พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการเริ่มนับอายุความ เมื่อเจ้าของเดิมไม่รู้การจดทะเบียนโอนขาย
ผู้ครอบครองที่ดินไม่รู้ว่าผู้อื่นเอาที่ที่ตนครอบครองไปจดทะเบียนโอนขายให้ผู้อื่นโดยไม่สุจริต แต่ได้ฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่วันรู้และจากถูกแย่งการครอบครอง ดังนี้แม้การโอนนั้นจะเกิน 1 ปีก็ไม่เกินกำหนดตาม ม.1375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการฟ้องแย่งการครอบครอง: เริ่มนับระยะเวลาเมื่อถูกแย่งการครอบครอง
ผู้ครอบครองที่ดินไม่รู้ว่าผู้อื่นเอาที่ที่ตนครอบครองไปจดทะเบียนโอนขายให้ผู้อื่นโดยไม่สุจริต แต่ได้ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันรู้และจากถูกแย่งการครอบครอง ดังนี้แม้การโอนนั้นจะเกิน 1 ปีก็ไม่เกินกำหนดตาม มาตรา1375
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในการควบคุมค่าเช่า และการเรียกค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการ
ผู้ให้เช่าเดิมตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯมาตรา 16(6)นั้นหมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์มาจากผู้ให้เช่าเดิมด้วย (อ้างฎีกาที่ 845/2490)
ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องแถวที่ให้เช่า ย่อมมีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อขอเข้าอยู่ในเคหะที่ให้เช่าได้
ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะผู้เช่าไม่ยอมออกจากเคหะที่เช่านั้น ผู้ให้เช่ามีสิทธิให้ชดใช้ได้ตั้งแต่วันครบกำหนดที่มติกรรมการให้ออกจนกว่าผู้เช่าจะออกไปโดยพิเคราะห์ถึงทำเลการค้าและผลกำไรของร้านใกล้เคียง แต่ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายก่อนได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการฯ นอกจากค่าเช่าที่ค้างเท่านั้น แต่ถ้าผู้ให้เช่าไม่ฟ้องเรียกค่าเช่า ศาลจะบังคับให้ใช้ค่าเสียหายแทนค่าเช่าไม่ได้
ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องแถวที่ให้เช่า ย่อมมีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อขอเข้าอยู่ในเคหะที่ให้เช่าได้
ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะผู้เช่าไม่ยอมออกจากเคหะที่เช่านั้น ผู้ให้เช่ามีสิทธิให้ชดใช้ได้ตั้งแต่วันครบกำหนดที่มติกรรมการให้ออกจนกว่าผู้เช่าจะออกไปโดยพิเคราะห์ถึงทำเลการค้าและผลกำไรของร้านใกล้เคียง แต่ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายก่อนได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการฯ นอกจากค่าเช่าที่ค้างเท่านั้น แต่ถ้าผู้ให้เช่าไม่ฟ้องเรียกค่าเช่า ศาลจะบังคับให้ใช้ค่าเสียหายแทนค่าเช่าไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้รับโอนกรรมสิทธิในการขอเข้าอยู่ในเคหะที่เช่า และการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้เช่าค้างชำระ
ผู้ให้เช่าเดิมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ มาตรา 16(6)นั้น หมายความถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิมาจากผู้เช่าเดิมด้วย
(อ้างฎีกาที่ 845/2490)
ผู้รับโอนกรรมสิทธิห้องแถวที่ให้เช่าย่อมมีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อขอเข้าอยู่ในในเคหะที่ให้เช่าได้
ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะผู้เช่าไม่ยอมออกจากเคหะที่เช่านั้น ผู้ให้เช่ามีสิทธิให้ชดใช้ได้ตั้งแต่วันครบกำหนดที่มติกรรมการให้ออกจนกว่าผู้เช่าจะออกไปโดยพิเคราะห์ถึงทำเล การค้าและผลกำไรของร้านใกล้เคียง แต่ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายก่อนได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการฯ นอกจากค่าเช่าที่ค้างเท่านั้น แต่ถ้าผู้ให้เช่าไม่ฟ้องเรียกค่าเช่า ศาลจะบังคับให้ใช้ค่าเสียหายแทนค่าเช่าไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 845/2490)
ผู้รับโอนกรรมสิทธิห้องแถวที่ให้เช่าย่อมมีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการฯ เพื่อขอเข้าอยู่ในในเคหะที่ให้เช่าได้
ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะผู้เช่าไม่ยอมออกจากเคหะที่เช่านั้น ผู้ให้เช่ามีสิทธิให้ชดใช้ได้ตั้งแต่วันครบกำหนดที่มติกรรมการให้ออกจนกว่าผู้เช่าจะออกไปโดยพิเคราะห์ถึงทำเล การค้าและผลกำไรของร้านใกล้เคียง แต่ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายก่อนได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการฯ นอกจากค่าเช่าที่ค้างเท่านั้น แต่ถ้าผู้ให้เช่าไม่ฟ้องเรียกค่าเช่า ศาลจะบังคับให้ใช้ค่าเสียหายแทนค่าเช่าไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละการครอบครองที่ดินเพื่อชำระหนี้: ถือเป็นการยกกรรมสิทธิ์ให้แก่เจ้าหนี้ได้
การที่โจทก์กู้เงินเอานาไม่มีหนังสือสำคัญให้สามีจำเลยยึดไว้เป็นประกัน สัญญาว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยในวันที่แน่นอน และมีกำหนด 1 เดือนถ้าไม่ชำระยอมยกนั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ โจทก์ไม่ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยในกำหนดดังกล่าว จำเลยครอบครองนาพิพาทถึงบัตนี้ได้ 6 ปีเศษแล้วดังนี้ ถือว่าโจทก์สละการครอบครองยกนาพิพาทให้จำเลยแทนการชำระหนี้แล้ว จะเรียกคืนไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 420/2490)
(อ้างฎีกาที่ 420/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 107/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละที่ดินเพื่อชำระหนี้: เจตนาสละการครอบครองถือเป็นการชำระหนี้แทนการคืนที่ดิน
การที่โจทก์กู้เงินเอานาไม่มีหนังสือสำคัญให้สามีจำเลยยึดไว้เป็นประกัน สัญญาว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยในวันที่แน่นอน และมีกำหนด 1 เดือน ถ้าไม่ชำระยอมยกนานั้นให้เป็นกรรมสิทธิ์ โจทก์ไม่ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยในกำหนดดังกล่าว จำเลยครอบครองนาพิพาทถึงบัดนี้ได้ 6 ปีเศษแล้ว ดังนี้ ถือว่าโจทก์สละการครอบครองยกนาพิพาทให้จำเลยแทนการชำระหนี้แล้ว จะเรียกคืนไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 420/2490)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเภทกระสุนปืน: ข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา
การที่วินิจฉัยว่ากระสุนปืนชนิดใดใช้ได้เฉพาะแต่ในการสงครามหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยต้องกันว่า กระสุนนั้นมิใช่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามแล้ว ฎีกาไม่ได้ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเภทกระสุนปืน: ปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา
การที่วินิจฉัยว่ากระสุนปืนชะนิดใดใช้ได้ฉะเพาะแต่ในการสงครามหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยต้องกันว่า กระสุนนั้นมิใช่ใช้ฉะเพาะแต่ในการสงครามแล้ว ฎีกาไม่ได้ต้องห้าม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีอาญา: ความล่าช้าในการขอ และหลักการไม่เปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์
จำเลยถูกฟ้องหลายสำนวน โจทก์เพิ่งจะมาขอให้นับโทษสำนวนแรกต่อกับโทษจำเลยในสำนวนที่ 5 ในชั้นอุทธรณ์ และขอให้เรียกตัวจำเลยมาสอบถามในชั้นศาลฎีกา ดังนี้แม้จำเลยจะเป็นคนเดียวกันจริง ศาลฎีกาก็ไม่นับโทษต่อให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อในคดีอาญา: ความล่าช้าในการขอ และเจตนาโจทก์มีผลต่อการพิจารณา
จำเลยถูกฟ้องหลายสำนวน โจทก์เพิ่งจะมาขอให้นับโทษสำนวนแรกต่อกับโทษจำเลยในสำนวนที่ 5 ในชั้นอุทธรณ์ และขอให้เรียกตัวจำเลยมาสอบถามในชั้นศาลฎีกาดังนี้ แม้จำเลยจะเป็นคนเดียวกันจริงศาลฎีกาก็ไม่นับโทษต่อให้