คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
นนทประชา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,529 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากขายฝากเป็นกู้เงิน ศาลอนุญาตได้หากประเด็นยังคงเป็นเรื่องเดียวกัน
เดิมโจทก์ฟ้องว่า ไปทำสัญญาต่ออำเภอขายฝากนาให้จำเลยขอให้จำเลยรับเงินและคืนนาให้โจทก์ แล้วโจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า ไม่ได้ทำสัญญาขายฝาก ความจริงได้ทำสัญญากู้เงินจำเลย มอบที่นาให้จำเลยยึดไว้เป็นประกันต่างดอกเบี้ย ดังนี้ ถือว่าคำขอแก้ฟ้องกับคำฟ้องเดิมมีความเกี่ยวข้องกัน ให้แก้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องคดีแพ่ง: ความเกี่ยวข้องกันของคำฟ้องเดิมและคำขอแก้ฟ้อง, การกู้ยืมเงินและยึดที่ดินเป็นประกัน
เดิมโจทก์ฟ้องว่า ไปทำสัญญาต่ออำเภอขายฝากนาให้จำเลย ขอให้จำเลยรับเงินและคืนนาให้โจทก์ แล้วโจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า ไม่ได้ทำสัญญาขายฝาก ความจริงได้ทำสัญญากู้เงินจำเลย มอบที่นาให้จำเลยยึดไว้เป็นประกันต่างดอกเบี้ย ดังนี้ ถือว่าคำขอแก้ฟ้องกับคำฟ้องเดิม มีความเกี่ยวข้องกัน ให้แก้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยืมเงินเพื่อย้ายครอบครัว ไม่ถือเป็นยักยอกหากไม่คืนเงิน
จำเลยยืมเงิน จำนวนหนึ่งไปเพื่อใช้จ่ายในการย้ายครอบครัว หากภายหลัง จำเลยไม่ย้ายครอบครัวหรือไม่คืนเงินนั้น ก็ไม่เป็นผิดฐานยักยอก เพราะถือว่าจำเลยไม่ได้รับมอบหมายเงินนั้นตามความหมายของกฎหมายลักษณะอาญาในเรื่องยักยอกอันต้องอาญา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยืมเงินเพื่อย้ายครอบครัว ไม่ถือเป็นยักยอก หากไม่คืนหรือไม่ย้าย
จำเลยยืมเงิน จำนวนหนึ่งไปเพื่อใช้จ่ายในการย้ายครอบครัวหากภายหลัง จำเลยไม่ย้ายครอบครัวหรือไม่คืนเงินนั้นก็ไม่เป็นผิดฐานยักยอก เพราะถือว่าจำเลยไม่ได้รับมอบหมายเงินนั้นตามความหมายของกฎหมายลักษณะอาญาในเรื่องยักยอกอันต้องอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2016/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าหุ้นด้วยการหักหนี้และการโอนหุ้นที่ไม่สมบูรณ์ไม่ผูกพัน
การใช้เงินค่าหนี้นั้นผู้ถือหุ้นจะหักหนี้กับบริษัทหาได้ไม่ ต้องชำระจนครบ
การโอนหุ้นนั้น หากเพียงแต่โอนหนี้ในทะเบียนของบริษัทลงชื่อแต่ผู้รับโอนฝ่ายเดียว ย่อมเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ.ม. 1129.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2016/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระค่าหุ้นด้วยการหักหนี้และการโอนหุ้นที่มิชอบ ทำให้การชำระหนี้ไม่สมบูรณ์และโอนหุ้นเป็นโมฆะ
การใช้เงินค่าหนี้นั้นผู้ถือหุ้นจะหักหนี้กับบริษัทหาได้ไม่ต้องชำระจนครบ
การโอนหุ้นนั้น หากเพียงแต่โอนหนี้ในทะเบียนของบริษัทลงชื่อแต่ผู้รับโอนฝ่ายเดียว ย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1129

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนของทหารเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการ ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
จำเลยซึ่งรับราชการทหารมีอาวุธปืนของราชการทหาร เพื่อนำไปปฏิบัติหน้าที่สารวัตรนั้น ถือว่าจำเลยมีไว้ทางราชการทหารไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แม้จะเอาปืนนั้นไปเพื่อก่อการร้ายก็ตาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อาวุธปืนของราชการทหาร: การครอบครองเพื่อปฏิบัติหน้าที่ย่อมไม่ผิด แม้มีเหตุสงสัยก่อการร้าย
จำเลยซึ่งรับราชการทหารมีอาวุธปืนของราชการทหาร เพื่อนำไปปฏิบัติหน้าที่สารวัตรนั้น ถือว่าจำเลยมีไว้ทางราชการทหารไม่มีความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต แม้จะเอาปืนนั้นไปเพื่อก่อการร้ายก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1918-1919/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสมคบกันปล้นทรัพย์และพยายามปล้นทรัพย์: ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น
คดีที่หาว่า จำเลยปล้นทรัพย์ 2 ราย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงดังข้อหาทั้ง 2 ราย พิพากษารวมกะทงให้จำคุกจำเลยคนละ 10 ปี ลดกึ่งหนึ่งคงเหลือ 5 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยพยายามปล้นทรัพย์รายเดียวพิพากษาแก้ให้จำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน ลด 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 4 ปี 5 เดือน 10 วัน ยกฟ้องรายหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1918-1919/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสมคบกันปล้นทรัพย์และการพยายามปล้นทรัพย์ ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น
คดีที่หาว่า จำเลยปล้นทรัพย์ 2 ราย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดจริงดังข้อหาทั้ง 2 รายพิพากษารวมกระทงให้จำคุกจำเลยคนละ 10 ปี ลดกึ่งหนึ่งคงเหลือ 5 ปี ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยพยายามปล้นทรัพย์รายเดียวพิพากษาแก้ให้จำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน ลด 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 4 ปี 5 เดือน 10 วัน ยกฟ้องรายหนึ่ง ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
of 153