอบครองที่มาด้วยกันกับบิดา
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกของบิดามารดาจากจำเลย ผู้ซึ่งร่วมบิดากันแต่ต่างมารดานั้น จำเลยยกอายุความมรดกตามมาตรา 1755 มายันโจทก์ได้เฉพาะมรดกส่วนของบิดาเท่านั้น ส่วนมรดกของมารดาโจทก์จำเลยมิได้เป็นทายาทจะนำอายุความมรดกมาตัดฟ้องด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 934/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าเสียหายต่อเนื่องจากการผิดสัญญา คดีเข้าข่าย ม.142(4) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ค่าธรรมเนียมไม่จำกัดสิทธิเรียกร้อง
โจทก์ฟ้องและเรียกนาคืนและค่าเสียหายเป็นรายปี ตั้งแต่ปีที่ฟ้องจำเลยจนกว่าจะส่งคืน โจทก์เสียค่าธรรมเนียมศาลเฉพาะค่าเสียหายในปีที่ฟ้องเท่านั้น ส่วนค่าเสียหายรายปีต่อไประหว่างที่ยังไม่ส่งคืน ไม่ต้องเสียเพราะคดีเข้าลักษณะตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสร้างสะพานบนทางสาธารณะเดิม แม้รุกล้ำที่ดินบ้างเล็กน้อย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง
จำเลยสร้างสะพานข้ามคูสาธารณะขึ้นใหม่แทนสะพานเก่าได้สร้างตามแนวสะพานเก่า ซึ่งสาธารณชนใช้มานมนามหลายสิบปีแล้ว แม้จำเลยจะเพิ่งสร้างขึ้นใหม่เพียง 2-3 ปีเพราะสะพานเก่าชำรุดแล้วและแม้ปรากฏว่าเชิงสะพานล้ำเข้าไปในเขตโฉนดของโจทก์ 2 เมตรเศษ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสร้างสพานรุกล้ำที่ดินสาธารณะ: สิทธิของเจ้าของที่ดิน vs. ประโยชน์สาธารณะ
จำเลยสร้างสพานข้ามคูสาธารณะขึ้นใหม่แทนสพานเก่าได้สร้างตามแนวสพานเก่าซึ่งสาธารณชนใช้มานมนานหลายสิบปีแล้ว แม้จำเลยจะเพิ่งสร้างขึ้นใหม่เพียง 2-3 ปี เพราะสพานเก่าชำรุดแล้วและแม้ปรากฎว่าเชิงสพานล้ำเข้าไปในเขตต์โฉนดของโจทก์ 2 เมตรเศษ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินแล้วทิ้งร้าง ผู้ครอบครองมีสิทธิเหนือกว่า
ซื้อที่ดินจากผู้อื่นโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่อำเภอ แต่ก็ได้ทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าหลายปีจนมีผู้มาขอจับจองเจ้าพนักงานผู้ไปทำการรังวัดก็เห็นเป็นที่ว่างเปล่า จึงได้ออกใบเหยียบย่ำให้ แล้วผู้นั้นได้เข้าครอบครอง ดังนี้ผู้ขอจับจองและเข้าครอบครองจึงมีสิทธิดีกว่าผู้ซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินทิ้งร้างและสิทธิของผู้ครอบครอง: ผู้ซื้อทิ้งที่ดินไว้นานจนถูกผู้อื่นครอบครอง ย่อมเสียสิทธิ
ซื้อที่ดินจากผู้อื่นโดยทำสัญญาซื้อขายกันที่อำเภอ แต่ก็ได้ทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าหลายปี จนมีผู้มาขอจับจอง เจ้าพนักงานผู้ไปทำการรังวัดก็เห็นเป็นที่ว่างเปล่า จึงได้ออกใบเหยียบย่ำให้ แล้วผู้นั้นได้เข้าครอบครองดังนี้ ผู้ขอจับจองและเข้าครอบครองจึงมีสิทธิดีกว่าผู้ซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิไม่สุจริตของสามีในการบอกล้างนิติกรรมขายฝากที่ภรรยาทำโดยไม่ได้รับความยินยอม
สามีเคยให้ภรรยาเอาที่ดินไปจำนองและมอบเงินไปชำระดอกเบี้ย และไถ่ถอนมาหลายครั้งแล้ว ภายหลังภรรยาเอาที่นี้ไปขายฝากไว้แก่ผู้อื่น แล้วสามีมาขอบอกล้างให้ทำลายนิติกรรมโดยอ้างว่าไม่ได้รับความยินยอมจากสามีนั้น เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ตาม ป.พ.พ.ม. 5 การบอกล้างไม่มีผล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิไม่สุจริตในการบอกล้างนิติกรรมขายฝากเมื่อสามีเคยยินยอมให้ภรรยาจำนองและไถ่ถอนที่ดินมาก่อน
สามีเคยให้ภรรยาเอาที่ดินไปจำนองและมอบเงินไปชำระดอกเบี้ย และไถ่ถอนมาหลายครั้งแล้ว. ภายหลังภรรยาเอาที่นี้ไปขายฝากไว้แก่ผู้อื่นอีก. แล้วสามีมาขอบอกล้าง ให้ทำลายนิติกรรมโดยอ้างว่าไม่ได้รับความยินยอมจากสามีนั้น.เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ตาม ป.พ.พ. ม.5 การบอกล้างไม่มีผล.(อ้างฎีกาที่ 468/2488).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองฝิ่น: ผู้ซื้อและควบคุมฝิ่นสุก แม้เป็นผู้รับเหมาส่งฝิ่นดิบ ก็ถือเป็นผู้ “มี” ฝิ่นตาม พ.ร.บ.ฝิ่น
จำเลยเป็นผู้ทำบัญชีในสถานที่รวบรวมฝิ่นย่อยของบริษัทซึ่งรับเหมาส่งฝิ่นดิบแก่กรมสรรพสามิตต์ ได้ควบคุมฝิ่นดิบของบริษัทโดยมีใบคุ้มครองกำกับมา แต่มีฝิ่นสุกซึ่งไม่ได้รับอนุญาตมาด้วย 11300 กรัม เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงว่าผู้ทำบัญชีได้เป็นผู้ไปซื้อฝิ่นนี้มาจากบนดอย และนำมาบรรจุหีบที่สถานที่รวมฝิ่นย่อยและได้เป็นผู้ควบคุมมาจนถูกจับ ดังนี้ย่อมเรียกได้ว่า จำเลยเป็นผู้ "มี" ตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ฝิ่นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองฝิ่น: ผู้ทำบัญชีซื้อฝิ่นเองถือเป็นผู้ 'มี' ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของกิจการรับเหมา
จำเลยเป็นผู้ทำบัญชีในสถานที่รวบรวมฝิ่นย่อยของบริษัทซึ่งรับเหมาส่งฝิ่นดิบแก่กรมสรรพสามิต ได้ควบคุมฝิ่นดิบของบริษัทโดยมีใบคุ้มครองกำกับมา แต่มีฝิ่นสุกซึ่งไม่ได้รับอนุญาตมาด้วย 11300 กรัม เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ทำบัญชีได้เป็นผู้ไปซื้อฝิ่นนี้มาจากบนดอย และนำมาบรรจุหีบที่สถานที่รวมฝิ่นย่อยและได้เป็นผู้ควบคุมมาจนถูกจับ ดังนี้ย่อมเรียกได้ว่า จำเลยเป็นผู้'มี'ตามความหมายแห่ง พระราชบัญญัติฝิ่นแล้ว
of 153