พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ซื้อที่ดินในการฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยอยู่เดิม และเรียกค่าเสียหายจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในที่ดิน
ผู้ซื้อที่ดินฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ดินนั้นได้ แม้สัญญาซื้อขายจะเกิดจากการกลฉ้อฉลหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับผู้อาศัย และหากผู้อาศัยทำให้เสียหายในที่ดินที่ได้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อย่อมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้อาศัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 212/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ซื้อที่ดินในการฟ้องขับไล่ผู้อาศัยเดิม และเรียกค่าเสียหายจากความเสียหายในที่ดิน
ผู้ซื้อที่ดินฟ้องขับไล่ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ดินนั้นได้แม้สัญญาซื้อขายจะเกิดจากการกลฉ้อฉลหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับผู้อาศัย และหากผู้อาศัยทำให้เสียหายในที่ดินที่ได้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อย่อมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้อาศัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาหลายวัน: การระบุเวลาในฟ้องที่ไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยวางเพลิงเผาเคหสถานและทรัพย์สมบัติของผู้อื่น โดยกล่าวว่า จำเลยกระทำผิด เมื่อระหว่างวันที่ 7 ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม 2492 เวลากลางวัน ศาลชั้นต้นได้เรียกโจทก์มาสอบถามว่า เหตุใดจึงกล่าวในฟ้องหลายวัน โจทก์แถลงว่าเพราะกลัวจะผิดวันเช่นนี้นับว่าโจทก์มิได้แสดงเหตุพิเศษอย่างใด ที่จะต้องกล่าวในฟ้องเช่นนี้ย่อมถือได้ว่า เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุช่วงเวลาความผิดในฟ้องอาญาที่ไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม หากไม่มีเหตุผลพิเศษ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยวางเพลิงเผาเคหะสถานและทรัพย์สมบัติของผู้อื่นโดยกล่าวว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อระหว่างวันที่ 7 ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม 2492 เวลากลางวัน ศาลชั้นต้นได้เรียกโจทก์มาสอบถามว่า เหตุใดจึงกล่าวในฟ้องหลายวัน โจทก์แถลงว่าเพราะกลัวจะผิดวัน เช่นนี้นับว่าโจทก์มิได้แสดงเหตุพิเศษอย่างใด ที่จะต้องกล่าวในฟ้องเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเงินค่าขายสินค้าที่เกินราคาควบคุมขัดต่อกฎหมาย เงินดังกล่าวไม่เข้าข่ายของกลางที่ต้องริบ
เงินราคาขายสิ่งของที่ขายเกินราคาควบคุมนั้นจะริบไม่ได้
ของกลางที่ศาลล่างริบโดยขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกาในข้อนี้ขึ้นมา เมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกาศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยได้
ของกลางที่ศาลล่างริบโดยขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกาในข้อนี้ขึ้นมา เมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกาศาลฎีกามีอำนาจวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเงินราคาขายสิ่งของเกินราคาควบคุมขัดต่อกฎหมาย และสิทธิการได้รับเงินรางวัลของผู้แจ้งเบาะแส
ิเงินราคาขายสิ่งของที่ขายเกินราคาควบคุมนั้นจะริบไม่ได้
ของกลางที่ศาลล่างริบโดยขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกาในข้อนี้ขึ้นมา เมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกา ๆ มีอำนาจวินิจฉัยได้
ของกลางที่ศาลล่างริบโดยขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย แม้จะไม่มีฝ่ายใดฎีกาในข้อนี้ขึ้นมา เมื่อคดีมาสู่ศาลฎีกา ๆ มีอำนาจวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยบาดเจ็บสาหัสและการห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
การที่จะวินิจฉัยว่าผู้ถูกกระทำร้ายถึงบาดเจ็บสาหัสโดยถึงความทุพพลภาพหรือพยาธิประกอบด้วยทุกข์เวทนากล้า เกินกว่า 20 วันหรือ ถึงไม่สามารถจะประกอบการหาเลี้ยงชีพโดยปกติเพราะความทุพพลภาพเกินกว่า 20 วัน เป็นการวินิจฉัยในข้อเท็จจริง (อ้างฎีกา 575/2488)
เมื่อศาลเดิมวินิจฉัยว่าเป็นบาดเจ็บสาหัส ตามมาตรา 256 ให้จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บทว่า ไม่ถึงสาหัสตามมาตรา 254 แต่ไม่ได้แก้โทษ ดังนี้ถือว่าเป็นแต่แก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
เมื่อศาลเดิมวินิจฉัยว่าเป็นบาดเจ็บสาหัส ตามมาตรา 256 ให้จำคุก 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บทว่า ไม่ถึงสาหัสตามมาตรา 254 แต่ไม่ได้แก้โทษ ดังนี้ถือว่าเป็นแต่แก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยบาดเจ็บสาหัสเป็นข้อเท็จจริง ห้ามฎีกาหากศาลอุทธรณ์แก้ไขโทษเล็กน้อย
การที่จะวินิจฉัยว่าผู้ถูกกระทำร้ายถึงบาดเจ็บสาหัส โดยถึงความทุพพลภาพหรือพยาธิประกอบด้วยทุกข์เวทนากล้าเกินกว่า 20 วันหรือถึงไม่สามารถจะประกอบการหาเลี้ยงชีพโดยปกติเพราะความทุพพลภาพเกินกว่า20 วัน เป็นการวินิจฉัยในข้อเท็จจริง(อ้างฎีกา 575/2488)
เมื่อศาลเดิมวินิจฉัยว่าเป็นบาดเจ็บสาหัส ตามมาตรา 256 ให้จำคุก2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บทว่า ไม่ถึงสาหัสตามมาตรา 254 แต่ไม่ได้แก้โทษ ดังนี้ ถือว่าเป็นแต่แก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
เมื่อศาลเดิมวินิจฉัยว่าเป็นบาดเจ็บสาหัส ตามมาตรา 256 ให้จำคุก2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บทว่า ไม่ถึงสาหัสตามมาตรา 254 แต่ไม่ได้แก้โทษ ดังนี้ ถือว่าเป็นแต่แก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้าราชการยักยอกเงินสโมสรทหาร หากเงินสโมสรเป็นของราชการ ความผิดฐานใช้อำนาจในทางทุจริต (มาตรา 131) จะร้ายแรงกว่าฐานยักยอก (มาตรา 319)
แม้จำเลยซึ่งเป็นข้าราชการมีหน้าที่เก็บเงินตามบิลเชื่อของสโมสรทหาร ซึ่งเป็นส่วนราชการแล้วยักยอกไป ถ้าโจทก์ไม่นำสืบให้ ปรากฎว่าสิ่งของที่สโมสรขายเชื่อนั้นจัดหาโดยเงินของทางราชการแล้ว จำเลยไม่ผิดมาตรา 131 คงผิดเพียงมาตรา 319(3) เท่านั้น
ศาลอุทธรณ์แก้บทและกำหนดโทษของศาลชั้นต้น เป็นการแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์แก้บทและกำหนดโทษของศาลชั้นต้น เป็นการแก้มาก ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้าราชการยักยอกเงินสโมสร: ความผิดฐานใช้อำนาจในทางทุจริต vs. ยักยอกทรัพย์
แม้จำเลยซึ่งเป็นข้าราชการมีหน้าที่เก็บเงินตามบิลเชื่อของสโมสรทหารซึ่งเป็นส่วนราชการแล้วยักยอกไป ถ้าโจทก์ไม่นำสืบให้ปรากฏว่าสิ่งของที่สโมสรขายเชื่อนั้นจัดหาโดยเงินของทางราชการแล้ว จำเลยไม่ผิดมาตรา 131 คงผิดเพียงมาตรา 319(3) เท่านั้น
ศาลอุทธรณ์แก้บทและกำหนดโทษของศาลชั้นต้น เป็นการแก้มากฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์แก้บทและกำหนดโทษของศาลชั้นต้น เป็นการแก้มากฎีกาในข้อเท็จจริงได้