พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 412/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ สัญญาขายฝากไถ่ถอนหมดแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องอีก
คดีก่อนที่จำเลยฟ้องขอไถ่ถอนการขายฝากที่นา ซึ่งในสัญญาระบุว่าขายฝากกันทั้งแปลง (มี 83 ไร่เศษ) แม้ในฟ้องจะกล่าวว่าแบ่งขายฝากกัน 50 ไร่ แต่เมื่อโจทก์จำเลยได้ประนีประนอมยอมความกันโจทก์ยอมรับเงินค่าไถ่ครบถ้วนตามสัญญาขายฝาก ซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ โจทก์จะกลับมาฟ้องอีกว่า นาอีก 33 ไร่เศษจำเลยยังไม่ได้ขอไถ่นั้น เป็นการฟ้องซ้ำต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมออกจากที่เช่าเป็นสาระสำคัญของสัญญายอมความ หากไม่ยินยอม สัญญาเป็นโมฆะ
การที่ผู้ให้เช่าและผู้เช่าเคหะทำยอมกันว่า ผู้เช่ายอมออกไปภายในกำหนดวันแน่นอน ฝ่ายผู้ให้เช่ายอมจะชำระเงินให้หนึ่งหมื่นบาท และยอมให้ผู้เช่ารื้อสิ่งปลูกสร้างที่ผู้เช่าทำไว้ไป แต่แล้วผู้เช่ากลับไม่ยอมออกไป จนศาลต้องมีหมายจับมาขัง จึงยอมออกไปและเป็นเวลาล่วงเลยมาถึง 1 ปี 4 เดือน นับจากวันยอม ดังนี้ ถือว่าผู้เช่าและบริวารมิได้ออกจากที่เช่าไปโดยความยินยอม หรือสมัครใจ ผู้เช่าจะมาขอให้ศาลบังคับผู้ให้เช่าให้ปฏิบัติตามยอมมิได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2493)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามสัญญายอมความต้องเป็นไปโดยความยินยอมของผู้เช่า หากไม่ยินยอม สัญญาดังกล่าวไม่มีผลผูกพัน
การที่ผู้ให้เช่าและผู้เช่าเคหะทำยอมกันว่า ผู้เช่ายอมออกไปภายในกำหนดวันแน่นอน ฝ่ายผู้ให้เช่ายอมจะชำระเงินให้หนึ่งหมื่นบาทและยอมให้ผู้เช่ารื้อสิ่งปลูกสร้างที่ผู้เช่าทำไว้ไป แต่แล้วผู้เช่ากลับไม่ยอมออกไป จนต้องศาลมีหมายจับมาขัง จึงยอมออกไปและเป็นเวลาล่วงเลยมา ถึง 1 ปี 4 เดือน นับจากวันยอม ดังนี้ ถือว่าผู้เช่าและบริวารมิได้ออกจากที่เช่าไปโดยความยินยอม หรือสมัครใจ ผู้เช่าจะมาขอให้ศาลบังคับผู้ให้เช่าให้ปฏิบัติศาลยอมมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ดินก่อนพิจารณาความผิดฐานลักตัดไม้ ศาลต้องเปิดโอกาสสืบพยาน
คดีอาญาที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันลักตัดฟันต้นไม้ในที่ดินของโจทก์ เมื่อได้ความเพียงว่า ที่ดินนั้นโจทก์จำเลยได้เคยนำเจ้าพนักงานรังวัดเถียงสิทธิครอบครองกันอยู่ดังนี้ ศาลไม่ควรงดสืบพยานโจทก์ โดยเห็นไปว่าเป็นคดีแพ่ง ควรให้โอกาสโจทก์สืบให้สมฟ้องเพราะอาจเป็นความผิดทางอาญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพาทเรื่องการครอบครองที่ดิน และความผิดทางอาญา: การพิจารณาคดีอาญาควบคู่กับข้อพิพาททางแพ่ง
คดีอาญาที่โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันลักตัดฟันต้นไม้ในที่ดินของโจทก์ เมื่อได้ความเพียงว่า ที่ดินนั้นโจทก์จำเลยได้เคยนำเจ้าพนักงานรังวัดเถียงสิทธิครอบครองกันอยู่ ดังนี้ศาลไม่ควรงดสืบพะยานโจทก์โดยเห็นไปว่าเป็นคดีแพ่ง ควรให้โอกาสโจทก์สืบให้สมฟ้องเพราะอาจเป็นความผิดทางอาญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการแก้ไขข้อบกพร่องความสามารถของโจทก์ก่อนพิพากษาคดีขับไล่
การที่หญิงมีสามีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านและจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แม้จะปรากฏว่าโจทก์ฟ้องโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี และบ้านนั้นเป็นสินบริคณห์ ศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถไม่ควรจะยกมาตรา 1469 มายกฟ้องโจทก์เสียทีเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการแก้ไขข้อบกพร่องความสามารถของโจทก์ก่อนพิพากษาคดีขับไล่ แม้มีข้อจำกัดตามกฎหมาย
การที่หญิงมีสามีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านและจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ แม้จะปรากฏว่าโจทก์ฟ้องโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี และบ้านนั้นเป็นสินบริคณห์ ศาลก็มีอำนาจที่จะสั่งให้แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามรถไม่ควรจะยกมาตาา 1469 มายกฟ้องโจทก์เสียทีเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละเจตนาครอบครองที่ดิน และผลของการครอบครองปรปักษ์เมื่อมีการแย่งการครอบครอง
ที่มาไม่มีหนังสือสำคัญซึ่งเจ้าของผู้กู้ให้ยึดเป็นประกันต่างดอกเบี้ย สัญญาจะใช้เงินใน 3 ปี ถ้าพ้นกำหนดไม่ใช้เงินยอมให้ที่นาเป็นสิทธิแก่เจ้าของเงินนั้น เมื่อพ้น 3 ปีผู้กู้ไม่ใช้เงิน ถือว่า ผู้กู้สละเจตนาครอบคอรง แม้ข้อตกลงแต่แรกจะทำไม่ถูกต้องตามแบบก็ดี
ที่นามือเปล่า เจ้าของมีเพียงสิทธิครอบครอง มิใช่มีกรรมสิทธิ
การที่ถูกแย่งการครอบครองครั้งก่อน ๆ ซึ่งถึงแม้จะเกิน 1 ปีแต่เมื่อปรากฏว่า ผู้ถูกแย่งการครอบครองได้ร้องต่ออำเภอจนได้ผลข้าวในนาที่ถูกแย่งการครอบครองนันแล้ว ต่อมาถูกแย่งการครอบครองครั้งหลักยังไม่เกิน 1 ปีและผู้ถูกแย่งมาฟ้อง ดังนี้ ถือว่ายังไม่หมดสิทธิฟ้องร้อง
ที่นามือเปล่า เจ้าของมีเพียงสิทธิครอบครอง มิใช่มีกรรมสิทธิ
การที่ถูกแย่งการครอบครองครั้งก่อน ๆ ซึ่งถึงแม้จะเกิน 1 ปีแต่เมื่อปรากฏว่า ผู้ถูกแย่งการครอบครองได้ร้องต่ออำเภอจนได้ผลข้าวในนาที่ถูกแย่งการครอบครองนันแล้ว ต่อมาถูกแย่งการครอบครองครั้งหลักยังไม่เกิน 1 ปีและผู้ถูกแย่งมาฟ้อง ดังนี้ ถือว่ายังไม่หมดสิทธิฟ้องร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละเจตนาครอบครองที่ดิน และอายุความฟ้องแย่งการครอบครอง
ที่นาไม่มีหนังสือสำคัญซึ่งเจ้าของผู้กู้ให้ยึดเป็นประกันต่างดอกเบี้ยสัญญาจะใช้เงินใน 3 ปีถ้าพ้นกำหนดไม่ใช้เงินยอมให้ที่นาเป็นสิทธิแก่เจ้าของเงินนั้น เมื่อพ้น 3 ปีผู้กู้ไม่ใช้เงิน ถือว่า ผู้กู้สละเจตนาครอบครองแม้ข้อตกลงแต่แรกจะทำไม่ถูกต้องตามแบบก็ดี
ที่นามือเปล่า เจ้าของมีเพียงสิทธิครอบครอง มิใช่มีกรรมสิทธิ์
การที่ถูกแย่งการครอบครองครั้งก่อนๆ ซึ่งถึงแม้จะเกิน 1 ปี แต่เมื่อปรากฏว่า ผู้ถูกแย่งการครอบครองได้ร้องต่ออำเภอจนได้ผลข้าวในนาที่ถูกแย่งการครอบครองนั้นแล้ว ต่อมาถูกแย่งการครอบครองครั้งหลังยังไม่เกิน 1 ปีและผู้ถูกแย่งมาฟ้อง ดังนี้ ถือว่ายังไม่หมดสิทธิฟ้องร้อง
ที่นามือเปล่า เจ้าของมีเพียงสิทธิครอบครอง มิใช่มีกรรมสิทธิ์
การที่ถูกแย่งการครอบครองครั้งก่อนๆ ซึ่งถึงแม้จะเกิน 1 ปี แต่เมื่อปรากฏว่า ผู้ถูกแย่งการครอบครองได้ร้องต่ออำเภอจนได้ผลข้าวในนาที่ถูกแย่งการครอบครองนั้นแล้ว ต่อมาถูกแย่งการครอบครองครั้งหลังยังไม่เกิน 1 ปีและผู้ถูกแย่งมาฟ้อง ดังนี้ ถือว่ายังไม่หมดสิทธิฟ้องร้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้รับพินัยกรรมฟ้องขับไล่ผู้เช่า & การแก้ไขข้อบกพร่องอำนาจฟ้องของโจทก์หญิง
ผู้รับพินัยกรรมบ้านพิพาท ซึ่งเป็นคู่สัญญาผู้ให้เช่าโดยตรงกับจำเลยซึ่งเป็นผู้เช่า ทั้งได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าฯ ลงมติยินยอมให้ผู้ให้เช่าเข้าอยู่ได้ทั้งนี้แม้เจ้าของบ้านพิพาทเดิมซึ่งเป็นผู้ทำพินัยกรรมยกให้นั้นยังไม่ตาย ผู้รับพินัยกรรมดังกล่าวก็ย่อมมีสิทธิเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยได้
หญิงมีสามีที่ได้ยื่นฟ้องไว้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี หากสามีได้ทำใบยินยอมอนุญาตยื่นต่อศาลในระหว่างพิจารณา และศาลได้รับไว้ ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 แล้ว
หญิงมีสามีที่ได้ยื่นฟ้องไว้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี หากสามีได้ทำใบยินยอมอนุญาตยื่นต่อศาลในระหว่างพิจารณา และศาลได้รับไว้ ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 แล้ว